xs
xsm
sm
md
lg

BWG มั่นใจQ2ฟอร์มยังสวย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุวัฒน์ เหลืองวิริยะ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) หรือ BWG ผู้ประกอบธุรกิจบัดบัดกากอุตสาหกรรมอย่างครบวงจรเปิดเผย ถึงแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2 ปีนี้ คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสแรกและขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนได้ ตามทิศทางการเติบโตของธุรกิจบำบัดกากอุตสาหกรรมที่ได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมของประเทศ สนับสนุนให้ปริมาณกากอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับนโยบายลดปัญหามลพิษของกระทรวงอุตสาหกรรมได้เพิ่มความเข้มในการผลักดัน ให้ภาคอุตสาหกรรมต้องจัดการกากอุตสาหกรรมให้เป็นระบบ จึงทำให้มีกากอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะเข้าบำบัดตามกระบวนการที่ถูกต้องเพิ่มมากขึ้น ซึ่งถือว่าส่งผลดีต่อบริษัทฯ โดยตรง
โดยปี 51 ประเทศไทย มีกากอุตสาหกรรมทั้งที่อันตรายและไม่อันตรายรวมกันประมาณ 17 ล้านตัน จากนั้นได้เพิ่มขึ้นเป็น 21 ล้านตันในปี 52 และเพิ่มขึ้นเป็น 26.8 ล้านตันในปี 53 และปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 20% จากปีก่อน ขณะที่บริษัทสามารถบำบัดกากอุตสาหกรรมทั้ง 2 ประเภทรวมกันประมาณ 2.7 แสนตันต่อปี ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับปริมาณกากอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นในแต่ละปี ถึงแม้ว่าปัจจุบัน BWG ถือเป็นเป็นผู้มีส่วนแบ่งเป็นอันดับ 1 ในธุรกิจบำบัดกากอุตสาหกรรม คิดเป็น 70-80% ของปริมาณกากอุตสาหกรรมที่บำบัดตามกระบวนการที่ถูกต้องก็ตาม
" หากรัฐสามารถเข้มงวดให้โรงงานนำกากอุตสาหกรรมมาบำบัดตามกระบวนการได้เพิ่มขึ้น ก็จะทำให้บริษัทฯ ได้รับผลดีทันที เนื่องจาก BWG เป็นผู้ประกอบการรายเดียวที่มีกระบวนการรองรับการบำบัดกากอุตสาหกรรมอย่างครบวงจร ทั้งฝังกลบ นำกลับมาใช้ใหม่ และการเผา โดยทุกกระบวนการได้มาตรฐานของกรมโรงงานอุตสาหกรรม และเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่รายเดียวที่ยังดำเนินธุรกิจอยู่ตามปกติในปัจจุบัน "
นายสุวัฒน์กล่าวอีกว่า เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มธุรกิจบำบัดกากอุตสาหกรรมที่มีทิศทางเติบโตต่อเนื่อง BWG จึงได้เตรียมลงทุนเพิ่มด้วยการเตรียมก่อสร้างหลุมฝังกลบเพิ่มเติม ลงทุนในระบบกำกับดูแลและความคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อม รวมทั้งระบบอำนวยความสะดวกในการขนส่งกากอุตสาหกรรมซึ่งเป็นระบบเฉพาะ เพราะการขนส่งต้องการความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมสูง เพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพและความสามารถในการรองรับปริมาณกากอุตสาหกรรมทั้งเป็นอันตราย และไม่เป็นอันตรายที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น
นอกจากนั้น BWG อยู่ระหว่างการศึกษาถึงความเป็นไปได้ที่จะต่อยอดธุรกิจจัดการกากอุตสาหกรรมจากการกำจัดไปสู่การรีไซเคิล เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ และแปรรูปเป็นเชื้อเพลิงเพื่อใช้ในธุรกิจพลังงาน ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับการบริหารจัดการในภาคอุตสาหกรรม ขณะเดียวกันยังได้ขยายธุรกิจสู่การจัดการของภาคประชาชน โดยใช้หลักการบริหารแบบเดียวกัน ซึ่งเห็นได้จากโครงการก่อสร้างหลุมขยะชุมชนของเทศบาลนครนครราชสีมา ที่มีมูลค่าโครงการกว่า 400 ล้านบาท ที่เป็นช่องทางเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทฯ ด้วยอีกทางหนึ่ง
โดยผลงานไตรมาสแรกปีนี้พบว่า BWG มี กำไรสุทธิ 21 ล้านบาท หรือหุ้นละ0.07 บาท เพิ่มขึ้น. 26.17 ล้านบาท หรือ 406.18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 53 ที่ขาดทุนสุทธิ 5.17 ล้านบาท เนื่องจากไตรมาสนี้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น ขณะที่ต้นทุนลดลง เพราะต้นทุนบางส่วนเป็นต้นทุนคงที่ไม่ได้ผันแปรตามสัดส่วนรายได้ และต้นทุนบางส่วนที่ลดลงเนื่องจากการบริหารจัดการ ส่วนต้นทุนจากงานก่อสร้าง
กำลังโหลดความคิดเห็น