ผู้บัญชาการทหารบก ไม่พูดศาลโลกตัดสินคำร้องเขมร อ้างสุ่มเสี่ยงเสียเปรียบ เชื่อกต. รัฐ พร้อมรับมือ ยันกองทัพรักษาอธิปไตยให้ดีที่สุด แต่อ้างประชาคมโลกมองไทยจริงใจแค่ไหน เผย "ประวิตร" ฝากบอกไม่เคยพูดรับหรือไม่รับใคร ชี้ทางแก้ปัญหาหากแพ้เพื่อนบ้าน 3 ประการ เชื่อมีทางออก
วันนี้ (8 มิ.ย.) ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2รอ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ ถึงการเตรียมมาตรการรองรับคำตัดสินของศาลโลกว่า เรื่องนี้สุ่มเสี่ยงที่เราจะพูดในเวลานี้ ต้องให้เวลาศาลโลกในการพิจารณา ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการใดๆก็ตาม เพราะเป็นการพูดคุยระหว่างหลายประเทศด้วยกัน รวมทั้งในส่วนของมรดกโลกที่จะมีการพูดคุยกันในปลายเดือนนี้ ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงการต่างประเทศและรัฐบาลเตรียมการรับมืออยู่แล้ว แต่การที่เราจะไปพูดอะไรออกไป ถ้าพูดก่อนหรือทำอะไรก่อนก็สู้เขาไม่ได้ บางเรื่องก็ต้องเห็นใจกัน ถามมาบางครั้งก็ตอบไม่ได้จริงๆ เพราะเป็นเรื่องของการปฎิบัติงานและจะเกิดปัญหาในอนาคตและสุ่มเสียงต่อการเสียเปรียบเขา แต่รับรอบว่าในส่วนของฝ่ายความมั่นคง กระทรวงกลาโหม กองทัพจะทำให้ดีที่สุดและจะรักษาอธิปไตยของเราให้ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่าลืมว่าเราอยู่ในสายต่อของสังคมโลก อาเซียน จะทำอะไรก็ตามเขาก็มองว่าเราให้ความจริงใจอะไรแค่ไหน เพราฉะนั้นท่าทีต่างๆของการแสดงออกก็ต้องฟังเขาบ้าง ถ้าไม่ฟังเขาเลย การแสดงความคิดเห็นอะไรก็ตามบางที่ซึ่งที่พูดไปแล้วไม่ตรงกัน ออกไปแล้วจะทำให้ประเทศเราเสียหาย ความน่าเชื่อถือหมดไป ในขณะเดียวกันอีกฝ่ายเขาพูดเป็นภาษาเดียวกันทั้งหมด
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ปัญหาทุกปัญหามีทางออก มีหนทางแก้ไข ทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ฝากตนมามาเรียนกับสื่อว่า ท่านไม่เคยพูดว่าจะรับหรือไม่รับใคร เพราะฉะนั้นอย่าเอาคำพูดของท่านมากล่าวอ้างว่าเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ เพราะเสียหาย
.เมื่อถามว่า หากศาลโลกตัดสินคุ้มครองและให้มีการถอนทหารจะดำเนินการอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของมาตรการ ซึ่งการแก้ปัญหามีอยู่ 2 - 3 ประการ ทั้งในเรื่องของประเทศเพื่อนบ้าน สมาชิกอาเซียน หรือยูเอ็น ต้องแก้เป็น 3มิติด้วยกัน คือ1.การแก้ทางด้านการเมืองทั้งในและต่างประเทศ 2.ทางการทูต 3. การทหาร คือมาตรการหลังสุดที่จะใช้กำลังต่อกัน ตนคิดว่าอันตรายเพราะอย่างไรก็เป็นเพื่อนบ้านกัน จะหาทางออกกันอย่างไรถ้าต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน ต้องมีทางออก และจะต้องหาให้ได้เพราะเราจะรบกันจนตายไม่ได้อยู่แล้ว ส่วนเรื่องการกระทบกระทั่งก็ต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดขึ้นโดยความจำเป็น แต่ถ้าจำเป็น มีการกระทบกระทั่ง มีการรุกล้ำอธิปไตยก็ต้องทำกัน เพราะเราคงยอมให้มีการรุกล้ำอธิปไตยไม่ได้อยู่แล้ว
“ผมขอร้องก็แล้วกัน พูดกันมาหลายครั้งแล้วเรื่องเขาพระวิหาร ผมกลัวว่าจะเสียหาย จะทำให้มุมมองในอาเซียนด้วยกันเสียหายรวมทั้งคณะกรรมการต่างๆที่จะมองเราว่า ทำไมพูดกันคนละภาษากันหมดเลย ซึ่งน่าจะมาคุยเป็นภาษาเดียวกันและหาทางออกกันให้ได้ ผมเข้าใจว่าเป็นห่วงประเทศชาติกัน”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
