xs
xsm
sm
md
lg

ไฟเขียวแจก“ใบเหลือง-แดง” ก่อนประกาศผล กกต.ย้ำ“ต้องศักดิ์สิทธิ์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้(30 พ.ค.) ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ นายสมชัย จึงประเสริฐ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ด้านสืบสวนสอบสวน ได้เป็นประธานเปิดโครงการประชุมชี้แจงเรื่องระเบียบ ประกาศ แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวนในการเลือกตั้ง ส.ส.เป็นการเลือกตั้งทั่วไปให้กับเจ้าหน้าที่ด้านสืบสวนของกกต.ทั่วประเทศจำนวนกว่า 300 คน โดยนายสมชัย กล่าวตอนหนึ่งว่า กฎหมายเลือกตั้งไม่เหมือนกฎหมายอาญา ซึ่งการทำสำนวนนั้นแตกต่างกัน ที่ผ่านมากกต.ก็จะมีเจ้าหน้าตำรวจสันติบาลเข้ามาทำหน้าที่สืบสวนสอบสวน จนสามารถขยายผลจากหนึ่งเป็นสอง และจากสองเป็นสามสำนวนได้ เมื่อวินิจฉัยเรียบร้อยแล้วเขาก็กลับไป แต่พนักงานสอบสวนกลางต้องทำหน้าที่ต่อ จึงทำให้เกิดความไม่ต่อเนื่องในการทำงาน
นายสมชัย กล่าวว่า ทั้งนี้กกต.ได้จัดทำคู่มือสืบสวนสวนทำให้ขณะนี้ด้านสืบสวนสอบสวนจากเดิมที่อยู่หลังเขาก็ได้ขึ้นมาอยู่บนเขา แต่ขอให้ระวังอย่าให้ตกเขาตายเอง ทุกครั้งหลายฝ่ายก็มองว่า กกต.พยายามดึงสำนวนแต่ความจริงแล้ว กกต.ไม่ได้ดึงเพราะที่ผ่านมาคนสืบสวนสอบสวนเป็นบุคคลภายนอก ทำให้กกต.ไม่สามารถเร่งสำนวนได้ และคนที่ถูกกด่าคือ กกต. ดังนั้นเราต้องแก้ไขว่า ทำไมเราไม่สำนวนเอง เมื่อก่อนนี้อำนาจสืบสวนสอบสวนให้ใบเหลืองใบแดงเป็นหน้าที่ของกกต.ทั้งหมด แต่รัฐธรรมนูญปี 50 ก็ได้ตัดอำนาจของกกต.ไปครึ่งหนึ่ง ทำให้คนมองกกต.เป็นเสือกระดาษ
ดังนั้นจะทำอย่างไรให้ กกต.ได้ใช้อำนาจที่มีก่อนประกาศผลการผลการเลือกตั้งให้มีความศักดิ์สิทธิ์ เพราะจะช่วยทำให้สามารถกลั่นกรองผู้กระทำผิดกฎหมายเลือกที่ได้รับเลือกตั้งไปทำหน้าที่ในสภาที่เป็นการชี้อนาคตของบ้านเมือง
สงครามการเมืองบ้านเรา การเลือกตั้งที่ไม่สุจริตเที่ยงธรรม ที่การซื้อสิทธิขายเสียง ต่างชาติก็จะเห็น บ้านเมืองเราก็วุ่นวาย หากมีการเลือกตั้งสุจริตเที่ยงธรรมก็ยากที่จะมีผู้หนึ่งผู้ใดปฏิเสธว่า การเลือกตั้งเราใช้ไม่ได้ และยากที่มีใครกล่าวอ้างเพื่อทำร้ายระบบประชาธิปไตย จึงของพวกเราเสียสละทำงานเพื่อบ้านเมืองให้ระบบประชาธิปไตยเดินไปได้ และเพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง แม้อาจจะรักใครชอบใครก็ได้แต่การทำหน้าที่ก็ขอให้เป็นกลางให้ทุกฝ่ายยอมรับ หากทำได้ชื่อเสียงของกกต.จะกลับคืนมา" นายสมชัย กล่าว

**"สดศรี" แนะกล่าวหากันอย่าพูดลอยๆ
ที่โรงแรมสินเกียรติธานี อ.เมือง จ.สตูล นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง พร้อมคณะ ได้เดินทางมายัง จ.สตูล เพื่อทำการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับพรรคการเมืองและการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 ก.ค. 54 นี้ โดยร่วมกับ กกต.จ.สตูล ทั้งนี้เพื่ออบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการเลือกตั้งเพื่อให้ คณะกรรมการสาขาพรรคการเมือง จ.สตูล สมาชิกพรรคการเมือง องค์กรท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และประชาชนทั่วไปรวมทั้งสิ้น 300 คน เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายพรรคการเมืองและกฎหมายเลือกตั้ง ส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน ตลอดจนมีความรู้เกี่ยวกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
นางสดศรี กล่าวว่า การร้องเรียนในการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยมีการร้องเรียนเข้ามาแล้ว แต่ไม่ใช่เรื่องการทุจริตการเลือกตั้งแต่เป็นเรื่องของพรรคการเมืองระแวงกันเอง รวมทั้งระแวงมาถึง กกต.ด้วย ตนอยากให้พรรคไหนที่กล่าวหากันให้มีหลักฐาน อย่ากล่าวหากันลอยๆ นอกจากนี้มีการกดดัน กกต.ตลอดเวลา ทั้งเรื่องการพิมพ์บัตร โดยมองว่าจะให้มีการได้เปรียบเสียเปรียบ ซึ่งไม่น่าจะใช้หลักเกณฑ์นี้มาโจมตี
ทาง กกต.เราพยายามเป็นกลางตลอดเวลาและเชิญสื่อมวลชนไปดูการพิมพ์บัตร ใช้ระบบรัฐต่อรัฐ โดยให้กองสลากและโรงพิมพ์ท้องถิ่นเป็นผู้พิมพ์บัตรยอมรับว่า พิมพ์เกินจริง เพราะแต่ละจังหวัดยังไม่ได้ระบุว่า มีผู้ใช้สิทธิ์มากแค่ไหน ซึ่งในปี 2548 มีการพิมพ์เกิน 7%เหมือนกัน สาเหตุที่พิมพ์เกินยังไม่ทราบจำนวนประชากรว่ามีเท่าไหร่ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากบัตรเลือกตั้งถูกทำลาย หากบัตรเลือกขาดเมื่อไหร่ไม่สามารถทดแทนได้จะมีปัญหาทันที แม้พิมพ์เกินแต่สามารถควบคุมได้ก็ไม่มีปัญหา
"อยากให้พรรคการเมืองแต่ละพรรคที่จ้องเอาเรื่อง กกต. ต้องการล้มกรรมการการเลือกตั้ง หากไม่มีกรรมการฯจะเลือกตั้งได้หรือไม่ ขอเตือนว่าเมื่อเห็นการเลือกตั้งสำคัญ ก็อย่าทำ ยกตัวอย่าง กรณีมีการบอกประธาน กกต.ไปพบคนโน้นคนนี้ มีอะไรพิสูจน์หรือไม่ มีภาพถ่ายหรือไม่ เราพยายามประคับ ประคองเพราะเหลือเวลาอีก 30 กว่าวันจะเลือกตั้ง อย่าสงสัยว่า กกต.เข้าข้างพรรคการเมืองใด และในครั้งนี้เรามีการเลือกตั้งแน่นอน อยากเปรียบเสมือน กกต.คือ กรรมการห้ามมวยบนเวที หากนักมวยจ้องน๊อกกรรมการแล้ว มวยจะชกได้อย่างไร หากอยากมีการเลือกตั้งก็อย่าทำลาย กกต." นางสดศรี ระบุ

** เด็จพี่โวยกกต.พิมพ์บัตรเกินกว่า 5 ล้านใบ?
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง ออกมาชี้แจงถึงกรณีที่ กกต.พิมพ์บัตรเลือกตั้งเกินนั้น เนื่องจากว่ากลัวว่าบัตรเลือกตั้จะไม่เพียงพอนั้น ทางพรรรคเพื่อไทยเห็นว่าทาง กกต.พิมพ์บัตรเลือกตั้งกว่า 53 ล้านใบ ซึ่ง คณะอำนวยการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยตรวจสอบพบว่ากกต.แถลงอย่างเป็นทางการว่ามีผู้ใช้สิทธิจำนวน 47.3 ล้านคน แต่กฎหมายให้กกต.สามารถพิมพ์บัตรเกินได้ 7 % หรือจำนวนประมาณ 3.3 ล้านใบ รวมแล้วกกต.พิมพ์บัตรเลือกตั้งทั้งหมดได้ 50.6 ล้านใบ เท่านั้น แต่ขณะนี้ กกต.พิมพ์บัตรเลือกตั้งเกินจำนวนที่กฎหมายกำหนดไปกว่า 2 ล้านใบ ในระบบ ส.ส.เขต และระบบบัญชีรายชื่ออีกกว่า2 ล้านใบ รวมแล้ว กกต.พิมพ์บัตรลงคะแนนมากกว่าที่กฎหมายกำหนดกว่า 5 ล้านใบ ทางพรรคเพื่อไทยจึงอยากจะให้ทาง กกต.คิดทบทวนเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้นายพร้อมพงศ์ เดินทางไปยื่นหนังสือต่อกกต. เพื่อขอให้กกต. เร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น