xs
xsm
sm
md
lg

คอร์รัปชันสะพัด2-3แสนล้านเอกชนขอปลดแอก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาคเอกชนผนึกกำลังประกาศทำสงครามต้านคอร์รัปชัน ฝันเดินตามรอยฮ่องกงที่อดีตคอร์รัปชันหนัก แต่ปัจจุบันขึ้นเป็นประเทศชั้นนำโปร่งใส หวังปลดแอกจ่ายส่วย-ใต้โต๊ะที่แต่ละปีมีเม็ดเงินสะพัดจากคอร์รัปชัน 2-3 แสนล.กลายเป็นต้นทุนแฝงของประเทศ คลังรับฮั่วเมกะโปรเจกต์สมคบตั้งราคากลางเกินจริง 10-30%เตรียมปรับให้เหมาะสม

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างเป็นประธานการสัมมนา เรื่อง การต่อต้านคอร์รัปชัน จุดเปลี่ยนประเทศไทย” ว่า ทุกภาคส่วนในสังคมต้องตระหนักถึงความสูญเสีย จากการทุจริตคอร์รัปชัน เพราะผลที่เกิดไม่ได้เฉพาะความเสียหายด้านเศรษฐกิจ แต่ยังมีผลต่อสังคม ที่เห็นได้ชัด คือ ปัญหายาเสพติดที่ยังขยายวงกว้างหรือแม้แต่ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในปัจจุบัน ที่เกิดจากการทุจริตคอร์รัปชันตั้งแต่ระดับชาติจนถึงท้องถิ่น จนนำมาสู่ที่มาของวิกฤตทางการเมือง

“การแก้ไขคอร์รัปชั่น ต้องร่วมมือกันทั้ง 3 ฝ่าย ภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชน และค่านิยมการทุจริตคอร์รัปชัน ถือเป็นปัญหาสำคัญที่จะต้องร่วมกันปรับเปลี่ยนทัศนะคติ ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลทำอะไรไปหลายอย่าง ผลการวิจัยก็บ่งบอกว่า การจัดการกับปัญหานี้สามารถทำได้ในระดับหนึ่งแต่ทั้งนี้ก็ยังไม่พอใจ”

ส่วนกรณีที่การเมืองเข้าไปเกี่ยวกับหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นั่น เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่จะต้องมีการตรวจสอบ เพราะถ้าหากมีการปั่นหุ้นแล้วนำเงินมาช่วยทางการเมืองก็จะเป็นอีกปัญหาหนึ่ง ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจะต้องดำเนินการ

นายดุสิต นนทนาคร ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวถึงการที่หอการค้าไทยและภาคีเครือข่ายป้องกันและปราบปรามทุจริตคอร์รัปชัน 20 องค์กร ได้ประกาศสงครามต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน พร้อมจัดสัมมนาต่อต้านคอร์รัปชัน จุดเปลี่ยนประเทศไทย ระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และมีส่วนร่วมต่อต้านการโกงกินวานนี้ (1มิ.ย.)ว่า ปัจจุบันคนไทยมองทุจริตคอร์รัปชันเป็นเรื่องปกติ หากปล่อยไว้จะเป็นอันตรายต่อประเทศ เนื่องจากผลการวิจัยของหอการค้าไทยพบว่า ในปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการเกือบ 80% ที่ทำธุรกิจกับภาครัฐ ต้องจ่ายเงินเพื่อให้ได้งาน และพบว่า 1 ใน 3 ต้องจ่ายเงินมากกว่า 25% หรือคิดเป็นเม็ดเงินสูงถึงปีละ 200,000 ล้านบาท

“จำนวนเงินที่หายไปนั้น เป็นจำนวนเงินที่ควรจะนำมาพัฒนาประเทศ ดังนั้น จึงถึงเวลาที่ต้องเริ่มต้นรวมพลังกันทุกภาคส่วน เพื่อเอาจริงเอาจังกับปัญหานี้ โดยเฉพาะภาคเอกชน 20 องค์กรภาคีเครือข่าย จะหยุดให้หรือหยุดจ่าย เพื่อยุติข้ออ้างที่ว่า การทุจริตคอร์รัปชันเกิดจากมีผู้ให้จึงมีผู้รับ ถ้าเรายุติการให้ หรือการจ่ายที่ไม่ถูกต้องถือว่าเป็นการตัดวงจรนี้ไปโดยปริยาย ซึ่งฮ่องกงทำมาแล้วและพลิกฟื้นภาพลักษณ์มาได้ เป็นประเทศที่มีความโปร่งใส อันดับ 13 ของโลก"นายดุสิต กล่าว

นายดุสิต กล่าวว่า หลังการสัมมนาในครั้งนี้ หอการค้าไทยจะนำข้อสรุปไปทำแผนปฏิบัติ เพื่อให้องค์กรที่เกี่ยวข้องนำไปปฏิบัติและระบุผู้รับผิดชอบ โดยจะประเมินผลแผนปฏิบัติทุก 2 เดือน และ สภาหอการค้าไทยริเริ่มทำดัชนีตรวจสอบปัญหาทุจริต หรือCorruption Index โดยจะแถลงดัชนีดังกล่าวทุก 6 เดือน

ปลัดคลังรับหน้าเสื่อแจงทุจริต!

นายอารีพงศ์ ภู่ชะอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการจัดทำราคากลางให้สะท้อนต้นทุนที่เป็นจริง ซึ่งจะช่วยลดปัญหาคอร์รัปชันในโครงการใหญ่ๆ ลงได้ ซึ่งที่ผ่านมามีการพูดถึงตัวเลขราคากลางที่สูงกว่าความเป็นจริง 10-30% ซึ่งทำให้ภาครัฐต้องสูญเสียงบประมาณจากราคาที่ไม่สะท้อนต้นทุนหลายแสนล้านบาท ซึ่งกระทรวงฯได้มอบหมายให้สำนักงบประมาณเร่งจัดทำราคากลางขึ้นใหม่ โดยให้ผู้เชี่ยวชาญและภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อให้ราคากลางที่กำหนดสะท้อนต้นทุนที่เป็นจริงจะเริ่มใช้ได้ในอีก 2 เดือนข้างหน้า และกระทรวงการคลังจะติดตามความเคลื่อนไหวของราคาวัสดุที่เกี่ยวข้อง เพื่อปรับราคากลางตามภาวะเศรษฐกิจ

นายจู ลีมู ผู้อำนวยการด้านชุมชนสัมพันธ์เขตปกครองพิเศษฮ่องกง กล่าวว่า เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ฮ่องกงมีการคอร์รัปชันติดอันดับ 13 ของโลก พร้อมระบุว่า การแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นนั้นจะสำเร็จได้ต้องได้รับความร่วมมือของคนในสังคมร่วมกันให้ข้อมูล ขณะที่ภาครัฐต้องสร้างจิตสำนึก รณรงค์ให้มีการทำงานอย่างสุจริต ซึ่งได้สร้างกระแสโดยอาศัยทั้งสื่อโฆษณา โทรทัศน์สื่อสิ่งพิมพ์โปสเตอร์ และละครซีรีย์ ซึ่งหลังจากคนในประเทศได้ให้ความสำคัญตระหนักถึงการร่วมแก้ปัญหา ทำให้วันนี้ฮ่องกงถือว่าเป็นประเทศเกือบไม่มีคอร์รัปชันแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น