ASTVผู้จัดการรายวัน-ผู้แทน 24 ชาติจับตาเลือกตั้งไทย ส่ง 30 คนแรกเข้าไทยวันนี้ กกต.ใช้ “นักเรียน กศน.”7.9 หมื่นคน เป็นกรรมการหน่วยเลือกตั้ง เผยอาจเพิ่มหน่วยเลือกตั้งลงคะแนนล่วงหน้า
วานนี้( 6 มิ.ย.) ที่โรงแรมปริ้นซ์พาเลซ นายประพันธ์ นัยโกวิท คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ให้สัมภาษณ์ว่า การจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ ทางกกต.หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เมื่อการเลือกตั้งเสร็จสิ้นทุกฝ่ายยอมรับผลการเลือกตั้ง ดังนั้น กกต. จึงต้องร่วมมือกับหลายหน่วยงาน เพื่อช่วยให้การเลือกตั้งครั้งนี้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ซึ่งหนึ่งในหน่วยงานที่ร่วมกับกกต. ได้แก่ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ทั้งนี้ ทางกศน. จะจัดส่งนักศึกษาเข้าร่วมเป็นกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง หน่วยละ 1 คน โดย ทางกกต.เห็นว่ากลุ่มนักศึกษาเป็นผู้บริสุทธิ์ เหมือนผ้าขาว เชื่อว่าหากเข้ามาทำหน้าที่เป็นกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งจะช่วยทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ต่อข้อถามที่ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เริ่มส่อให้เห็นถึงความรุนแรงที่เพิ่มมากขึ้น ทางกกต.จะจัดการอย่างไรนายประพันธ์ กล่าวว่า ภาพรวมการเลือกตั้งครั้งนี้ ยังไม่รุนแรงมากนัก ซึ่งทางกกต.กลาง ได้ประสานให้เจ้าหน้าที่กกต.จังหวัด ตรวจดูว่าพื้นที่ใดเริ่มมีความรุนแรง ก็ให้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ หากพบว่าพื้นที่ใดมีการกระทำผิดกฎหมายการเลือกตั้ง ซื้อสิทธิ์ขายเสียง ก็ขอให้ดำเนินการตามกฎหมายทันที นอกจากนี้ หากผู้สมัครลงเลือกตั้งรายใดเห็นว่าตนเองเริ่มไม่มีความปลอดภัย ก็ขอให้แจ้งมายังกกต.จังหวัด เพื่อประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาดูแลความปลอดภัย
เมื่อถามว่าขณะนี้มีการทำลายป้ายหาเสียงเป็นจำนวนมาก จนกลายเป็นเรื่องฮิตไปแล้วนั้น กกต.จะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร นายประพันธ์ กล่าวว่า การทำลายป้ายหาเสียงถือเป็นความผิดทางกฎหมายอาญา ซึ่งในส่วนนี้ทางสำนักสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัยของกกต. ได้ตรวจสอบอยู่ ดังนั้น หากผู้สมัครรายใดพบเห็นว่าคนของพรรคตน ได้กระทำการดังกล่าวก็ขอให้ห้ามปราม
“การหาเสียงครั้งนี้ ควรเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขอให้ผู้สมัครและพรรคการเมือง ช่วยเตือนมวลชนของตนเองว่าอย่ากระทำผิดกฎหมายการเลือกตั้ง โดยเฉพาะการทำลายป้ายหาเสียงเลือกตั้ง ทุกคนควรช่วยกันทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปด้วยความยุติธรรมและโปร่งใส เพื่ออนาคตของประเทศ”
ผู้สื่อข่าวถามว่ากระแสข่าวว่ามีผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ เรียกกำนัน และผู้ใหญ่บ้านชักจูงให้ประชาชนเลือกพรรคการเมืองหนึ่ง นายประพันธ์ กล่าวว่า สำหรับเจ้าหน้าที่ข้าราชการ กกต. ได้กำชับให้วางตัวเป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด หรือเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคการเมือง การเป็นข้าราชการควรวางตัวเป็นกลาง ปฏิบัติหน้าที่ไปตามกฎหมาย ฉะนั้น หากประชาชน หรือผู้ใดพบเห็นหรือมีข้อมูลหลักฐาน ก็ขอให้แจ้งมายังกกต. ซึ่งกกต.จะพิจารณาไปตามกฎหมาย
ส่วนเรื่อง กกต.เป็นห่วงเรื่องการจัดการเลือกตังล่วงหน้าหรือไม่ หลังมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงทะเบียนขอให้สิทธิ์จำนวนมาก นายประพันธ์ กล่าวว่า การลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัด พบว่ามีผู้มาลงทะเบียนจำนวน 2.8 ล้านคน ดังนั้น เมื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งมาลงทะเบียนแล้ว ควรไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 26 มิ.ย. เพราะในวันที่ 3 ก.ค.นั้นไม่สามารถไปเลือกตั้งได้ นอกจากนี้ กกต. ยังได้มีการหารือกับกกต.จังหวัด ว่า เมื่อถึงวันลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าที่เหลือเพียง 1 วันเท่านั้น อาจมีการเพิ่มหน่วยเลือกตั้ง เพิ่มเจ้าหน้าที่ ทั้งหมดนี้ทางกกต.ได้ให้สิทธิ์กกต.จังหวัดเป็นผู้พิจารณา หากจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์มีจำนวน และอาจทำให้เจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอต่อผู้มาใช้สิทธิ์
**กศน. ส่งนักศึกษาร่วมเป็นกก.หน่วย
นายประเสริฐ บุญเรือง เลขาธิการสำนักงานส่งเสริม การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) กล่าวว่า กกต. ได้ประสานมายัง กศน. ว่าอยากให้นักศึกษากศน. ไปร่วมเป็นกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง เป็น 1ใน 7 คน ที่เป็นคนนอกน จากหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด 94,000 หน่วย และส่วนตัวเชื่อว่า กลุ่มนักศึกษาที่ทางกศน.คัดเลือกมานั้นมีความซื่อสัตย์สุจริต และไม่เอนเอียงเข้าข้างพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ทั้งนี้ยืนยันว่า จะไม่มีนักศึกษาคนใดมีความเชื่อมโยงกับพรรคการเมือง หากใครทำผิดจะต้องถูกปรับตกในวิชานั้นทันที
**ผู้สมัคร กทม. 33 เขต ปฏิญาณพันธะ 5 ข้อ
วันเดียวกัน ที่ เจ.เจ.มอลล์ เขตจตุจักร สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร (กกต.กทม.) จัดโครงการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์ ผู้รับสมัครรับเลือกตั้งส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 33 เขต "รู้รักสามัคคี มีน้ำใจ ไม่สำคัญผิดในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย" โดยมีนายวิสุทธิ์ โพธิแท่น กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการการมีส่วนร่วม นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. พล.ต.ต.สุเทพ รมยานนท์ ประธาน กกต.กทม. พร้อมผู้สมัคร ส.ส. 33 เขตมาร่วมงาน
นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ควรสร้างสมานฉันท์ การเลือกตั้งที่เป็นแบบอย่างให้แก่เด็กเยาวชนที่กำลังมีเลียนแบบจากผู้ใหญ่หลากหลาย ถ้าเราตั้งใจจริงทำให้การเมืองปกครองโปร่งใสสุจริตเที่ยงธรรม แข่งขันตรงไปตรงมาละเว้นเอารัดเอาเปรียบด่าทอกัน ย่อมเป็นแบบอย่างให้แซ่ซ้องสรรเสริญจากคนทั่วไปและเยาวชนที่จะเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า
จากนั้นพล.ต.ต.สุเทพ ได้นำผู้สมัครรับเลือกตั้งลุกขึ้นกล่าวคำปฏิญาณต่อหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์ โดยขอให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งให้พันธะสัญญา คือ จะไม่ทำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง จะปฏิบัติบทบัญญัติกฎหมายระเบียบ ประกาศอันเกี่ยวกับการเลือกตั้ง อย่างเคร่งครัด จะไม่ใช้กลไกของรัฐ หรือทรัพยากรของรัฐ มาเป็นประโยชน์ในการหาเสียงเลือกตั้ง จะหาเสียงเลือกตั้งโดยสันติวิธี ไม่ข่มขู่คุกคามผู้แข่งขันด้วยวิธีการใดๆและไม่ใช้วิธีการรุนแรงในการหาเสียงเลือกตั้ง และจะยอมรับผลการเลือกตั้ง ตามที่ประชาชนได้แสดงเจตนารมณ์ในการเลือกตั้งอย่างจริงใจ
**ผู้แทน 24 ชาติจับตาเลือกตั้งไทย
เครือข่ายเอเชียเพื่อการเลือกตั้งเสรี (อันเฟรล : ANFREL) ได้ออกแถลงการณ์ต่อกรณีการเลือกตั้งของประเทศไทย ว่า ได้ส่งตัวแทนซึ่งเป็นผู้สังเกตการณ์ จากประเทศต่างๆ 24 ประเทศ รวม 60 คน ลงพื้นที่ 77 จังหวัดของประเทศไทย เพื่อสังเกตการณ์การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 ก.ค.นี้ โดยคณะผู้สังเกตการณ์รอบแรกจำนวน 30 คน จะเริ่มลงพื้นที่ตั้งแต่วันที่7 มิ.ย.นี้
วานนี้( 6 มิ.ย.) ที่โรงแรมปริ้นซ์พาเลซ นายประพันธ์ นัยโกวิท คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ให้สัมภาษณ์ว่า การจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ ทางกกต.หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เมื่อการเลือกตั้งเสร็จสิ้นทุกฝ่ายยอมรับผลการเลือกตั้ง ดังนั้น กกต. จึงต้องร่วมมือกับหลายหน่วยงาน เพื่อช่วยให้การเลือกตั้งครั้งนี้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ซึ่งหนึ่งในหน่วยงานที่ร่วมกับกกต. ได้แก่ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ทั้งนี้ ทางกศน. จะจัดส่งนักศึกษาเข้าร่วมเป็นกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง หน่วยละ 1 คน โดย ทางกกต.เห็นว่ากลุ่มนักศึกษาเป็นผู้บริสุทธิ์ เหมือนผ้าขาว เชื่อว่าหากเข้ามาทำหน้าที่เป็นกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งจะช่วยทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ต่อข้อถามที่ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เริ่มส่อให้เห็นถึงความรุนแรงที่เพิ่มมากขึ้น ทางกกต.จะจัดการอย่างไรนายประพันธ์ กล่าวว่า ภาพรวมการเลือกตั้งครั้งนี้ ยังไม่รุนแรงมากนัก ซึ่งทางกกต.กลาง ได้ประสานให้เจ้าหน้าที่กกต.จังหวัด ตรวจดูว่าพื้นที่ใดเริ่มมีความรุนแรง ก็ให้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ หากพบว่าพื้นที่ใดมีการกระทำผิดกฎหมายการเลือกตั้ง ซื้อสิทธิ์ขายเสียง ก็ขอให้ดำเนินการตามกฎหมายทันที นอกจากนี้ หากผู้สมัครลงเลือกตั้งรายใดเห็นว่าตนเองเริ่มไม่มีความปลอดภัย ก็ขอให้แจ้งมายังกกต.จังหวัด เพื่อประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาดูแลความปลอดภัย
เมื่อถามว่าขณะนี้มีการทำลายป้ายหาเสียงเป็นจำนวนมาก จนกลายเป็นเรื่องฮิตไปแล้วนั้น กกต.จะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร นายประพันธ์ กล่าวว่า การทำลายป้ายหาเสียงถือเป็นความผิดทางกฎหมายอาญา ซึ่งในส่วนนี้ทางสำนักสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัยของกกต. ได้ตรวจสอบอยู่ ดังนั้น หากผู้สมัครรายใดพบเห็นว่าคนของพรรคตน ได้กระทำการดังกล่าวก็ขอให้ห้ามปราม
“การหาเสียงครั้งนี้ ควรเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขอให้ผู้สมัครและพรรคการเมือง ช่วยเตือนมวลชนของตนเองว่าอย่ากระทำผิดกฎหมายการเลือกตั้ง โดยเฉพาะการทำลายป้ายหาเสียงเลือกตั้ง ทุกคนควรช่วยกันทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปด้วยความยุติธรรมและโปร่งใส เพื่ออนาคตของประเทศ”
ผู้สื่อข่าวถามว่ากระแสข่าวว่ามีผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ เรียกกำนัน และผู้ใหญ่บ้านชักจูงให้ประชาชนเลือกพรรคการเมืองหนึ่ง นายประพันธ์ กล่าวว่า สำหรับเจ้าหน้าที่ข้าราชการ กกต. ได้กำชับให้วางตัวเป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด หรือเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคการเมือง การเป็นข้าราชการควรวางตัวเป็นกลาง ปฏิบัติหน้าที่ไปตามกฎหมาย ฉะนั้น หากประชาชน หรือผู้ใดพบเห็นหรือมีข้อมูลหลักฐาน ก็ขอให้แจ้งมายังกกต. ซึ่งกกต.จะพิจารณาไปตามกฎหมาย
ส่วนเรื่อง กกต.เป็นห่วงเรื่องการจัดการเลือกตังล่วงหน้าหรือไม่ หลังมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงทะเบียนขอให้สิทธิ์จำนวนมาก นายประพันธ์ กล่าวว่า การลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัด พบว่ามีผู้มาลงทะเบียนจำนวน 2.8 ล้านคน ดังนั้น เมื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งมาลงทะเบียนแล้ว ควรไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 26 มิ.ย. เพราะในวันที่ 3 ก.ค.นั้นไม่สามารถไปเลือกตั้งได้ นอกจากนี้ กกต. ยังได้มีการหารือกับกกต.จังหวัด ว่า เมื่อถึงวันลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าที่เหลือเพียง 1 วันเท่านั้น อาจมีการเพิ่มหน่วยเลือกตั้ง เพิ่มเจ้าหน้าที่ ทั้งหมดนี้ทางกกต.ได้ให้สิทธิ์กกต.จังหวัดเป็นผู้พิจารณา หากจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์มีจำนวน และอาจทำให้เจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอต่อผู้มาใช้สิทธิ์
**กศน. ส่งนักศึกษาร่วมเป็นกก.หน่วย
นายประเสริฐ บุญเรือง เลขาธิการสำนักงานส่งเสริม การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) กล่าวว่า กกต. ได้ประสานมายัง กศน. ว่าอยากให้นักศึกษากศน. ไปร่วมเป็นกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง เป็น 1ใน 7 คน ที่เป็นคนนอกน จากหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด 94,000 หน่วย และส่วนตัวเชื่อว่า กลุ่มนักศึกษาที่ทางกศน.คัดเลือกมานั้นมีความซื่อสัตย์สุจริต และไม่เอนเอียงเข้าข้างพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ทั้งนี้ยืนยันว่า จะไม่มีนักศึกษาคนใดมีความเชื่อมโยงกับพรรคการเมือง หากใครทำผิดจะต้องถูกปรับตกในวิชานั้นทันที
**ผู้สมัคร กทม. 33 เขต ปฏิญาณพันธะ 5 ข้อ
วันเดียวกัน ที่ เจ.เจ.มอลล์ เขตจตุจักร สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร (กกต.กทม.) จัดโครงการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์ ผู้รับสมัครรับเลือกตั้งส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 33 เขต "รู้รักสามัคคี มีน้ำใจ ไม่สำคัญผิดในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย" โดยมีนายวิสุทธิ์ โพธิแท่น กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการการมีส่วนร่วม นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. พล.ต.ต.สุเทพ รมยานนท์ ประธาน กกต.กทม. พร้อมผู้สมัคร ส.ส. 33 เขตมาร่วมงาน
นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ควรสร้างสมานฉันท์ การเลือกตั้งที่เป็นแบบอย่างให้แก่เด็กเยาวชนที่กำลังมีเลียนแบบจากผู้ใหญ่หลากหลาย ถ้าเราตั้งใจจริงทำให้การเมืองปกครองโปร่งใสสุจริตเที่ยงธรรม แข่งขันตรงไปตรงมาละเว้นเอารัดเอาเปรียบด่าทอกัน ย่อมเป็นแบบอย่างให้แซ่ซ้องสรรเสริญจากคนทั่วไปและเยาวชนที่จะเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า
จากนั้นพล.ต.ต.สุเทพ ได้นำผู้สมัครรับเลือกตั้งลุกขึ้นกล่าวคำปฏิญาณต่อหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์ โดยขอให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งให้พันธะสัญญา คือ จะไม่ทำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง จะปฏิบัติบทบัญญัติกฎหมายระเบียบ ประกาศอันเกี่ยวกับการเลือกตั้ง อย่างเคร่งครัด จะไม่ใช้กลไกของรัฐ หรือทรัพยากรของรัฐ มาเป็นประโยชน์ในการหาเสียงเลือกตั้ง จะหาเสียงเลือกตั้งโดยสันติวิธี ไม่ข่มขู่คุกคามผู้แข่งขันด้วยวิธีการใดๆและไม่ใช้วิธีการรุนแรงในการหาเสียงเลือกตั้ง และจะยอมรับผลการเลือกตั้ง ตามที่ประชาชนได้แสดงเจตนารมณ์ในการเลือกตั้งอย่างจริงใจ
**ผู้แทน 24 ชาติจับตาเลือกตั้งไทย
เครือข่ายเอเชียเพื่อการเลือกตั้งเสรี (อันเฟรล : ANFREL) ได้ออกแถลงการณ์ต่อกรณีการเลือกตั้งของประเทศไทย ว่า ได้ส่งตัวแทนซึ่งเป็นผู้สังเกตการณ์ จากประเทศต่างๆ 24 ประเทศ รวม 60 คน ลงพื้นที่ 77 จังหวัดของประเทศไทย เพื่อสังเกตการณ์การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 ก.ค.นี้ โดยคณะผู้สังเกตการณ์รอบแรกจำนวน 30 คน จะเริ่มลงพื้นที่ตั้งแต่วันที่7 มิ.ย.นี้
