xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

"แม้ว" แค้นสั่งฟ้า ตัดหาง “เนวิน” เร่งเกมนิรโทษกรรม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - หลังจากส่ง “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ออกศึกอย่างเป็นทางการในสนามเลือกตั้ง ด้วยการเดินสายลุยหาเสียงไปตามจังหวัดต่างๆ อย่างทั่วถึง เป้าหมายก็คงไม่ใช่อื่นใดนอกเสียจาก นำพรรคเพื่อไทยกวาด ส.ส.ให้ได้จำนวนเยอะมากเท่าที่จะมากได้ เพื่อเป็นใบเบิกทางเบื้องต้นของภารกิจนำ นช.ทักษิณ ชินวัตร พี่ชายสุดที่รัก กลับมาเหยียบประเทศไทย โดยไม่มีความผิดติดตัว

ทั้งนี้ หากจะให้คะแนนผลงานของร่างทรงอย่างยิ่งลักษณ์ก็ถือว่าสามารถทำได้บรรลุเป้าหมายเช่นกัน เนื่องจากเธอได้ทำให้กระแสพรรคเพื่อไทย ช่วงเวลานี้กำลังติดลมบนกันเลยทีเดียวเมื่อดูจากผลโพลของสำนักต่างๆ ที่ออกมาก็ล้วนออกมาทางเดียวที่ว่ากันว่ามีสิทธิ์จะได้คะแนนเลือกตั้งสูงเป็นอันดับ 1จนก้าวขึ้นเป็น แกนนำพรรคการเมืองในการจัดตั้งรัฐบาล

แต่จะว่าไปแล้วสำหรับยิ่งลักษณ์จะอย่างไรเสีย ก็ยังเป็นแค่หุ่นเชิด ของเจ้าของพรรคเพื่อไทยและผู้บัญชาการกลุ่มคนเสื้อแดง อยู่วันยังค่ำ เพราะไม่ว่าจะเป็นยุทธศาสตร์ในการหาเสียง บทสคริปพูดที่ต้องเตรียมไว้ปะคารมกับนักข่าว กุนซือด้านต่างๆ ที่คอยขนาบข้างกาย หรือสัญญาณการเมืองที่ส่งออกมา ก็ล้วนต้องได้รับการสกรีนจาก นช.ทักษิณเจ้าของสโลแกน "ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ" แทบทั้งสิ้น

อีกทั้งเมื่อยิ่งลักษณ์ สามารถปั่นกระแสของพรรคเพื่อไทย ให้อยู่ในช่วงขาขึ้นได้อย่างนี้ จึงอย่าได้แปลกใจเช่นกันหากจะเห็นการปรากฏตัวของ นช.ทักษิณ จะออกมาโหนกระแสแย่งซีนออกหน้าให้สื่อต่างประเทศสัมภาษณ์ชนิดถี่ยิบ โดยห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา นช.ทักษิณ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ หนังสือพิมพ์สเตรทไทมส์ สื่อของประเทศออสเตรเลีย และหนังสือพิมพ์ ดิ อินดิเพนเดนท์ และโกลบ แอนด์ เมลของประเทศอังกฤษ ซึ่งหากถอดรหัสคำพูดของทักษิณ ก็จะเห็นนัยสำคัญทางการเมืองหลายประการ

"บรรดาผู้สนับสนุนผมเขาจะไม่ยอมอยู่เงียบๆ หากพรรคเพื่อไทยได้รับชัยชนะอย่างขาวสะอาด ไม่ได้ขึ้นเป็นรัฐบาล เชื่อมั่นว่าทั่วโลกจะไม่อดทนอีกต่อไป หากเกิดความรุนแรงขึ้นมาอีก"

เมื่อพิเคราะห์คำพูด วรรคนี้ของ นช.ทักษิณ แล้ว จะตีความเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากส่งสัญญาณไปถึงสาวกคนเสื้อแดงของเขา ให้เตรียมตัวออกมาจับประเทศไทยเป็นตัวประกันอีกรอบใช่หรือไม่ เพราะเอาแค่ไม่ต้องอื่นไกลเพียงแค่ นช.ทักษิณ พูดไม่ทันขาดคำดี นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำคนเสื้อแดงอุดรธานี ก็ออกมาให้ประกาศกร้าวเหิมเกริม อย่างไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมว่า "คิดว่าถ้าพรรคเพื่อไทยโดนรังแก ประชาชนก็พร้อมที่จะออกมาปกป้อง เกิดกลียุคแน่ ผมเป็นแกนนำยังรู้สึกและคิดว่าประชาชนก็รู้สึก แต่นี่เป็นสิ่งที่ผมคิด ทั้งหมดก็คงต้องให้การเลือกตั้งผ่านพ้นไปเสียก่อน"

ยิ่งห่างไกลความเป็นจริงเสียเหลือเกินที่ นช.ทักษิณ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศในประเด็นความปรองดองว่า " ความพยายามของรัฐบาลประชาธิปัตย์ในการสร้างความปองดองนั้นล้มเหลว และทำให้ประเทศแตกแยกกันมากขึ้น ขณะนี้จึงเป็นหน้าที่ของพรรคเพื่อไทยในการสร้างความปรองดองแห่งชาติ และหวังจะกลับประเทศไทยได้"

ทั้งนี้ หากจะไม่เป็นการเกินเลยแต่อย่างใด ก็คงต้องกล่าวว่าไม่ใช่ นช.ทักษิณ หรอกหรือที่ปลุกคนเสื้อแดงให้ออกมาขับไล่รัฐบาล จนเมื่อไม่สมอารมณ์หมาย ก็ปลุกปั้นให้คนเสื้อแดงเผาบ้านเผาเมือง จนเป็นตราบาปให้กับประชาชนในประเทศจนทุกวันนี้ และไม่ใช่เรื่องเหนือจินตนาการแต่อย่างใดแน่นอน หาก นช.ทักษิณ จะปลุกให้คนเสื้อแดงออกมาลุกฮือต่อต้านยึดประเทศเป็นตัวประกันอีกครั้ง

แต่ประเด็นที่ต้องจับตายิ่งคือ การที่ นช.ทักษิณ ส่งสัญญาณว่า "เชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ ดูจากผลสำรวจของหลายสำนัก และยอมรับว่าตนยังมีอิทธิพลในพรรคทางด้านแนวความคิด เพราะมีประสบการณ์มากกว่าคนอื่นๆ และต้องการจะเห็นพรรคเพื่อไทยประสบความสำเร็จ ขณะเดียวกันยังมองว่า การสร้างความสมานฉันท์ ปรองดอง เป็นภารกิจเร่งด่วนอันดับแรก ไม่ใช่เรื่องนิรโทษกรรม ขณะนี้จำเป็นต้องนำความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกลับคืนสู่ประเทศและตนก็เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการนี้ ซึ่งอาจทำให้ตนได้ประโยชน์ด้วย แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก เพราะที่ผ่านมาก็ค่อนข้างลงตัวแล้วในการอยู่นอกประเทศ"

แต่ในความเป็นจริงแล้ว คำกล่าวของ นช.ทักษิณหรือแม้กระทั่ง โคลนนิ่ง อย่างยิ่งลักษณ์ มาถึงขณะนี้ ก็ยังหาจับต้องเป็นรูปธรรมไม่ค่อยจะได้ในเรื่องประเด็นความปรองดอง ซึ่งเป้าหมายในความจริงแล้ว นช.ทักษิณ เพียงแค่ต้องการเลี่ยงบาลี อำพรางเป้าหมายที่แท้จริงก็คือการนิรโทษกรรม เพียงแต่ว่า นช.ทักษิณก็รู้ว่า ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้โดยง่ายและฉับพลัน เพราะหากย้อนกลับไปในยุคที่ดันหุ่นเชิด อย่างนายสมัคร สุนทรเวช หรือนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ให้เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยสภาพที่แม้พรรคพลังประชาชน จะมีเสียงมากเกินครึ่งหนึ่งของสภา แต่ในคราวนั้นก็ยังถือว่าเป็นรัฐบาลพรรคเดียวที่แม้จะมีเสียงมากเท่าใด ก็ยังไม่สามารถปลดล็อกตัวเขาให้หลุดจากบ่วงกรรมของคดีทุจริตที่ก่อไว้ได้

ไม่เช่นนั้นแล้ว ก่อนหน้านี้ นช.ทักษิณ คงจะไม่ทิ้งปริศนาทางการเมืองอันน่าขบคิด โดยการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์มติชนที่ว่า "ผมถือว่าในการเลือกตั้งปี 2548 เป็นความผิดพลาด ที่ได้เยอะถึง 377 เสียง แต่ไม่มีพรรคร่วม ความจริงแจกันที่เต็มไปด้วยดอกไม้สวยงาม หากไม่มีใบเฟิร์นประกอบ ความสวยมันก็จะด้อยลงไป ต้องมีใบเฟิร์นเสียบแซมอยู่บ้าง เราไม่ตั้งรัฐบาลพรรคเดียวจะต้องมีพรรคร่วมรัฐบาล เพราะถ้าเป็นพรรคเดียวบริหารประเทศ จะมีคนไทยบางกลุ่มหมั่นไส้เอา และมีสองถึงสามพรรคที่เชื่อว่าจะสามารถร่วมทำงานกันได้"

กระนั้น นช.ทักษิณ ก็หาใช่ว่าจะนิ่งเฉยและอยากให้สำเร็จตามเป้าใจจะขาด ในทางลับจึงได้ส่งคนใกล้ชิดอย่าง นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล และทีมงาน เข้าไปเจรจากับ นายบรรหาร ศิลปอาชา และพล.ต.สนั่น ขจรประศาสตร์ เพื่อเจรจาต้าอ่วยกับสองขาใหญ่แห่งพรรคชาติไทยพัฒนาดังจะเห็นได้จากการให้สัมภาษณ์ของนายบรรหาร ก็มิวายกระสันจะดันก้นให้ พล.ต.สนั่นเป็นนายกรัฐมนตรีขัดตาทัพมากเพียงใดจากการออกมาให้ข่าวทุกครั้ง เหตุผลก็มิใช่อื่นใดนอกเสียจาก นายบรรหารยังติดบ่วงกรรมในคดียุบพรรคอยู่ และหากการที่สามารถดัน พล.ต.สนั่น คนในสังกัดตัวเอง ขึ้นไปถึงฝั่งฝันนายกรัฐมนตรีได้ มีหรือคนอย่างนายบรรหาร จะไม่เลือกคว้าโปรโมชั่นนี่ไว้

ขณะเดียวกันประกอบกับมีกระแสข่าวแรงๆ ว่าบรรดาแกนนำได้ต่อสายเช็คยอด กันตลอดเวลา ยิ่งใกล้วันเลือกตั้งเท่าไหร่ โดยเฉพาะแกนนำพรรคเพื่อไทย อย่างนายสมชาย นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ นายยงยุทธ ติยะไพรัช ได้สั่งตั้งวอร์รูมเพื่อประสานงานดึง ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลเดิม และ ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน กลับมาสนับสนุนพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้ง โดยมีรักษาการรัฐมนตรีของอดีตพรรคพลังประชาชน และ ส.ส.ประมาณ 30 คน แบ่งกันโทรศัพท์ประสานงานจูงใจให้กลับมา

ว่ากันว่า ขณะที่ นช.ทักษิณ ก็ยังได้ลงทุนแก้เกมการเมือง ด้วยการโทรศัพท์ประสาน ส.ส.ในกลุ่มว่า จะดูแลด้านปัจจัยการเลือกตั้ง ด้วยจำนวนเม็ดเงินเหมือนเดิม ขณะเดียวกันได้โทรคุยกับแกนนำกลุ่มงูเห่าที่ไปสมทบกับนายเนวิน เช่นกลุ่มของนายสรอรรถ กลิ่นประทุม ที่มีสมาชิกกว่า 15 คน และกลุ่มวาดะห์ อีกด้วย

หากกล่าวถึงพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ก็ง่ายต่อการที่จะร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งแกนนำพรรคไม่ว่าจะสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ปรีชา เลาหะพงษ์ชนะ หรือ พินิจ จารุสมบัติ นั้นสามารถเชื่อมประสานได้กับทุกพรรคและจากประสบการณ์ที่ผ่านมาก็ไม่ได้อยู่ในบัญชีแค้นของของ นช.ทักษิณ อีกต่างหาก

หากเป็นไปตามแผนการนี้แล้ว ด้านหนึ่ง นช.ทักษิณ ลึกๆ แล้วก็ยังหวังล้างแค้น พรรคภูมิใจไทย ของลูกน้องคู่แค้นตลอดกาล อย่างนายเนวินไปในตัว อีกทั้งมีสัญญาณจากพรรคเพื่อไทยที่ได้แสดงปฏิกิริยาขั้นผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ ด้วยการแจกแถลงการณ์ว่าจะไม่มีทางร่วมสังฆกรรมกับพรรคภูมิใจไทย อีกต่อไป

และหากกล่าวถึงโอกาสแล้ว พรรคภูมิใจไทยถือว่าอยู่ในที่นั่งลำบากเช่นกัน ที่ไม่มีทางให้เลือกในการร่วมรัฐบาลมากนัก ซึ่งดูแล้วจะสามารถร่วมรัฐบาลได้เพียงพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น ขณะที่พรรคขนาดกลางและขนาดเล็กอื่นๆ นั้นสามารถร่วมงานได้กับทั้ง 2 พรรค เวลานี้พรรคภูมิใจไทยถือว่ายากลำบากที่สุด และการต่อสู้ที่ต้องรับศึก 2 ด้านอาจทำให้พรรคภูมิใจไทยได้ตัวเลขต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ และอาจถูกเบียดให้ตกอยู่ในฐานะฝ่ายค้าน

ดังนั้น นี่ จึงเป็นแผนการของ นช.ทักษิณ ที่ต้องลงทุนออกมาส่งสัญญาณการเมืองทั้งทางตรงและทางลับ ณ ช่วงเวลานี้ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะสามารถตั้งรัฐบาลใหม่ซึ่งมีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำรัฐบาลโดยมี ใบเฟิร์น อย่างพรรคชาติไทย พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน คอยเป็นกันชนชั้นดีในการแผ้วทางสู่การปลดล็อกนิรโทษกรรม อย่างที่อาจหาญประกาศกับสื่อต่างประเทศด้วยความมั่นใจสุดขีด อีกทางหนึ่งก็จะเป็นการล้างแค้นเนวิน ชิดชอบ ไปในตัวแบบเบ็ดเสร็จ

แต่จะสำเร็จเป็นไปตามที่แผน นช.ทักษิณ วาดหวังไว้หรือไม่ หลังวันที่ 3 กรกฎาคม คงจะได้คำตอบ

กำลังโหลดความคิดเห็น