ยะลา - รมต.กลาโหม ควง ผบ.ทบ.ลงพื้นที่ประชุมความติดตามการดำเนินงาน ในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และติดตามความคืบหน้าคดีสำคัญ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่
วันนี้ (9 พ.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น.ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 2 อาคารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ ลงพื้นที่ประชุมความติดตามการดำเนินงาน ในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และติดตามความคืบหน้าคดีสำคัญ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ทั้งนี้ มี พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัตน์ แม่ทัพภาคภาคที่ 4 พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชุชัยยะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายภาณุ อุทัยรัตน์ รองเลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้ว่าราชการทั้ง 3 จังหวัด ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และข้าราชการฝ่ายพลเรือน ที่มี่สวนเกี่ยวข้อง เข้าร่วมในการประชุม
หลังจากนั้น เวลาประมาณ 15.30 น.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะฯจะเดินทางไปยังโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ที่ 40 จ.ปัตตานี เพื่อร่วมกิจกรรมพบปะเครือข่ายองค์กรภาคประชาชนเพื่อสันติ และเศรษฐกิจพอเพียงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ อีกทั้งร่วมกิจกรรมปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาส ครบรอบ 7 รอบ 84 พรรษา ซึ่งรับผิดชอบโดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ที่ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2554 โดยมีส่วนร่วมของพลังภาคประชาชน เครือข่ายองค์กรภาคประชาชน เยาวชน จากโครงการทำดีมีอาชีพ และเยาวชนจากโครงการญาลันนันบารู ร่วมกับสภาสันติสุขตำบล เป็นต้น
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวในที่ประชุม ว่า การที่ตนเอง พร้อมคณะ เดินทางลงมาในพื้นที่ครั้งนี้ เพื่อติดตามการดำเนินงานในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ พร้อมทั้งได้กำชับการปฏิบัติงานให้กับแม่ทัพภาคที่ 4 และเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหา เพื่อให้การแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีระบบ ซึ่งจะสามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาได้ถูกทาง ถูกวิธี เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความสงบสุข สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข
ส่วนการติดตามคดีสำคัญในพื้นที่ ได้กำชับให้ทางหน่วยกำลังในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และ ฝ่ายปกครอง มีการบรูณาการร่วมกัน เพื่อติดตามจับกุม ผู้ที่ก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่ มาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็ว ซึ่งจะสามารถลดความหวาดระแวง ให้กับประชาชนในพื้นที่
ส่วนการลดความหวาดระแวงระหว่างพี่น้องชาวไทยพุทธ และพี่น้องชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ หลังจากเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่อย่างต่อเนื่องนั้น ตนเองได้มอบหมายให้ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เร่งทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่แล้ว
