ASTVผู้จัดการรายวัน- "ณอคุณ"สั่งสนพ.ทบทวนแผนพลังงานยกกะบิทั้ง ไฟฟ้าที่จะดูการพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟใหม่เหตุอากาศเปลี่ยนไป รวมถึงพลังงานทดแทน เพื่อให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงก่อนเสนอรัฐบาลใหม่ กฟผ.เผยพีคเริ่มไต่ระดับแต่ยังต่ำกว่าปีที่แล้ว
นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) เปิดเผยว่า นายณอคุณ สุทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงานได้มอบหมายให้สนพ.ไปทบทวนแผนพลังงานทั้งหมดเพื่อโดยเฉพาะเรื่องการพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าที่จะนำมาปรับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าหรือพีดีพี ซึ่งสนพ.คงจะต้องคำนึงในเรื่องของภาวะเศรษฐกิจ สภาพอากาศที่ผิดปกติ และข้อจำกัดในเรื่องเชื้อเพลิง นอกจากนี้ยังต้องทบทวนเรื่องของพลังงานทดแทนและการอนุรักษ์พลังงานให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง ซึ่งเมื่อสรุปแล้วจะมีการนำเสนอต่อรัฐบาลชุดใหม่ต่อไป
นายชวลิต พิชาลัย รองผู้อำนวยการสนพ.กล่าวว่า ในอีก 10 ปีข้างหน้าหรือราวปี 2563-2564 ไทยจะมีข้อจำกัดในเรื่องของปัญหาเชื้อเพลิงในการสร้างโรงไฟฟ้ามากเนื่องจากปริมาณสำรองก๊าซฯที่มีอยู่ในอ่าวไทยจะทยอยหมดลงดังนั้นกรณีไม่มีการค้นพบแหล่งใหม่จะทำให้ไทยต้องพึ่งการนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากต่างประเทศในรูปของเหลวหรือแอลเอ็นจีซึ่งจะมีต้นทุนที่สูงขึ้นและหนีไม่พ้นที่ไทยจะต้องรับภาระค่าไฟฟ้าที่แพงมาก
" การปรับแผนพีดีพีที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 5 แห่งแห่งละ 1,000เมกะวัตต์ที่จะต้องเลื่อนออกไปจากโรงแรกที่จะเข้าตามแผนเดิมปี 2563 เป็นปี 2566 ดังนั้นจึงต้องหันมาใช้ก๊าซฯผลิตไฟแทนระหว่างนี้ สิ่งที่กังวลคือหลังจากนั้นไทยจะมีทางเลือกเชื้อเพลิงไม่มากซึ่งยังคงหนีไม่พ้นนิวเคลียร์และถ่านหิน แต่ระยะสั้นมองว่าถ่านหินสะอาดเป็นอะไรที่คงจะต้องทำความเข้าใจกับประชาชนเพราะหากเราพึ่งพิงก๊าซฯสูงถึง 80% จะเสี่ยงมากเพราะประเทศที่พัฒนาแล้วหรือประเทศที่มีน้ำมันหรือก๊าซฯมากกว่าเรายังไม่คิดพึ่งเชื้อเพลิงใดเชื้อเพลิงหนึ่งที่สูงขนาดนี้"นายชวลิตกล่าว
นายพิบูลย์ บัวแช่ม ผู้ช่วยผู้ว่าการควบคุมระบบกำลังไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมาเวลาประมาณ 14.00 น.ความต้องการใช้ไฟสูงสุด(พีค)อยู่ที่ 23,900 เมกะวัตต์ซึ่งมีอัตราต่ำกว่าพีคปีที่แล้วประมาณ 100 เมกะวัตต์เนื่องจากแม้ว่าอากาศจะร้อนแต่จะมีฝนตกเข้ามา อย่างไรกฟผ.ยังคงต้องติดตามภาวะอากาศใกล้ชิดเนื่องจากแม้ว่าฝนจะตกลงมาแต่อากาศยังคงร้อนสะสมซึ่งอาจส่งผลให้พีคยังมีโอกาสเกิดขึ้นได้อีกดังนั้นภาพรวมการใช้ไฟไม่ได้ลดต่ำมากแต่อย่างใด
นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) เปิดเผยว่า นายณอคุณ สุทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงานได้มอบหมายให้สนพ.ไปทบทวนแผนพลังงานทั้งหมดเพื่อโดยเฉพาะเรื่องการพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าที่จะนำมาปรับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าหรือพีดีพี ซึ่งสนพ.คงจะต้องคำนึงในเรื่องของภาวะเศรษฐกิจ สภาพอากาศที่ผิดปกติ และข้อจำกัดในเรื่องเชื้อเพลิง นอกจากนี้ยังต้องทบทวนเรื่องของพลังงานทดแทนและการอนุรักษ์พลังงานให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง ซึ่งเมื่อสรุปแล้วจะมีการนำเสนอต่อรัฐบาลชุดใหม่ต่อไป
นายชวลิต พิชาลัย รองผู้อำนวยการสนพ.กล่าวว่า ในอีก 10 ปีข้างหน้าหรือราวปี 2563-2564 ไทยจะมีข้อจำกัดในเรื่องของปัญหาเชื้อเพลิงในการสร้างโรงไฟฟ้ามากเนื่องจากปริมาณสำรองก๊าซฯที่มีอยู่ในอ่าวไทยจะทยอยหมดลงดังนั้นกรณีไม่มีการค้นพบแหล่งใหม่จะทำให้ไทยต้องพึ่งการนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากต่างประเทศในรูปของเหลวหรือแอลเอ็นจีซึ่งจะมีต้นทุนที่สูงขึ้นและหนีไม่พ้นที่ไทยจะต้องรับภาระค่าไฟฟ้าที่แพงมาก
" การปรับแผนพีดีพีที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 5 แห่งแห่งละ 1,000เมกะวัตต์ที่จะต้องเลื่อนออกไปจากโรงแรกที่จะเข้าตามแผนเดิมปี 2563 เป็นปี 2566 ดังนั้นจึงต้องหันมาใช้ก๊าซฯผลิตไฟแทนระหว่างนี้ สิ่งที่กังวลคือหลังจากนั้นไทยจะมีทางเลือกเชื้อเพลิงไม่มากซึ่งยังคงหนีไม่พ้นนิวเคลียร์และถ่านหิน แต่ระยะสั้นมองว่าถ่านหินสะอาดเป็นอะไรที่คงจะต้องทำความเข้าใจกับประชาชนเพราะหากเราพึ่งพิงก๊าซฯสูงถึง 80% จะเสี่ยงมากเพราะประเทศที่พัฒนาแล้วหรือประเทศที่มีน้ำมันหรือก๊าซฯมากกว่าเรายังไม่คิดพึ่งเชื้อเพลิงใดเชื้อเพลิงหนึ่งที่สูงขนาดนี้"นายชวลิตกล่าว
นายพิบูลย์ บัวแช่ม ผู้ช่วยผู้ว่าการควบคุมระบบกำลังไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมาเวลาประมาณ 14.00 น.ความต้องการใช้ไฟสูงสุด(พีค)อยู่ที่ 23,900 เมกะวัตต์ซึ่งมีอัตราต่ำกว่าพีคปีที่แล้วประมาณ 100 เมกะวัตต์เนื่องจากแม้ว่าอากาศจะร้อนแต่จะมีฝนตกเข้ามา อย่างไรกฟผ.ยังคงต้องติดตามภาวะอากาศใกล้ชิดเนื่องจากแม้ว่าฝนจะตกลงมาแต่อากาศยังคงร้อนสะสมซึ่งอาจส่งผลให้พีคยังมีโอกาสเกิดขึ้นได้อีกดังนั้นภาพรวมการใช้ไฟไม่ได้ลดต่ำมากแต่อย่างใด