ASTVผู้จัดการรายวัน- ที่ประชุมร่วมฝ่ายโรงงานน้ำตาล-ชาวไร่อ้อยฟันธงขัดกฏหมายใช้เงินกองทุนอ้อยฯชดเชยค่าบรรจุถุงน้ำตาล 1 กก.เอื้อโมเดิร์นเทรด แนะแก้ไขซื้อน้ำตาลถุง 50 กก.ไปแพคขายเอง ยัน 4 รายใหญ่เร่งผลิตป้อนแล้ว ชาวไร่ฮึ่มอย่าแตะ “พาณิชย์” เล็งคุมราคาน้ำตาลซอง กล่อง ขวด หวั่นเกิดปัญหาซ้ำเหมือนปาล์มขวดเหตุผู้ผลิตเลี่ยงไปผลิตสินค้าชนิดที่ไม่ถูกควบคุม แนะโมเดิร์นเทรดบรรจุน้ำตาลถุงกก.ขายเอง
นายประเสริฐ ตปนียางกูร เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(สอน.) เปิดเผยหลังการหารือร่วมกับตัวแทนชาวไร่อ้อยและโรงงานน้ำตาลทรายวานนี้(30มี.ค.) ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาถึงแนวทางการนำเงินกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย(กท.)มาชดเชยภาระต้นทุนค่าบรรจุถุงน้ำตาลทราย 1กิโลกรัม(กก.)ที่จำหน่ายในโมเดิร์นเทรดซึ่งเห็นว่าขัดหลักการของข้อกฏหมายที่มีอยู่ที่กำหนดให้กองทุนฯต้องดูแลเสถียรภาพราคาน้ำตาลทรายเท่านั้น จึงมีข้อเสนอแก้ไขโดยให้โมเดิร์นเทรดมาซื้อน้ำตาลทรายถุง 50 กก.ไปตักจำหน่ายแทนเพื่อให้มีเพียงพอกับความต้องการที่สูงขึ้น
“ นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมว.อุตสาหกรรมได้กำชับมาให้เราหารือเรื่องนี้ด่วนเพราะได้รับปากทางกระทรวงพาณิชย์มาแล้ว เราก็หารือและจะสรุปทำรายงานเสนอรัฐมนตรีกลับไปเพื่อนำไปหารือกับพาณิชย์อีกครั้ง”นายประเสริฐกล่าว
ทั้งนี้จากการหารือทางโรงงานน้ำตาลทราย 4 กลุ่มหลักที่ผลิตถุง 1 กก.และอีก 7 โรงงานรายเล็กก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการผลิตเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วในการป้อนโมเดิร์นเทรด 150 ล้านถุงเป็น 192 ล้านถุง จากการผลิตทั้งหมด 266 ล้านถุง โดยโรงงานมีการจ้างแรงงานคนและทำงาน 3 กะเพื่อเร่งผลิตเต็มที่แล้ว ขณะที่ปริมาณน้ำตาลทรายบริโภคในประเทศ(โควตาก.)ที่กำหนดไว้ 25 ล้านกระสอบในปีนี้ล่าสุดมีการขึ้นงวดไปแล้ว 7.97 ล้านกระสอบเหลือค้างกระดาน 1.294 ล้านกระสอบคงเหลือขายกว่า 18 ล้านกระสอบจึงมีปริมาณที่เพียงพอและหากขาดแคลนจริงยังมีการกันสำรองไว้อีก 3 ล้านกระสอบ
นายชลัส ชินธรรมมิตร ประธานคณะทำงานด้านตลาดภายในประเทศ บริษัทไทยซูการ์ มิลเลอร์ จำกัด กล่าวว่า พาณิชย์กำหนดค่าภาชนะบรรจุถุง 1 กก.ไว้ที่ 0.75 บาทซึ่งโรงงานที่ทำน้ำตาลบรรจุถุง 1 กก.เคยร้องเรียนไปให้เพิ่มค่าบรรจุให้คุ้มค่ากับการลงทุนก็จะมีรายอื่นๆ เข้ามาทำตลาดแข่งแต่พาณิชย์ไม่พิจารณาให้ทั้งที่ข้อเท็จจริงน้ำตาลถุง 1 กก.นั้นคิดเป็นเพียง 10%ของตลาดน้ำตาลรวมจึงแทบจะไม่มีผลต่อราคาสินค้าใด ๆ เพราะเป็นการขายตรงให้กับผู้บริโภค ดังนั้นหากโมเดิร์นเทรดขาดจริงก็น่าจะมาซื้อถุง 50 กก.ไปบรรจุขาย
นายชัยวัฒน์ คำแก่นคูณ ประธานชมรมสถาบันชาวไร่อ้อยภาคอีสาน และนายกสมาคมชาวไร่อ้อยน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ชาวไร่อ้อยยังยืนยันอีกครั้งว่าหากพาณิชย์ยังดื้อดึงจะมาใช้เงินกองทุนอ้อยฯในการช่วยเหลือโมเดิร์นเทรดอีกก็คงจะมีชาวไร่อ้อยนับหมื่นคนไปพบปะที่พาณิชย์เพราะพื้นที่กว้างน่าจะรองรับได้ ซึ่งอยากจะขอเตือนพาณิชย์ว่าอย่าตกหลุมพรางของโมเดิร์นเทรด
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า มีแผนจะพิจารณากำหนดราคาเพดานผลิตภัณฑ์น้ำตาลทรายชนิดอื่นๆ เช่น น้ำตาลทรายแยกบรรจุซอง น้ำตาลทรายไม่ฟอกสี จากปัจจุบันที่มีการกำหนดราคาเพดานเฉพาะน้ำตาลทรายขาวเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนกับสินค้าน้ำมันปาล์มที่มีการกำหนดราคาเพดานน้ำมันปาล์มบรรจุขวดเท่านั้น ทำให้ผู้ผลิตหันไปผลิตชนิดที่ไม่ได้มีการควบคุมราคา ส่งผลให้ชนิดที่ถูกควบคุมขาดตลาด
การควบคุมดังกล่าวสามารถทำได้ โดยจะออกประกาศของคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ให้ครอบคลุมถึงน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ชนิดก้อนสี่เหลี่ยมบรรจุกล่อง น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์บรรจุซองที่มีปริมาณไม่เกินซองละ 10 กรัม และบรรจุอยู่ในกล่องหรือภาชนะอื่นๆ น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์บรรจุขวด กล่อง หรือภาชนะที่มีลักษณะพิเศษ จากเดิมที่กำหนดราคาจำหน่ายน้ำตาลทรายขาวขนาด 1 กก.เท่านั้น
นายประเสริฐ ตปนียางกูร เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(สอน.) เปิดเผยหลังการหารือร่วมกับตัวแทนชาวไร่อ้อยและโรงงานน้ำตาลทรายวานนี้(30มี.ค.) ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาถึงแนวทางการนำเงินกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย(กท.)มาชดเชยภาระต้นทุนค่าบรรจุถุงน้ำตาลทราย 1กิโลกรัม(กก.)ที่จำหน่ายในโมเดิร์นเทรดซึ่งเห็นว่าขัดหลักการของข้อกฏหมายที่มีอยู่ที่กำหนดให้กองทุนฯต้องดูแลเสถียรภาพราคาน้ำตาลทรายเท่านั้น จึงมีข้อเสนอแก้ไขโดยให้โมเดิร์นเทรดมาซื้อน้ำตาลทรายถุง 50 กก.ไปตักจำหน่ายแทนเพื่อให้มีเพียงพอกับความต้องการที่สูงขึ้น
“ นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมว.อุตสาหกรรมได้กำชับมาให้เราหารือเรื่องนี้ด่วนเพราะได้รับปากทางกระทรวงพาณิชย์มาแล้ว เราก็หารือและจะสรุปทำรายงานเสนอรัฐมนตรีกลับไปเพื่อนำไปหารือกับพาณิชย์อีกครั้ง”นายประเสริฐกล่าว
ทั้งนี้จากการหารือทางโรงงานน้ำตาลทราย 4 กลุ่มหลักที่ผลิตถุง 1 กก.และอีก 7 โรงงานรายเล็กก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการผลิตเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วในการป้อนโมเดิร์นเทรด 150 ล้านถุงเป็น 192 ล้านถุง จากการผลิตทั้งหมด 266 ล้านถุง โดยโรงงานมีการจ้างแรงงานคนและทำงาน 3 กะเพื่อเร่งผลิตเต็มที่แล้ว ขณะที่ปริมาณน้ำตาลทรายบริโภคในประเทศ(โควตาก.)ที่กำหนดไว้ 25 ล้านกระสอบในปีนี้ล่าสุดมีการขึ้นงวดไปแล้ว 7.97 ล้านกระสอบเหลือค้างกระดาน 1.294 ล้านกระสอบคงเหลือขายกว่า 18 ล้านกระสอบจึงมีปริมาณที่เพียงพอและหากขาดแคลนจริงยังมีการกันสำรองไว้อีก 3 ล้านกระสอบ
นายชลัส ชินธรรมมิตร ประธานคณะทำงานด้านตลาดภายในประเทศ บริษัทไทยซูการ์ มิลเลอร์ จำกัด กล่าวว่า พาณิชย์กำหนดค่าภาชนะบรรจุถุง 1 กก.ไว้ที่ 0.75 บาทซึ่งโรงงานที่ทำน้ำตาลบรรจุถุง 1 กก.เคยร้องเรียนไปให้เพิ่มค่าบรรจุให้คุ้มค่ากับการลงทุนก็จะมีรายอื่นๆ เข้ามาทำตลาดแข่งแต่พาณิชย์ไม่พิจารณาให้ทั้งที่ข้อเท็จจริงน้ำตาลถุง 1 กก.นั้นคิดเป็นเพียง 10%ของตลาดน้ำตาลรวมจึงแทบจะไม่มีผลต่อราคาสินค้าใด ๆ เพราะเป็นการขายตรงให้กับผู้บริโภค ดังนั้นหากโมเดิร์นเทรดขาดจริงก็น่าจะมาซื้อถุง 50 กก.ไปบรรจุขาย
นายชัยวัฒน์ คำแก่นคูณ ประธานชมรมสถาบันชาวไร่อ้อยภาคอีสาน และนายกสมาคมชาวไร่อ้อยน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ชาวไร่อ้อยยังยืนยันอีกครั้งว่าหากพาณิชย์ยังดื้อดึงจะมาใช้เงินกองทุนอ้อยฯในการช่วยเหลือโมเดิร์นเทรดอีกก็คงจะมีชาวไร่อ้อยนับหมื่นคนไปพบปะที่พาณิชย์เพราะพื้นที่กว้างน่าจะรองรับได้ ซึ่งอยากจะขอเตือนพาณิชย์ว่าอย่าตกหลุมพรางของโมเดิร์นเทรด
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า มีแผนจะพิจารณากำหนดราคาเพดานผลิตภัณฑ์น้ำตาลทรายชนิดอื่นๆ เช่น น้ำตาลทรายแยกบรรจุซอง น้ำตาลทรายไม่ฟอกสี จากปัจจุบันที่มีการกำหนดราคาเพดานเฉพาะน้ำตาลทรายขาวเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนกับสินค้าน้ำมันปาล์มที่มีการกำหนดราคาเพดานน้ำมันปาล์มบรรจุขวดเท่านั้น ทำให้ผู้ผลิตหันไปผลิตชนิดที่ไม่ได้มีการควบคุมราคา ส่งผลให้ชนิดที่ถูกควบคุมขาดตลาด
การควบคุมดังกล่าวสามารถทำได้ โดยจะออกประกาศของคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ให้ครอบคลุมถึงน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ชนิดก้อนสี่เหลี่ยมบรรจุกล่อง น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์บรรจุซองที่มีปริมาณไม่เกินซองละ 10 กรัม และบรรจุอยู่ในกล่องหรือภาชนะอื่นๆ น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์บรรจุขวด กล่อง หรือภาชนะที่มีลักษณะพิเศษ จากเดิมที่กำหนดราคาจำหน่ายน้ำตาลทรายขาวขนาด 1 กก.เท่านั้น
