สภาสูงเลื่อนวาระร่าง พ.ร.ป.เลือกตั้ง 3 ฉบับ เข้าพิจารณา รอง ปธ.กมธ.แจงควรรับร่าง ชี้แก้ไขตาม รธน.ใหม่ “ประพันธ์” แจงเลือกตั้งล่วงหน้าเพื่อชาวบ้านที่ไม่สะดวกวันจริงใช้สิทธิ ไม่ขัด รธน.ชี้ มีมติ ครม.ชัดคุม ขรก.ให้เป็นกลาง ยันไม่เคยพูดจะชักใบแดงเท่าไหร่ ก่อนมีมติเอกฉันท์ รับร่างแปรญัตติ 1 วัน ดันเข้าวาระ 3 18 เมษานี้
วันนี้ (11 เม.ย.) ที่รัฐสภา การประชุมวุฒิสภา มีนายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม ที่ประชุมมีมติงดใช้ข้อบังคับการประชุมโดยให้เลื่อนวาระเรื่องด่วนร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง 3 ฉบับ ขึ้นมาพิจารณาก่อน โดยในการพิจารณาวาระแรก เป็นการอภิปรายไปพร้อมกันทั้ง 3 ฉบับ แต่ให้ลงมติแยกรายฉบับ ทั้งนี้ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ฉบับ ก่อนหน้านี้ วุฒิสภาได้มอบหมายให้คณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการองค์กรตามรัฐธรรมนูญ และติดตามการบริหารงบประมาณ วุฒิสภา ศึกษามาล่วงหน้าแล้ว โดย นายสุรเดช จิรัฐติเจริญ ส.ว.ปราจีนบุรี รองประธาน กมธ. รายงานว่า กมธ.ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า วุฒิสภาควรรับทั้ง 3 ร่างไว้พิจารณา เนื่องจากเป็นการแก้ไขให้สอดคล้องตามรัฐธรรมนูญ 2550 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมระบบเลือกตั้ง ส.ส.และหลังจากกฎหมายทั้ง 3 ฉบับ ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญอีกครั้ง
สำหรับการพิจารณา ส.ว.หลายคนตั้งข้อสังเกตเรื่องการเลือกตั้งล่วงหน้าที่ร่างกำหนดให้จัดวันลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า 1 วัน และเป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร และการวางตัวเป็นกลางของข้าราชการ รวมถึงการแบ่งเขตเลือกตั้งที่อาจได้เปรียบเสียเปรียบ อาทิ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่า กฎหมายลูกที่กำหนดให้เลือกตั้งล่วงหน้าสามารถทำได้หรือไม่ เพราะเป็นการเขียนอนุญาตขยายความไปนอกเหนือจากรัฐธรรมนูญ
ด้าน นายเจริญ ภักดีวานิช ส.ว.พัทลุง กล่าวว่า การลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องประกาศหลักเกณฑ์ในการอนุญาตให้ลงคะแนนให้ชัดเจน เพื่อให้กรรมการประจำหน่วยใช้ดุลพินิจได้อย่างถูกต้อง ส่วน นายกฤช อาทิตย์แก้ว ส.ว.กำแพงเพชร กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการเลือกตั้งล่วงหน้า เพราะทุกครั้งมีการขนคนมาลงคะแนน และ กกต.ไม่เคยที่จะควบคุมได้
นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ชี้แจงว่า กรณีการกำหนดวันเลือกตั้งล่วงหน้าที่ ส.ว.ตั้งข้อสังเกตว่า อาจขัดรัฐธรรมนูญนั้น จริงๆ เป็นการลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้งที่มีประชาชนอาจไม่สะดวก ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนมาใช้สิทธิ์ ซึ่งไม่ขัดรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ กกต.ยังควบคุมให้ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ วางตัวเป็นกลาง ถ้าฝ่าฝืนมีโทษอาญา และยังเป็นมติครม.หากฝ่าฝืนก็จะมีโทษวินัยร้ายแรงถึงขั้นไล่ออก ส่วนการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ 375 เขต จังหวัดที่ไม่ลดจำนวน ส.ส.ก็ต้องแบ่งใหม่ แต่จะคำนึงถึงการแบ่งเขตแบบครั้งที่ผ่านมา ส่วนที่มีข่าวว่า กกต.จะให้ใบแดงใบเหลืองก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง 25 คนนั้น ยืนยันว่า ใน กกต.ทั้ง 5 คน ไม่เคยพูดเลยว่า จะมีการแจกใบแดงใบเหลืองเท่าไหร่ แต่ยึดตามพยานหลักฐานสำนวนการสอบสวน
ทั้งนี้ หลังจากที่ประชุมอภิปรายนานกว่า 3 ชั่วโมง จึงมีมติรับหลักการร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ฉบับ ด้วยคะแนนเสียงเอกฉันท์ และตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง กำหนดแปรญัตติ 1 วัน ซึ่งคาดว่า ทั้ง 3 ร่าง จะกลับเข้าสู่การพิจารณาวาระ 2 และ 3 ในการประชุมวุฒิสภาได้ในวันที่ 18 เมษายน
