ASTVผู้จัดการรายวัน- น้ำตาลทรายเหลือค้างกระดานสะสมแล้ว 2 ล้านกระสอบเหตุการบริโภคคนไทยชะลอตัวจากภาวะอากาศที่เย็นลง รวมถึงการกักตุนก่อนหน้าทำให้นำของเก่ามาใช้ คาดทั้งปีที่กำหนดโควตาก.ไว้ 25 ล้านกระสอบเหลืออื้อแน่ “กอน.”ถก 14 มิ.ย.โรงงานเตรียมกดดันขอคืนสำรอง 3 ล้านกระสอบทั้งหมดจวกทำสูญรายได้พันล้านบาทใครรับผิดชอบ
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(กอน.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีปริมาณน้ำตาลทรายค้างกระดานสะสมแล้วประมาณ 2 ล้านกระสอบซึ่งถือเป็นอัตราที่สูงผิดปกติจากการขึ้นงวดน้ำตาลทรายสัปดาห์ละ 4.8 แสนกระสอบจากโควตาก.(บริโภคในประเทศ)ที่กำหนดไว้ 25 ล้านกระสอบของฤดูการผลิตปี 2553/54 ส่งผลให้ปริมาณน้ำตาลทรายบริโภคในประเทศฤดูการผลิตปีนี้จะเฉลี่ยไม่เกิน 23 ล้านกระสอบจึงมั่นใจได้ว่าน้ำตาลจะมากเกินความต้องการ
ทั้งนี้ สาเหตุมาจากการบริโภคในประเทศไม่ได้ขยายตัวมากนักหากเทียบกับปี 2553 เพราะอากาศเฉลี่ยค่อนข้างเย็นทำให้อุตสาหกรรมเครื่องดื่มภาพรวมจำหน่ายในอัตราทรงตัว ขณะเดียวกันประชาชนส่วนหนึ่งที่เคยตุนน้ำตาลจากกระแสขาดแคลนได้นำน้ำตาลส่วนดังกล่าวออกมาใช้ ประกอบกับราคาน้ำตาลทรายขาวตลาดโลกเฉลี่ย 600 กว่าเหรียญสหรัฐต่อตันทำให้ส่วนต่างไม่จูงใจในการลักลอบส่งออกไปประเทศเพื่อนบ้านและปีนี้มีการเปิดหีบเร็วหากเทียบกับปี 2552/53 ที่เปิดหีบปลายธ.ค.
“เฉลี่ยย้อนหลังถ้าเราดูข้อมูลคนไทยบริโภคน้ำตาลประมาณปีละ 20 ล้านกระสอบมีปีก่อนหน้าที่ 22 ล้านกระสอบเรากลัวมีปัญหาเลยตั้งเอาไว้ 25 ล้านกระสอบแล้วเผื่อสำรองอีก 3 ล้านกระสอบที่โอเว่อร์ วันนี้น้ำตาลเหลือเฟือจะเหลือมากด้วยซ้ำไป ประกอบกับฤดูการผลิตปี 2554/55 จะต้องกำหนดเปิดหีบให้เร็วกว่าปีนี้ 2-3 สัปดาห์เพราะปีนี้อ้อยที่มากทำให้เกิดปัญหาฝนตกคุณภาพเลยต่ำช่วงปลายหีบและปีหน้าหากอากาศไม่แปรปรวนไปจากนี้ก็เชื่อว่าปริมาณอ้อยจะยังคงสูงระดับปัจจุบันคือ 90-94 ล้านตันเพราะขณะนี้อ้อยโตเร็วมากก็จะยิ่งทำให้โควตาก.ของปีใหม่จะซ้อนกับของเก่าก็จะยิ่งเหลือไปใหญ่”แหล่งข่าวกล่าว
นายชลัช ชินธรรมมิตร์ ประธานคณะทำงานด้านตลาดในประเทศ บริษัทไทยชูการ์ มิลเลอร์ จำกัด กล่าวว่า โรงงานพยายามชี้แจงกับฝ่ายราชการไปก่อนหน้าแล้วว่า 25 ล้านกระสอบมากเกินพอแต่ก็เกรงปัญหาจะขาดแคลนวันนี้น้ำตาลเหลือมากผิดปกติดังนั้นการประชุมกอน.ที่เบื้องต้นกำหนดไว้จะประชุม 14 มิ.ย.นี้จะเสนอขอให้ยกเลิกสำรอง 3 ล้านกระสอบโดยขอคืนทั้งหมดทันทีเพราะมติคณะกรรมการน้ำตาลทราย(กน.)เสนอให้เหลือสำรองไว้ 1 ล้านกระสอบ
“น้ำตาลทรายตลาดโลกวันนี้ 600 กว่าเหรียญสหรัฐต่อตันก่อนหน้านั้นราคาขึ้นไปสูงกว่า 800 เหรียญฯต่อตันมันทำให้เราเสียโอกาสในการทำรายได้ส่วนนี้คำนวณที่หายไปวันนี้ก็ราว 1,000 ล้านบาทใครรับผิดชอบ ดังนั้นเวลาแก้ไขปัญหาเราควรจะคำนึงถึงข้อเท็จจริงไม่ใช่ความรู้สึกแบบนี้”
อย่างไรก็ตามไม่ปฏิเสธว่าน้ำตาลทรายบรรจุถุง 1 กิโลกรัม(กก.)ที่จำหน่ายในโมเดิร์นเทรดบางพื้นที่อาจไม่พอกับความต้องการอยู่บ้างแต่นั่นก็เพราะเป็นปัญหาที่เกิดจากความไม่ชัดเจนของนโยบายรัฐบาลที่ปัจจุบันไม่ยอมพิจารณาปรับค่าบรรจุภัณฑ์ให้กับโรงงานน้ำตาลเพิ่มขึ้นเพราะบรรจุแล้วขาดทุนขณะที่โมเดิร์นเทรดขายราคาเดียวทั่วประเทศทั้งที่ค่าขนส่งต่างกันทำให้โชว์ห่วยมาซื้อที่ห้างแทนจึงไม่แปลกที่จะไม่ พอขายเป็นการบิดเบือนกลไกตลาดแต่รัฐกลับแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(กอน.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีปริมาณน้ำตาลทรายค้างกระดานสะสมแล้วประมาณ 2 ล้านกระสอบซึ่งถือเป็นอัตราที่สูงผิดปกติจากการขึ้นงวดน้ำตาลทรายสัปดาห์ละ 4.8 แสนกระสอบจากโควตาก.(บริโภคในประเทศ)ที่กำหนดไว้ 25 ล้านกระสอบของฤดูการผลิตปี 2553/54 ส่งผลให้ปริมาณน้ำตาลทรายบริโภคในประเทศฤดูการผลิตปีนี้จะเฉลี่ยไม่เกิน 23 ล้านกระสอบจึงมั่นใจได้ว่าน้ำตาลจะมากเกินความต้องการ
ทั้งนี้ สาเหตุมาจากการบริโภคในประเทศไม่ได้ขยายตัวมากนักหากเทียบกับปี 2553 เพราะอากาศเฉลี่ยค่อนข้างเย็นทำให้อุตสาหกรรมเครื่องดื่มภาพรวมจำหน่ายในอัตราทรงตัว ขณะเดียวกันประชาชนส่วนหนึ่งที่เคยตุนน้ำตาลจากกระแสขาดแคลนได้นำน้ำตาลส่วนดังกล่าวออกมาใช้ ประกอบกับราคาน้ำตาลทรายขาวตลาดโลกเฉลี่ย 600 กว่าเหรียญสหรัฐต่อตันทำให้ส่วนต่างไม่จูงใจในการลักลอบส่งออกไปประเทศเพื่อนบ้านและปีนี้มีการเปิดหีบเร็วหากเทียบกับปี 2552/53 ที่เปิดหีบปลายธ.ค.
“เฉลี่ยย้อนหลังถ้าเราดูข้อมูลคนไทยบริโภคน้ำตาลประมาณปีละ 20 ล้านกระสอบมีปีก่อนหน้าที่ 22 ล้านกระสอบเรากลัวมีปัญหาเลยตั้งเอาไว้ 25 ล้านกระสอบแล้วเผื่อสำรองอีก 3 ล้านกระสอบที่โอเว่อร์ วันนี้น้ำตาลเหลือเฟือจะเหลือมากด้วยซ้ำไป ประกอบกับฤดูการผลิตปี 2554/55 จะต้องกำหนดเปิดหีบให้เร็วกว่าปีนี้ 2-3 สัปดาห์เพราะปีนี้อ้อยที่มากทำให้เกิดปัญหาฝนตกคุณภาพเลยต่ำช่วงปลายหีบและปีหน้าหากอากาศไม่แปรปรวนไปจากนี้ก็เชื่อว่าปริมาณอ้อยจะยังคงสูงระดับปัจจุบันคือ 90-94 ล้านตันเพราะขณะนี้อ้อยโตเร็วมากก็จะยิ่งทำให้โควตาก.ของปีใหม่จะซ้อนกับของเก่าก็จะยิ่งเหลือไปใหญ่”แหล่งข่าวกล่าว
นายชลัช ชินธรรมมิตร์ ประธานคณะทำงานด้านตลาดในประเทศ บริษัทไทยชูการ์ มิลเลอร์ จำกัด กล่าวว่า โรงงานพยายามชี้แจงกับฝ่ายราชการไปก่อนหน้าแล้วว่า 25 ล้านกระสอบมากเกินพอแต่ก็เกรงปัญหาจะขาดแคลนวันนี้น้ำตาลเหลือมากผิดปกติดังนั้นการประชุมกอน.ที่เบื้องต้นกำหนดไว้จะประชุม 14 มิ.ย.นี้จะเสนอขอให้ยกเลิกสำรอง 3 ล้านกระสอบโดยขอคืนทั้งหมดทันทีเพราะมติคณะกรรมการน้ำตาลทราย(กน.)เสนอให้เหลือสำรองไว้ 1 ล้านกระสอบ
“น้ำตาลทรายตลาดโลกวันนี้ 600 กว่าเหรียญสหรัฐต่อตันก่อนหน้านั้นราคาขึ้นไปสูงกว่า 800 เหรียญฯต่อตันมันทำให้เราเสียโอกาสในการทำรายได้ส่วนนี้คำนวณที่หายไปวันนี้ก็ราว 1,000 ล้านบาทใครรับผิดชอบ ดังนั้นเวลาแก้ไขปัญหาเราควรจะคำนึงถึงข้อเท็จจริงไม่ใช่ความรู้สึกแบบนี้”
อย่างไรก็ตามไม่ปฏิเสธว่าน้ำตาลทรายบรรจุถุง 1 กิโลกรัม(กก.)ที่จำหน่ายในโมเดิร์นเทรดบางพื้นที่อาจไม่พอกับความต้องการอยู่บ้างแต่นั่นก็เพราะเป็นปัญหาที่เกิดจากความไม่ชัดเจนของนโยบายรัฐบาลที่ปัจจุบันไม่ยอมพิจารณาปรับค่าบรรจุภัณฑ์ให้กับโรงงานน้ำตาลเพิ่มขึ้นเพราะบรรจุแล้วขาดทุนขณะที่โมเดิร์นเทรดขายราคาเดียวทั่วประเทศทั้งที่ค่าขนส่งต่างกันทำให้โชว์ห่วยมาซื้อที่ห้างแทนจึงไม่แปลกที่จะไม่ พอขายเป็นการบิดเบือนกลไกตลาดแต่รัฐกลับแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ