ASTVผู้จัดการรายวัน - เบตเตอร์ เวิลด์ กรีนมั่นใจปีนี้ธุรกิจบำบัดกากอุตสาหกรรมโตโดดเด่นต่อเนื่องจากปี 53 หลังอุตสาหกรรมขยายตัวต่อเนื่องส่งผลให้กากอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้นแถมภาครัฐเข้มข้นเรื่องกำจัดกากอุตสาหกรรมอย่างเป็นระบบ ด้านบริษัทประการมีธุรกิจบำบัดกากอุตสาหกรรมอย่างครบวงจรเพียงแห่งเดียว ทั้งฝังกลบ และเผา ภายใต้มาตรฐานที่กำหนด ล่าสุดอวดงบสิ้นปี 53 พลิกจากขาดทุน44 ล้านบาทเป็นกำไร 41 ล้านบาท แถมใจป้ำปันผลอีก 2 สตางค์
นางทัศนีย์ ทองดี ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กรและการตลาด บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) หรือ BWG ผู้ประกอบธุรกิจบัดบัดกากอุตสหกรรมอย่างครบวงจรระดับแนวหน้าของประเทศไทย กล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจบำบัดกากอุตสาหกรรมในปี 54 ว่า มีทิศทางเติบโตต่อเนื่องจากปี 53 ได้ตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมของประเทศ จึงทำให้ปริมาณกากอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับภาครัฐ โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้เพิ่มความเข้มข้นในการดูแลโรงงานอุตสาหกรรมให้บำบัดกากอุตสาหกรรมตามมาตรฐานของกรมโรงงานอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้มีกากอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะเข้าบำบัดตามกระบวนการที่ถูกต้องเพิ่มมากขึ้น ซึ่งถือว่าส่งผลดีต่อธุรกิจของบริษัทฯ โดยตรง เพราะปัจจุบัน BWG ถือเป็นผู้ประกอบการรายเดียวที่มีกระบวนการรองรับการบำบัดกากอุตสาหกรรมอย่างครบวงจร ทั้งฝังกลบ นำกลับมาใช้ใหม่ และการเผา โดยทุกกระบวนการได้มาตรฐานของกรมโรงงานอุตสาหกรรม
" ปีนี้การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมของประเทศก็ยังมีอย่างต่อเนื่อง ปริมาณกากอุตสาหกรรมก็มีทิศทางเพิ่มขึ้น โดยคาดว่ากากอุตสาหกรรมที่ไม่เป็นอัตรายจะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 19 ล้านตัน/ปี จาก 18 ล้านตัน/ปี ในปี 53 ส่วนกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตรายคาดว่าจะอยู่ที่ 1.96 ล้านตัน/ปี จากปีก่อนที่อยู่ที่ 2.1 ล้านตัน/ปี ซึ่งถือว่าลดลงเล็กน้อยเพราะผู้ประกอบการหันมาใช้สารที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลง แต่จากการที่รัฐพยายามบังคับใช้กฎหมายให้โรงงานที่มีกากอุตสาหกรรมเหล่านี้เข้ากระบวนการบำบัดที่ถูกต้องเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการอย่างชัดเจน รวมทั้งเรา ที่ปัจจุบันถือว่าเป็นรายเดียวเท่านั้นที่ทำงานด้านนี้อย่างครบวงจร "
ปัจจุบันการบำบัดกากอุตสาหกรรมของบริษัทอยู่ที่ปีละ 1.5 แสนตัน สำหรับกากอุตสาหกรรมที่ไม่เป็นอันตราย และปีละ 1.2 แสนตัน สำหรับกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตราย ปีนี้เชื่อว่าจะได้รับผลดีจากการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นของภาครัฐอย่างชัดเจนต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ที่บริษัทฯสามารถสร้างผลประกอบการให้เติบโตได้อย่างโดดเด่นมีกำไรสุทธิเติบโตจากปี 52 เกือบ 200%
โดยผลงานงวดสิ้นปี 53 พบว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 41.03 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 196% จากปี 52 ที่ขาดทุนสุทธิ 43.81 ล้านบาท เนื่องจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น โดยมีรายได้จากการให้บริการกำจัดกากอุตสาหกรรมปี 53 มี 642.03 ล้านบาท เทียบกับปี 52 ที่มี 457.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 184.60 ล้านบาท คิดเป็น 40% เพราะไม่มีปัญหาสภาวะเศรษฐกิจ ขณะต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่ลดลง จึงสะท้อนให้กำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นจาก 88.59 ล้านบาท มาเป็น 207.72 ล้านบาท ส่งผลให้มีกำไรโดดเด่น ดังนั้นบริษัทจึงจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.02 บาท กำหนดจ่าย27 พ.ค. 54 นี้
นางทัศนีย์ ทองดี ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กรและการตลาด บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) หรือ BWG ผู้ประกอบธุรกิจบัดบัดกากอุตสหกรรมอย่างครบวงจรระดับแนวหน้าของประเทศไทย กล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจบำบัดกากอุตสาหกรรมในปี 54 ว่า มีทิศทางเติบโตต่อเนื่องจากปี 53 ได้ตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมของประเทศ จึงทำให้ปริมาณกากอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับภาครัฐ โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้เพิ่มความเข้มข้นในการดูแลโรงงานอุตสาหกรรมให้บำบัดกากอุตสาหกรรมตามมาตรฐานของกรมโรงงานอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้มีกากอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะเข้าบำบัดตามกระบวนการที่ถูกต้องเพิ่มมากขึ้น ซึ่งถือว่าส่งผลดีต่อธุรกิจของบริษัทฯ โดยตรง เพราะปัจจุบัน BWG ถือเป็นผู้ประกอบการรายเดียวที่มีกระบวนการรองรับการบำบัดกากอุตสาหกรรมอย่างครบวงจร ทั้งฝังกลบ นำกลับมาใช้ใหม่ และการเผา โดยทุกกระบวนการได้มาตรฐานของกรมโรงงานอุตสาหกรรม
" ปีนี้การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมของประเทศก็ยังมีอย่างต่อเนื่อง ปริมาณกากอุตสาหกรรมก็มีทิศทางเพิ่มขึ้น โดยคาดว่ากากอุตสาหกรรมที่ไม่เป็นอัตรายจะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 19 ล้านตัน/ปี จาก 18 ล้านตัน/ปี ในปี 53 ส่วนกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตรายคาดว่าจะอยู่ที่ 1.96 ล้านตัน/ปี จากปีก่อนที่อยู่ที่ 2.1 ล้านตัน/ปี ซึ่งถือว่าลดลงเล็กน้อยเพราะผู้ประกอบการหันมาใช้สารที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลง แต่จากการที่รัฐพยายามบังคับใช้กฎหมายให้โรงงานที่มีกากอุตสาหกรรมเหล่านี้เข้ากระบวนการบำบัดที่ถูกต้องเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการอย่างชัดเจน รวมทั้งเรา ที่ปัจจุบันถือว่าเป็นรายเดียวเท่านั้นที่ทำงานด้านนี้อย่างครบวงจร "
ปัจจุบันการบำบัดกากอุตสาหกรรมของบริษัทอยู่ที่ปีละ 1.5 แสนตัน สำหรับกากอุตสาหกรรมที่ไม่เป็นอันตราย และปีละ 1.2 แสนตัน สำหรับกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตราย ปีนี้เชื่อว่าจะได้รับผลดีจากการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นของภาครัฐอย่างชัดเจนต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ที่บริษัทฯสามารถสร้างผลประกอบการให้เติบโตได้อย่างโดดเด่นมีกำไรสุทธิเติบโตจากปี 52 เกือบ 200%
โดยผลงานงวดสิ้นปี 53 พบว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 41.03 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 196% จากปี 52 ที่ขาดทุนสุทธิ 43.81 ล้านบาท เนื่องจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น โดยมีรายได้จากการให้บริการกำจัดกากอุตสาหกรรมปี 53 มี 642.03 ล้านบาท เทียบกับปี 52 ที่มี 457.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 184.60 ล้านบาท คิดเป็น 40% เพราะไม่มีปัญหาสภาวะเศรษฐกิจ ขณะต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่ลดลง จึงสะท้อนให้กำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นจาก 88.59 ล้านบาท มาเป็น 207.72 ล้านบาท ส่งผลให้มีกำไรโดดเด่น ดังนั้นบริษัทจึงจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.02 บาท กำหนดจ่าย27 พ.ค. 54 นี้
