แกนนำพันธมิตรฯ ซัดรัฐรบเขมรย่ำรอยเท้าเดิม จี้เลิกเอ็มโอยู 43 ไล่เพื่อนบ้านพ้นพื้นที่ก่อนเจรจา ชู 3 ข้อเรียกร้องแก้ปัญหา ยันถ้าหยุดยิงต้องอยู่บนพื้นฐานที่ไม่เสียดินแดน เล็งส่งของช่วยชาวบ้านพรุ่งนี้ ชี้ “สมศักดิ์-สาวิทย์” ลาออกแกนนำเรื่องปกติ เหตุหวั่นผิด กม.พรรคทำปราศรัยไม่สะดวก
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (29 เม.ย.) ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงสถานการณ์เหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาว่า ขณะนี้มีการหยุดยิงชั่วคราวหลังจากที่มีการปะทะกันมาตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งซ้ำรอยเหตุการณ์การปะทะเมื่อวันที่ 4-6 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่มีการปะทะและมีการเจรจาหยุดยิงชั่วคราว จนมาเกิดเหตุอีกครั้งในช่วงนี้ ในความเป็นจริงฝ่ายไทยสามารถทำให้เกิดการหยุดยิงถาวรได้ แต่ก็ไม่ทำ จึงเกิดเป็นวงจรซ้ำแล้วซ้ำเล่า และทำให้มีทหารบาดเจ็บล้มตาย ประชาชนไทยก็ได้รับความเดือดร้อนต้องอพยพจากบ้านเรือน เหตุใดรัฐบาลไทยจึงปล่อยให้เป็นเช่นนี้ ทั้งที่รัฐบาลน่าจะใช้โอกาสนี้ในการยกเลิกเอ็มโอยู 2543 และทำการผลักดันทหารและชุมชนกัมพูชาออกจากดินแดนไทย ก่อนที่จะให้มีการหยุดยิงถาวรต่อไป
“พันธมิตรฯ ได้แนะนำมานานแล้ว แต่ก็ไม่มีการตอบสนองใดๆ ต่อวิธีการแก้ปัญหา 3 ข้อ คือ 1.ยกเลิกเอ็มโอยู 2543 2.ถอนตัวออกจากการเป็นภาคีมรดกโลก และ 3.ผลักดันกัมพูชาออกจากแผ่นดินไทย ส่วนสถานการณ์ตอนนี้ที่มีหลายประเทศให้ความสนใจ และอยากให้มีการหยุดยิงนั้น เชื่อว่าใครก็อยากให้มีการหยุดยิง แต่ต้องเป็นการหยุดยิงบนพื้นฐานของการไม่สูญเสียดินแดนด้วย” พล.ต.จำลองกล่าว
ในส่วนกรณีมาตรการการช่วยเหลือทหารและราษฎรตามแนวชายแดนที่ได้รับผลกระทบจากการปะทะของทหาร พล.ต.จำลองกล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (30 เม.ย.) จะมีการนำสิ่งของไปช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของคนไทยที่อยู่ในพื้นที่ โดยครั้งนี้เป็นการดำเนินการของกลุ่มย่อย โดยมีนายเทพมนตรี ลิมปพยอม กรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย เป็นผู้ประสานงาน เนื่องจากเมื่อครั้งการปะทะที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา พันธมิตรฯ ได้ส่งความช่วยเหลือไปแล้วครั้งหนึ่ง อีกทั้งในครั้งนี้กองทัพได้งบประมาณถึง 1 พันล้านบาทที่ใช้ในการปะทะที่ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ทำให้เราไม่ได้ประกาศขอความช่วยเหลือจากประชาชนเพิ่มเติม เพราะเห็นว่าการชุมนุม 95 วันที่ผ่านมาประชาชนได้ให้ความสนับสนุนการชุมนุมมามากแล้ว จึงไม่ต้องการรบกวนเพิ่มเติมอีก อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกที่มีการปะทะครั้งนี้ พันธมิตรฯส่วนกลางก็ได้ประสานให้พันธมิตรฯ ส่วนท้องถิ่นที่ อ.กันทรลักษ์ ที่เป็นพื้นที่ใกล้เคียงนำอาหารและน้ำดื่มไปช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว
พล.ต.จำลองยังได้กล่าวถึงกรณีที่นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ และนายสาวิทย์ แก้วหวาน เลขาธิการสมาพันธ์แรงรัฐสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ลาออกจากการเป็นแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รุ่นที่ 1 และรุ่นที่ 2 ว่า ถือเป็นเรื่องปกติ หากมีความเห็นสมควรอย่างไรก็สามารถปฏิบัติได้ตามนั้น ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาทั้งคู่ก็ขึ้นเวทีปราศรัย แต่ก็ได้ระมัดระวังตัวในการปราศรัย เนื่องจากนายสมศักดิ์เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ จึงต้องระวังจะกระทำผิดกฎหมายพรรคการเมือง ทำให้ไม่สะดวกเหมือนการชุมนุมที่แล้วๆ มา ในส่วนแถลงการณ์ของ สรส.ก็ปรากฏว่านายอำนาจ พละมี รองเลขาฯ สรส.ได้ชี้แจงบนเวทีเมื่อวานนี้ (28 เม.ย.) ว่า การลาออกจากแกนนำเป็นเพียงความต้องการส่วนตัวของนายสมศักดิ์ และนายสาวิทย์เท่านั้น ไม่เกี่ยวกับแนวทางของ สรส.ที่ยังร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ อยู่
“ในการชุมนุมนั้น เปิดกว้างให้ผู้ที่เห็นด้วยมาร่วม ส่วนผู้ที่เห็นต่างไม่เข้าร่วม เราก็ไม่ตำหนิ ในการชุมนุมครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของตัวผู้ปราศรัยบ้าง แต่ก็ไม่ได้กระทบต่อวัตถุประสงค์ของการชุมนุมแต่ประการใด” พล.ต.จำลองกล่าว
