ผบ.ทบ.สั่งเพิ่มข่าวกรอง คุมเข้มสารระเบิดใต้ - ชี้ตั้งทบวงมั่นคงเรื่องอนาคต

ผู้บัญชาการทหารบกเผยสั่งเพิ่มข่าวกรองเข้มงวดสารวัตถุระเบิด ป้องกันโจรใต้ใช้ประกอบบึ้ม เชื่อกลุ่มก่อการได้อาวุธจากนอกประเทศ ยันชง “มาร์ค” ตั้งทบวงมั่นคงสู้ภัยคุกคาม ใน 10-20 ปี อย่ากังวลทหารสืบทอดอำนาจ แต่ชี้เป็นได้แบบยุโรปก็ดี เหตุรวมหน่วยความมั่นคงทั้งหมดขึ้นตรงรัฐ

วันนี้ (8 มิ.ย.) ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ถึงการดูแลสารตั้งต้นที่จะนำไปผลิตวัตถุระเบิดก่อเหตุในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ว่า ตนได้มีการสั่งการเพิ่มเติมไปแล้ว เรื่องแรกคือ งานด้านข่าวกรอง โดยจะมีส่วนที่ติดตามดูแลเกี่ยวกับเรื่องวัตถุระเบิด สารตั้งต้น องค์ประกอบของวัตถุระเบิด ซึ่งทุกอย่างต้องได้รับการควบคุมตามกฎหมาย ซึ่งตนได้สั่งการให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (กอ.รมน.) เข้าไปดูแลมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการซื้อขาย เคลื่อนย้าย การใช้งาน เพราะไม่อยากให้มีการรั่วไหลทั้งในและที่มาจากต่างประเทศ ทั้งนี้จากการตรวจสอบขั้นต้นวัตถุระเบิดต่างๆ ทั้งหมดใช้ในกิจการเกี่ยวกับ การสร้าง โรงโม่หินต่างๆ ก็มีอยู่ แต่จะเข้าไปกวดขันให้มากขึ้น ในส่วนของระเบิดนั้นเราไม่ได้นิ่งนอนใจอยู่แล้ว สิ่งที่เราได้ติดตามมาโดยตลอดคือความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับขบวนการผิดกฎหมาย ซึ่งมีแนวโน้มว่ามีส่วนเกี่ยวข้องมากและเราก็กำลังดำเนินการอยู่

เมื่อถามว่า ในส่วนที่เกี่ยวกับการก่อสร้างได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทุกคนต้องมาช่วยกัน ในส่วนของ กอ.รมน.ภาค4 ก็ดูในนามของ กองกำลังผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร (พตท.) ในส่วนของการควบคุมก็เป็นอีกหน่วยงานหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นในสายของผู้ว่าราชการจังหวัด หรือในส่วนของกระทรวง ทบวง กรมอื่นๆ มีมาตรการควบคุมอยู่แล้ว มีกฎหมายที่ชัดเจนอยู่แล้วในการดูแล เราเพียงแต่เข้าไปดูแลให้การควบคุมมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เมื่อถามว่า มีแนวคิดที่จะจัดตั้งทบวงความมั่นคง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนได้นำเสนอนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เป็น ผอ.กอ.รมน. โดยคิดว่าภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ในปัจจุบันมีความซับซ้อนและกว้างขวางมากขึ้น โดยมองจากสถานการณ์โลก ไม่ได้มองจากเหตุการณ์ในประเทศของเราเพียงอย่างเดียว จึงได้มีการหารือกันและนำเสนอไปว่าในอนาคต อีก 5 ปีหรือ 10 ปี ซึ่งไม่ใช่ในตอนนี้ เพราะเป็นไปไม่ได้ ซึ่งวันนี้เรามี กอ.รมน. คือการเริ่มต้นโดยมีหน่วยงานภายนอก คือ พลเรือน ตำรวจ ทหารเข้ามาทำงาน ซึ่งไม่ใช่ กอ.รมน.รูปแบบเดิม แต่อาจจะมองกันว่ามีทหารเป็นหลักจำนวนมากในการทำงาน ซึ่งก็ถือว่ายังมีความจำเป็นในการทำงานอยู่ เพราะหน่วยทหารในปัจจุบันมีความพร้อมรวมทั้งบุคลากร เพราะฉะนั้นการตั้งต้นของ กอ.รมน.จึงเริ่มต้นโดยทหารเป็นผู้ที่ดำเนินงานในการขับเคลื่อน

“ประเทศเราต้องคิดถึงวันข้างหน้า แต่วันนี้เราคิดแค่วันนี้กับอดีตที่ผ่านมา แล้วเราจะอยู่กันอย่างไรทำไมเราไม่คิดถึงอนาคตบ้าง เรื่องการตั้งทบวงความมั่นคงเป็นเรื่องในอนาคต 10-20 ปี หรืออาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ อย่าพึ่งไปกังวลว่าทหารจะมาสืบทอดอำนาจกันอีกหรือไม่ แค่นี้ยังมาพออีกหรือ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า สิ่งที่ทหารทำกันมาจนถึงทุกวันนี้ ก็เพื่อให้งานต่างๆ ของประเทศชาติเป็นไปโดยดี โดยมีทหารคอยสนับสนุน ดูแลให้ เมื่อเข้มแข็งพอก็มีผู้รับผิดชอบไป ถ้าเป็นทบวงได้ก็ดี ทหารก็ไม่โดนกล่าวหาว่าเป็นคนที่ครองอำนาจอยู่ องค์กรนี้ไม่ใช่ของทหาร แต่เป็นของรัฐบาล และเราก็จะสนับสนุนให้ สิ่งที่ตนนำเสนอไปนั้นเพราะเห็นตัวอย่างมาจากต่างประเทศ แถวยุโรป เขามีทบวงนี้ และจะรวบรวมหน่วยงานความมั่นคงทั้งหมดมาอยู่ และมีการปกครองการบังคับบัญชาและท้ายที่สุดก็เป็นเรื่องของรัฐบาลที่จะดูแลกำหนดนโยบาย ไม่ใช่ทหาร ในส่วนของ กอ.รมน.ก็ยุบไป

เมื่อถามว่า ต้องใช้เวลาในการปรับระบบนานแค่ไหน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ยังไม่รู้ เป็นเรื่องอนาคต ขึ้นอยู่กับภัยคุกคาม ถ้ามีความซับซ้อนมากขึ้น หน่วยงานปัจจุบันคือ กอ.รมน. รับมือไม่ไหว ก็ต้องมีการปรับปรุง ตนจึงคิดว่าเป็นจำเป็น แต่วันนี้ กอ.รมน.ยังรับมือไหวอยู่ แต่เรื่องนี้ตนทำขึ้นเพื่ออนาคต ซึ่งถ้าเรามัวแต่หยุดตัวเองไว้ตรงนี้ และเอาปัญหามาตีกันตรงนี้ โดยไม่คิดถึงวันข้างหน้า ตนคิดว่าอนาคตประเทศชาติอันตราย จะทำอะไรก็แล้วแต่ต้องคิดถึงวันข้างหน้าว่าจะอยู่กันอย่างไร บ้านเมืองเป็นอย่างไรในสังคมโลก

เมื่อถามว่า คนร้ายใช้เอ็ม 79 ยิงถล่ม สภ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า มีการกวดขันมาโดยตลอด เขาต้องการทำลายเจ้าหน้าที่ที่เป็นกลุ่มก้อน ในช่วงการก่อเหตุเป็นการรวมพลของตำรวจ ตนจึงได้กำชับไปแล้วว่าให้ระวังเรื่องการรวมพล เพราะเป็นเป้าหมายที่มีความเสี่ยง และเป็นเป้าหมายที่มีจำนวนมากต่อการก่อเหตุรุนแรง อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้มีการพิสูจน์ทราบว่าอาวุธเหล่านั้นมาจากไหน คาดว่ามาจากนอกบ้านเรา และถ้ามีการใช้มากขึ้นก็อันตราย เพราะมีการตรวจสอบยาก แต่ก็ให้มีการกวดขันและได้สั่งให้มีการตั้งจุดตรวจ สกัด รวมทั้งตรวจดูกล้องซีซีทีวี ยังใช้การได้อยู่หรือไม่ มีหลักฐานหรือไม่ คิดว่าอีกไม่นานก็จะได้ข้อมูล