ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - พูดถึง “บัตรเลือกตั้ง” ต้องยอมรับเลยว่า มีปัญหามาทุกยุคทุกสมัย ถูกกล่าวหาว่าโกง ว่าสวมสิทธิ์ มีบัตรผี บัตรถูกนำไปเผาทิ้ง ฯลฯ กฎหมายเลือกตั้งก็มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขมาหลายครั้ง ทั้งคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) หรือนักการเมืองหลายยุค เคยเสนอให้ใช้ “ระบบเลือกตั้งออนไลน์แบบไร้สาย” มาแก้ปัญหาบัตรกระดาษแบบต่างประเทศ แทนการใช้บัตรเลือกตั้งแบบในปัจจุบันคิดกันถึงระบบที่เรียกว่า Wireless Online Voting System มีระบบหน่วยลงคะแนน (Client) และระบบหน่วยนับคะแนน (Server) แต่ก็ต้องเก็บพับหายไปโดยปริยาย
มาถึงการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 3 ก.ค.นี้ บัตรเลือกตั้งก็กลับมามีปัญหาอีกจนได้ เมื่อ “พรรคเพื่อไทย” จี้ ให้กกต.ยุคนี้แบบรายวัน ให้ยกเลิก หรือทบทวน กรณีที่กกต.พิมพ์บัตรเลือกตั้งเกิน
ไม่ว่า จะเป็น “พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก” ผู้สมัครปาร์ตี้ลิตส์อันดับ 2 “วิชาญ มีนชัยนันท์” รองหัวหน้าพรรค หรือ เด็จพี่ “พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์” โฆษกพรรค เรียงหน้าถามไถ่ จี้กกต.
“พรรรคเพื่อไทย” กลัวว่า ที่ “สดศรี สัตยธรรม” กกต. ด้านกิจการพรรคการเมือง ย้ำบัตรเลือกตั้งจะไม่เพียงพอนั้น เห็นว่า กกต.พิมพ์บัตรเลือกตั้งกว่า 53 ล้านใบ ซึ่งจากตรวจสอบพบว่า แม้กกต.แถลงอย่างเป็นทางการถึงตัวเลขผู้ใช้สิทธิ์จำนวน 47.3 ล้านคน แต่กฎหมายให้กกต.สามารถพิมพ์บัตรเกินได้ 7 % หรือจำนวนประมาณ 3.3 ล้านใบ รวมแล้วกกต.พิมพ์บัตรเลือกตั้งทั้งหมดได้ 50.6 ล้านใบเท่านั้น
กกต. กลับสั่งให้พิมพ์บัตรเลือกตั้งเกินจำนวนที่กฎหมายกำหนดไปกว่า 2 ล้านใบในระบบส.ส.เขต และระบบบัญชีรายชื่ออีกกว่า 2 ล้านใบ รวมแล้วกกต.พิมพ์บัตรลงคะแนนมากกว่าที่กฎหมายกำหนดกว่า 5 ล้านใบ
“พรรคเพื่อไทย” ยังยกสถิติการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมาว่า ไม่มีครั้งไหนที่ประชาชนมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งครบ 100 เปอร์เซ็นต์ อย่างปี 2550 มีบัตรเลือกตั้งเหลือถึง 18 ล้านใบ และทางกกต.ก็ได้นำบัตรเลือกตั้งไปเผาทิ้ง จนทำให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ต้องเข้ามาสอบสวนที่มาที่ไป และขณะนี้คดีก็ถูกส่งให้ป.ป.ช.พิจารณาอยู่
สัปดาห์ที่ผ่านมา แม้กกต.จะนำคณะสื่อมวลชน และตัวแทนพรรคการเมืองบุกไปถึง “โรงพิมพ์สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล” ย่านเอกมัย เพื่อเข้าตรวจสอบวิธีการพิมพ์บัตรเลือกตั้ง และมาตรการรักษาความปลอดภัย
“วันชัย สุระกุล” ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลยัง ยืนยันว่า น้ำยาวิเศษ หรือหมึกล่องหน ที่พรรคเพื่อไทย ตั้งข้อครหาว่า มีการนำไปป้ายในช่องเบอร์ของตนทำให้กาไม่ติดนั้น “ไม่สามารถทำได้” เพราะวิธีการพิมพ์มีกล้องวงจรปิดจับภาพกระบวนการผลิตทุกขั้นตอน ไม่สามารถปลอมแปลงได้ ใครก็ไม่สามารถดำเนินการปิดเครื่อง แล้วเข้าไปใช้วิธีเคลือบได้ เนื่องจากแท่นพิมพ์สามารถจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้ง ได้วันละ 2 ล้านแผ่น หากมีการกระทำที่ส่อเข้าถึงเหตุการณ์ที่ผิดปกติ ทางเจ้าหน้าที่ก็สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งหลายพรรคก็พอใจ แม้แต่ “เด็จพี่” ก็พอใจ แต่มีข้อเสนอให้ทุกพรรคเข้ามาเป็นกรรมการตรวจบัตร ซึ่งกกต.และกองสลาก ก็รับเรื่องนี้ไว้
ขณะที่กกต.ส่วนใหญ่ ก็ออกมาย้ำ ว่า เหตุที่พิมพ์บัตรเลือกตั้งส.ส.เกิน ก็ดีกว่าขาด!!!
ดังนั้น ปัญหานี้ ก็คงไม่ต้องกลับไปปัดฝุ่น นำเข้าเครื่องลงคะแนนแบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อช่วยลดปัญหาการทุจริตในการลงคะแนนแบบเก่า