xs
xsm
sm
md
lg

โชคร้ายหรือโชคดี?

เผยแพร่:   โดย: ราวี เวียงพยัคฆ์

เริ่มออกมาตีกันแล้วว่าหลังวันที่ 3 กรกฎาคม พรรคการเมืองใดสมควรที่จะได้เป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาล ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ประธานพรรครักษ์สันติ เสนอว่า ควรที่จะเป็นพรรคขนาดกลาง เพื่อลดความคัดแย้ง

เชื่อว่าข้อเสนอดังกล่าวไม่มีใครรับฟัง เพราะ หนึ่ง พรรคขนาดใหญ่ต่างก็ต้องการเป็นแกนในการจัดตั้งรัฐบาล สอง คนพูดคือ ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ไม่มีบารมีพอที่พรรคการเมือง นักการเมืองอื่นๆ นอกจากในพรรคของ ร.ต.อ.ปุระชัยเองจะเชื่อถือ แม้จะมีความพยายามที่จะทำให้ผู้คนในสังคมคิดว่า เป็นคนซื่อสัตย์ เที่ยงตรงประดุจไม้บรรทัด สังคมก็เห็นแล้วว่าตอนที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในรัฐบาลทักษิณนั้น ร.ต.อ.ปุระชัยปฏิบัติตัวอย่างไร เมื่อถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจกรณีที่นักการเมืองเอาที่ดินที่นางเนื่อม ชำนาญชาติศักดิ์ดา ถวายวัดมาปู้ยี่ปู้ยำจนกลายเป็นสนามกอล์ฟอัลไพน์

พรรคการเมืองที่ได้เสียงอันดับหนึ่งเท่านั้นที่สมควรจะเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล

ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช หัวหน้าพรรคกิจสังคม เคยจัดตั้งรัฐบาล เป็นนายกรัฐมนตรีโดยที่พรรคกิจสังคมของท่านมีเพียง 18 เสียง นั่นก็เป็นหลังจากที่พรรคประชาธิปัตย์ โดยม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช จัดตั้งรัฐบาล 4 พรรคมาแล้ว แต่ไม่ผ่านสภาภายหลังจากแถลงนโยบายต่อ หรือที่นายชวน หลีกภัย จัดตั้งรัฐบาลทั้งที่เสียงน้อยกว่าพรรคความหวังใหม่ นั่นก็เป็นภายหลังจากที่รัฐบาลพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ เจอคลื่นลมทางเศรษฐกิจ นอกจากไม่สามารถทำให้ประเทศมั่นคง ประชาชนมั่งคั่งอย่างที่เคยคุยเอาไว้ ประเทศชาติกลับเจอวิกฤตเศรษฐกิจ ประเทศชาติย่ำแย่ ประชาชนหมดเนื้อหมดตัว รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์จึงเกิดขึ้น นายชวน หลีกภัย จึงได้เป็นนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2

รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พรรคประชาธิปัตย์ นี่ก็เถอะ เลือกตั้งเสร็จก็ต้องปล่อยให้พรรคพลังประชาชนจัดตั้งรัฐบาล และเมื่อนายสมัคร สุนทรเวช หลุดจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรีในกรณีรับจ้างแสดงฝีมือทำกับข้าวออกโทรทัศน์ ก็ยังเป็นโอกาสของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี

รอกระทั่งพรรคพลังประชาชนถูกยุบ และมี ส.ส.จำนวนหนึ่งเดินออกจากพรรคพลังประชาชน (ซึ่งถูกยุบและเปลี่ยนมาเป็นพรรคเพื่อไทย) นั่นดอก พรรคประชาธิปัตย์จึงรวบรวมเสียงข้างมากในสภา พรรคประชาธิปัตย์จึงได้มีโอกาสเป็นแกนในการจัดตั้งรัฐบาล และถ้าหากวันนั้นพรรคเพื่อไทยยังมีความสามารถรวบรวมได้เสียงข้างมาก ทำให้พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ชนะนายอภิสิทธิ์ ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็ต้องเป็นของพล.ต.อ.ประชา (สงครามไพร่โค่นอำมาตย์ ก็คงไม่เกิดเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองปี 2552 และ 2553 ก็คงไม่เกิดข้ออ้างเรียกร้องให้ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ เพื่อให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยก็คงจะไม่เกิดขึ้นอีกนั่นแหละ)

เพราะฉะนั้น ปัญหาว่าพรรคการเมืองขนาดไหน ได้เสียงมากน้อยอย่างไรจะเป็นฝ่ายที่ได้จัดตั้งรัฐบาล

ใครจะเป็นนายกรัฐมนตรี หลังวันที่ 3 กรกฎาคม ก็มองเห็นกันอยู่ในขณะนี้ พรรคประชาธิปัตย์ โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ค่อนข้างมั่นใจว่าจะได้เสียงข้างมาก ได้จัดตั้งรัฐบาลอีก พรรคเพื่อไทยซึ่งเสนอนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาเป็นนายกรัฐมนตรี นั่นก็ค่อนข้างมั่นใจ

ดูจากโพลวัดจากกระแสนายกรัฐมนตรี หลังวันที่ 3 กรกฎาคมนี้ ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหนีไม่พ้นคนใดคนหนึ่งในสองคนนี้อย่างค่อนข้างจะแน่นอน

นับว่าเป็นโชคร้ายของประเทศไทยอย่างยิ่ง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นั่นเป็นมาแล้ว 2 ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างรักษาการ ก่อนเป็นนายกรัฐมนตรีหน่วยก้านดูดี เป็นคนหนุ่ม การศึกษาดี ชาติตระกูลดี แต่ 2 ปีที่เป็นนายกรัฐมนตรีเห็นชัดเจนว่า ดีแต่พูด ทำงานไม่เป็นชิ้นเป็นอัน น้ำท่วมภาคใต้ไปเมืองกาญจน์ ไปนครปฐม ไปดูแลน้ำท่วมอีสาน น้ำไม่ถึงเอว ใส่เสื้อชูชีพ (เออ ถ้าหากเป็นนายสาธิต วงศ์หนองเตย ว่าไปอย่าง) น้ำท่วมภาคใต้อีกที ลงไปดูน้ำท่วมต้องมีคนคอยพยุง 4-5คน ดูทุลักทุเลเป็นอย่างยิ่ง ส่วนคำพูดคำจาที่บอกว่า พูดเก่งนั้น จำคำพูดตัวเองไม่ได้ วันนี้พูดอย่างนี้ รุ่งขึ้นพูดอีกอย่าง

ส่วนนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั่นก็เห็นจะพอๆ กันในเรื่องการพูดการจา เพราะโคลนนิ่งมาจากทักษิณ ด้วยเหตุนี้ เธอจึงระมัดระวังคำพูดคำจาเป็นการใหญ่ จะไม่พูดอะไรมากนอกจากยิ้มให้หวานเข้าไว้ แล้วก็ท่องคำว่า ไม่แก้แค้น แต่จะแก้ไข สมานฉันท์ ปรองดอง

ท่องอย่างนี้ทุกที่ ทุกเวที

แต่บังเอิญยังมีผู้คนไม่ลืมว่า นางสาวยิ่งลักษณ์นั้นเคยเป็นพยานให้กับทักษิณในคดีที่อัยการร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองให้ยึดทรัพย์ ทักษิณ ในคำพิพากษานั้น ศาลฎีกาตัดสินชัดเจนว่า คำให้การของนางสาวยิ่งลักษณ์นั้น เชื่อไม่ได้

พูดกันอย่างตรงไปตรงมาก็คือ พยานเท็จ

คนเขาอาจจะลืมไปแล้วละ ถ้าหากทักษิณไม่คิดจะเอาน้องสาวมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศไทย แต่พอจะเป็นนายกรัฐมนตรี ผู้คนก็นึกขึ้นได้ พยานเท็จ ถ้าหากเป็นคดีแพ่งก็ติดคุก 3 ปี คดีอาญาก็ 3-7 ปี

ไม่ทราบว่าคดีของนางสาวยิ่งลักษณ์ศาลท่านจะเมตตาปรานีระดับไหน

ก็ต้องคอยดูกันต่อไป

โชคร้ายหรือโชคดีของประเทศไทย ครับ พ่อแม่พี่น้อง
กำลังโหลดความคิดเห็น