“ศิลปอาชา” สุมหัวนินทานายกฯ เสนอ กกต.ออกกฎเหล็กคุมเลือกตั้ง ห้ามดึงสถาบันมาเกี่ยวโยงการเมือง ชี้ ไปจำกัดสิทธิเสรีภาพในการหาเสียง ตามรัฐธรรมนูญไม่ได้ แต่สามารถดำเนินคดีได้หากปราศรัยพาดพิง เผย มีพรรคการเมืองบางพรรคพิมพ์เอกสารขึ้นมา แอบอ้างว่าได้รับพระบรมราชานุญาต ชทพ.เปิดตัว “ประดิษฐ์-วินัย” 21 เม.ย.นี้
วันนี้ (18 เม.ย.) ที่พรรคชาติไทยพัฒนา นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายกฯจะให้ กกต.ออกกฎห้ามดึงเรื่องสถาบันมาโยงมาเกี่ยวกับการเมือง ว่า ไม่รู้ว่าเรื่องจะก้าวไปไกลแค่ไหน ความจริงเรื่องสถาบันเราก็ไม่ควรที่จะไปพูดถึง แต่ความจงรักภักดีมีทุกคน แต่จะแสดงออกทางไหนเท่านั้นเอง แต่จะเอามาเกี่ยวกับเรื่องการเมืองคงไม่เหมาะสม เมื่อถามว่า กกต.จะออกเป็นข้อห้ามในการเลือกตั้ง นายบรรหาร กล่าวว่า ตนไปชี้แนะไม่ได้ เป็นเรื่องทางการ ดูความเหมาะอยู่ตรงไหน แต่ถ้ามาพัวพันการเมืองคงไม่ดี แต่ถ้าความจงรักภักดีส่วนตัวเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เมื่อถามว่า เห็นด้วยหรือไม่ที่ กกต.จะประกาศห้ามใช้สถาบันเลือกตั้งในช่วงหาเสียง นายบรรหาร กล่าวว่า คงไม่ประกาศต้องคุยอีกเยอะ การยุบพรรคไม่ใช่เรื่องง่าย กกต.ก่อนจะทำอะไรต้องหารือกับพรรคการเมืองด้วย และเชิญพรรคการเมืองมาประชุมด้วย คงไม่กล้าคงไปสั่งการแบบนั้น
ด้าน นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า ความจริงเข้าใจกันผิด และคนละประเด็นการหาเสียงเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่ต้องทำ ไปห้ามไม่ได้ กกต.ไม่มีสิทธิไปห้ามหาเสียง ส่วนเขาจะหาเสียงอย่างไรเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ใครก็ตามที่ไปพูดจาหมิ่นประมาท ก็ต้องดำเนินตามกฎหมายอาญา ส่วน กกต.จะไปพ่วงว่าจะยุบพรรค ตนว่าเกินไป แต่ถ้านายกฯ หรือใครทำผิดกฎหมายอาญาก็ดำเนินการกับเขาไป ส่วนสิทธิการหาเสียงเป็นไปตามรัฐธรรมนูญไปห้ามไม่ได้ แต่อย่าทำในลักษณะที่ว่ากล่าวหาเข้าข้อกฎหมายอาญา หมิ่นประมาทไม่ว่าจะเป็นบุคคลใดก็ตามผิดทั้งนั้น โดยเฉพาะสถาบันอยู่เหนือทุกสิ่งทุกอย่าง”
เมื่อถามว่า จะหารือกับนายกฯหรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่า เป็นเรื่องที่พูดกันใน ครม.คือหนังสือของราชเลขาฯแจ้งถึงนายกฯ และก็แจ้งให้ ครม.ทราบเป็นเรื่องที่ว่ามีพรรคการเมืองได้ไปพิมพ์เอกสารขึ้นมาแล้ว บอกว่า ได้รับพระบรมราชานุญาต ทางราชเลขาฯก็ตอบหนังสือปฏิเสธมาบอกว่าไม่เคยมีพระบรมราชานุญาตแก่ผู้ใด ไม่ว่าพรรคการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น จบอยู่แค่นั้นเอง ส่วนใครไปพูดหมิ่นประมาทสถาบันก็ต้องไปดำเนินกฎหมายอาญา แต่การหาเสียงก็เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและระบอบประชาธิปไตย ต้องแยกออกเป็น 3 ประเด็น คือ 1.การหาเสียง 2.การพูดหาเสียงหมิ่นประมาทก็ต้องรับผิดชอบไป 3.ใครไปแอบอ้างว่าได้รับพระบรมราชานุญาตก็เป็นอีกเรื่อง
“เวลานี้สังคมกำลังเข้าใจกันผิด เอามารวมเป็นอันเดียวกันหมด กกต.ก็เต้นไปกับเขาด้วยจะออกเป็นกฎเหล็ก ทำอะไรก็อย่าขวางประชาธิปไตยก็แล้วกัน ทุกคนต้องส่งเสริมประชาธิปไตย รวมทั้ง กกต.ด้วย ไม่ใช่พยายามจำกัดสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ โดยอาศัยรัฐธรรมนูญออกข้อโน้น ข้อนี้ ขึ้นมา ไม่ถูกต้อง ปฏิรูปรัฐธรรมนูญต่อไปก็คงต้องดูแลองค์กรอิสระ” นายชุมพล กล่าว
เมื่อถามว่า นายกฯเป็นคนขยับในเรื่องนี้ นายชุมพล กล่าวว่า ไม่รู้ว่า นายกฯขยับลักษณะไหนแล้วก็ออกไปรวมๆ กัน คือ ที่พูดกันใน ครม.เพียงแต่บอกว่าให้เลขา ครม.ทำเรื่องไปถึง กกต.ก็แล้วกัน ถ้าใครไปแอบอ้างว่าได้รับพระบรมราชานุญาตก็ขอให้ดำเนินการ เรื่องไม่น่าจะไกลถึงขนาดนี้ ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต อย่างไรก็ตาม พรรคชาติไทยพัฒนายืนอยู่บนจุดประชาธิปไตยต้องการต่อยอดการพัฒนาประชาธิปไตยของเมืองไทยไม่ให้ถอยหลัง ประชาธิปไตยจะไปได้ไม่ว่าประเทศไหนต้องอยู่ระบบของพัฒนาการไม่ใช่ระบบการฆ่าตัดตอน ไม่เช่นนั้นก็ไม่โตสักที ประชาธิปไตยต้องอดทนหน่อย ให้บทเรียนเป็นตัวชะล้างเอง พรรคชาติไทยพัฒนา หลังจากนี้ จะทำอย่างไรให้เกิดความสามัคคี ปรองดองเกิดขึ้นในชาติให้ได้ ทุกฝ่ายอย่ายืนบนข้างที่ตัวเองได้เปรียบ และไม่ลงมาแก้ไขอะไรเลย สังคมไทยสมัยก่อนมี ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตนายกฯพูดอะไรสังคมฟังหมด แต่เดี๋ยวนี้สังคมไทยพูดอะไรไปไม่มีใครฟัง คนที่พอพูดได้ สังคมฟังก็ไปถือข้างเขาอีก ปัญหาก็กระดอนไปข้างบน เพราะฉะนั้นต้องมีคนแก้ ความไม่เป็นธรรมในสังคมยังมีอยู่ ต้องแก้ ไม่เช่นนั้นก็ถือฝ่าย ถือหางกันอยู่อย่างนี้
เมื่อถามว่า จะเปิดตัว นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง หรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่า นายประดิษฐ์ ก็เป็นส่วนหนึ่ง ส่วนคนอื่นมีแน่นอน แต่ยังไม่ชัดเจน ส่วน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ยังไม่มีใครติดต่ออย่างเป็นทางการ แต่พูดคุยกันในฐานะเพื่อนกัน เมื่อถามว่า กลุ่ม นายสนธยา คุณปลื้ม อดีต ส.ส.ชลบุรี ที่แยกตัวจากพรรคภูมิใจไทยจะกลับมาอยู่กับพรรคหรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุย แต่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของพรรคชาติไทยเก่า แม้ไม่ได้มาอยู่กับเราก็มีสายเลือดที่แน่นแฟ้น การดำเนินการทางการเมืองบางครั้งไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันหรือบ้านเดียวกันก็ได้
นายชุมพล กล่าวว่า เชื่อมั่นว่า มีการเลือกตั้งแน่นอน สถานการณ์ขณะนี้ยังไม่มีสิ่งที่จะบอกเหตุ หรือน้ำหนักเพียงพอที่จะไม่มีการเลือกตั้ง บ้านเมืองเราตอนนี้ต้องเดินทางไปสู่ครรลองประชาธิปไตยให้มากที่สุด และเร็วที่สุด ปัญหาและอุปสรรคในการเลือกตั้งน่าจะไม่มีแล้ว ปัญหาเสื้อเหลือง เสื้อแดงไม่มีแล้วตอนนี้ เคลียร์กันแล้ว ดังนั้น วิกฤตที่จะเกิดขึ้นมานำไปสู่จุดที่ไม่มีการเลือกตั้งยังมองไม่เห็นเลย เพราะสถานการณ์ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคมกำลังเดินไปด้วยดี ปล่อยให้การเมืองต่อเนื่อง อย่าไปฆ่าตัดตอน ไม่ดี เพราะฉะนั้นเลือกตั้งมีแน่นอน และวันเลือกตั้ง 26 มิ.ย.แน่นอน
เมื่อถามว่า พรรคชาติไทยพัฒนากับพรรคภูมิใจไทยยังจับมือกันเหมือนเดิมหรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่า เราทำสัญญาประชาคมต่อหน้าสื่อและสังคม เรายืนยัดอยู่ในสัญญาที่ให้กันไว้ตลอดไป ไม่มีเปลี่ยนแปลง ถ้าเป็นรัฐบาลก็ไปด้วยกัน เมื่อถามว่าถ้าเป็นฝ่ายค้านก็ไปด้วยกันหรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่า ยกเว้นเรื่องเดียวถ้ามีแฟนหรือเมียต้องแยกกัน
นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ในวันที่ 21 เม.ย.เวลา 08.30 น.จะมีพิธีต้อนรับ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง และ นายวินัย ภัทรประสิทธิ์ ส.ส.พิจิตร โดยจะมีสมาชิกพรรคมาต้อนรับ โดยมี นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา มาร่วมดัน นอกจากนี้ ก็จะทยอยเปิดตัวสมาชิกใหม่เรื่อยๆ