xs
xsm
sm
md
lg

“เทพไท” เย้ย พท.เนื้อหาน้อยซักฟอก 2 วันพอ แนะดู ASTV ถ้าข้อมูลไม่พอ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เทพไท เสนพงศ์ (แฟ้มภาพ)
“เทพไท” โวรัฐบาลอยากปิดเกมซักฟอกเร็ว คาด 9 มี.ค.อภิปรายได้ เย้ยเนื้อหามีน้อยใช้เวลาแค่ 2 วัน น่าจะจบ พร้อมแนะให้ดู ASTV ถ้ายังมีข้อมูลไม่เพียงพอ ไม่หวั่นเพื่อแม้วเปิดตัวผู้สมัคร ดึงคน ปชป.ร่วมก๊วน อ้างแค่สีสันทางการเมือง แนะจับตา “ทักษิณ” จัดทัพเลือกตั้งส่งแกนนำแก๊งแดงเผาเมืองสวมแทนนายทหารรุ่น 10

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย ได้ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี พร้อมรัฐมนตรีรวม 10 คน ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า เป็นเรื่องที่ดีที่จะมีความชัดเจนในกรณีนี้เสียที หลังจากที่เงื้อง่าราคาแพงมานานแล้ว แต่เสียดายที่ในสัปดาห์นี้มีวาระการพิจารณางบกลางปี 54 ในวาระที่ 2 และ 3 ค้างอยู่จึงไม่สามารถบรรจุญัตตินี้ได้ทันที ซึ่งนายกฯเองก็มีความพร้อมที่จะตอบคำถามทันทีเช่นกัน โดยอยากให้เกมการอภิปรายไม่ไว้วางใจปิดเกมเร็วที่สุด ดังนั้น จึงสามารถเปิดการอภิปรายได้ในสัปดาห์หน้า หลังจากที่พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดงานระดมทุนเพื่อเตรียมการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 8 มี.ค.ผ่านไปแล้ว ฉะนั้น หากไม่ผิดตามที่คาด วันที่ 9 มี.คงจะสามารถเปิดการอภิปรายซักฟอกรัฐบาลได้ทันที จึงอยากให้พรรคเพื่อไทยเตรียมข้อมูลไว้ให้พร้อม ถ้ายังไม่มีข้อมูลตามที่คุยโวไว้ ก็ยังมีเวลาที่จะนั่งเก็บข้อมูลจากหน้าจอเอเอสทีวี เพื่อนำมาอภิปรายไม่ไว้วางใจผสมกับข้อมูลตัดแปะที่ได้จากหน้าสื่อหนังสือพิมพ์ได้

“ถ้าดูเนื้อหาการอภิปรายซักฟอกรัฐบาลใน 5 วัน ก็จะเป็นการอภิปรายแบบน้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง ถ้าเอาแต่เนื้อๆ ไม่มีน้ำ ก็คงใช้เวลาอภิปรายไม่เกิน 2 วัน เพราะฉะนั้นจึงอยากให้พรรคเพื่อไทยคำนึงถึง ความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง การใช้เวลาอภิปรายถึง 5 วัน จะสิ้นเปลืองงบประมาณการถ่ายทอดสดโดยใช่เหตุ หนำซ้ำยังทำให้ประชาชนเกิดความเบื่อหน่าย การทำหน้าที่ ส.ส.ฝ่ายค้านในลักษณะแสดงจำอวด เพื่อโชว์หน้าตา ผ่านจอทีวีให้ชาวบ้านในเขตเลือกตั้งได้เห็นหน้าว่าทำงานประสบผลสำเร็จแล้ว”

นายเทพไท กล่าวถึงกรณีโฆษกพรรคเพื่อไทย ประกาศเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครของพรรค 300 คน โดยระบุว่า จะมีคนของพรรคประชาธิปัตย์จะเข้าร่วมสมัครในนามพรรคเพื่อไทยด้วยนั้น ว่า ไม่เคยทราบมาก่อนว่าคนของพรรคที่จะย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทยมีใครบ้าง ถ้าจะอ้าง นายยุทธพงษ์ จรัสเสถียร อดีต ส.ส.ของพรรค ก็เป็นการย้ายไปนานแล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไร และถ้าจะอ้างถึงคนในตระกูลไชยนันท์ ที่จะเข้าร่วมพรรคเพื่อไทย ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ในทางการเมือง เพราะในแต่ละตระกูลก็มีคนจำนวนมาก ซึ่งอาจมีความคิดเห็นทางการเมืองที่ต่างกัน เป็นเรื่องธรรมดา และเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่ควรเคารพ

“ในอดีตคนตระกูลเดียวกันที่อยู่คนละพรรคการเมืองก็มีมากมาย ตั้งแต่ ยุค ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช อยู่พรรคประชาธิปัตย์กับ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อยู่พรรคกิจสังคม หรือคนในตระกูลสภาวสุ หรือแม้แต่ตระกูลเวชชาชีวะ เองก็มีคนสังกัดอยู่ใน 2 พรรคการเมือง ที่คนละฝ่ายมาแล้วทั้งนั้น จึงไม่ใช่เรื่องประหลาดที่คนพรรคประชาธิปัตย์จะตื่นตระหนกกับการเปิดตัวคนของตระกูลไชยนันท์ ที่จะไปอยู่กับพรรคเพือ่ไทย จะได้เป็นสีสันทางการเมือง ก็ขอให้พรรคเพื่อไทยเปิดตัวออกมาให้ชัดเจน จะทำให้พรรคการเมืองอื่นๆ จะสามารถสรรหานักการเมืองคนอื่นมาประกบเพื่อเป็นคู่แข่งขันที่สมน้ำสมเนื้อกัน”

นายเทพไท กล่าวว่า กรณีที่บรรดาแกนนำ นปช.ประกาศตัวว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในนามพรรคเพื่อไทยนั้น ตนก็ขอให้พรรคเพือไทยประกาศตัวแกนนำ นปช.ให้ชัดเจนว่ามีใครบ้างที่จะลงสมัคร และลงสมัครในระบบเขตเลือกตั้งหรือระบบบัญชีรายชื่อ ถ้าต้องการจะพิสูจน์ศรัทธาว่าการเคลื่อนไหวของตัวเองจะได้รับการสนับสนุนจากประชาชนหรือไม่ อย่างไร ก็อยากให้พรรคเพื่อไทยกำหนดให้บุคคลเหล่านี้ลงสมัคร ส.ส.ในระบบเขตเลือกตั้ง เพื่อจะได้พิสูจน์ความสามารถของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายขวัญชัย ไพรพนา ฯลฯ สามารถเลือกลงสมัครในพื่นที่บ้านเกิดหรือพื้นที่ กทม.ก็ได้ ไม่อยากให้ไปซุกซ่อนตัวในระบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งเป็นการอาศัยใบบุญพรรคที่ประชาชนไม่สามารถปฏิเสธ หรือคัดเลือกตัวผู้สมัครเป็นรายบุคคลได้ หากแต่ว่าคนพวกนี้ขี้ขลาดตาขาวไม่กล้าลงสมัครในระบบเขต ยืนกรานว่าจะลงสมัครในระบบบัญชีรายชื่อเท่านั้น

“ที่ผ่านมา บรรดาแกนนำเตรียมทหารรุ่น 10 ที่เคยตบเท้ายืนยันมาแสดงความจงรักภักดีให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เกือบ 100 คน จะจัดให้อดีตนายทหารเหล่านี้ไปอยู่ที่ไหนของระบบการเลือกตั้ง และพวกส.ส.ระบบเขตเลือกตั้งที่หายไปกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคเพื่อไทยจะให้ความสำคัญอย่างไร เมื่อเทียบกับแกนนำ นปช.ที่เผาบ้านเผาเมืองมาแล้ว”
กำลังโหลดความคิดเห็น