ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.30 น. ที่ห้องแกรนด์ ไดมอนด์ บอลรูม อาคารคอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ เมืองทองธานี สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้จัดโครงการการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์ ในการเลือกตั้ง ส.ส.เป็นการเลือกตั้งทั่วไป แบบบัญชีรายชื่อ จำนวน 1,410 คน จาก 40 พรรคการเมือง ที่ได้มีการสมัครไปเมื่อวันที่ 19-23 พ.ค. แต่มีพรรคการเมืองมาร่วมงานครั้งนี้จำนวน 28 พรรค ประมาณ 400 คน ซึ่งในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ได้นำทีมว่าที่ผู้สมัครบัญชีรายชื่อมาร่วมงาน
ขณะที่พรรครักษ์สันติ มี ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ว่าที่ผู้สมัครบัญชีรายชื่ออันดับหนึ่ง นำทีมมา นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ และนายเสรี สุวรรณภานนท์ หัวหน้าพรรคประชาสันติ นอกนั้นก็เป็นตัวแทนของพรรคที่ส่งมา ขณะที่พรรคเพื่อไทย ส่งนางรังสิมา เจริญศิริ และ นายพิทยา พุกะมาน มาร่วม
สำหรับพรรคที่มาร่วมงาน ประกอบด้วย 1. พรรคพรรคประชาธิปัตย์ 2. พรรคเพื่อไทย 3.พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน 4. พรรคประชาธิปไตยใหม่ 5. พรรคประชากรไทย 6. พรรคพลังชล 7.พรรคประชาธรรม 8. พรรคพลังมวลชน 9. พรรคไทยพอเพียง 10. พรรครักษ์สันติ
11. พรรคไทยเป็นสุข 12. พรรคกิจสังคม 13. พรรคไทยเป็นไท 14. พรรคแทนคุณแผ่นดิน 15. พรรคเพื่อฟ้าดิน 16. พรรคเครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย 17. พรรคการเมืองใหม่ 18. พรรคชาติไทยพัฒนา 19. พรรคเสรีนิยม 20. พรรคชาติสามัคคี
21. พรรคกสิกรไทย 22. พรรคพลังสังคมไทย 23. พรรคประชาชนชาวไทย 24. รรครักแผ่นดิน 25. พรรคประชาสันติ 26.พรรคพลังชาวนาไทย 27. พรรคไทยสร้างสรรค์ และ 28. พรรคเพื่อนเกษตรกรไทย
ส่วนพรรคการเมืองที่ลงสมัครบัญชีรายชื่อ แต่ไม่มีตัวแทนมาร่วมงานในครั้งนี้ประกอบด้วย 1. พรรคภูมิใจไทย 2. พรรคมาตุภูมิ 3. พรรคความหวังใหม่ 4. พรรครักประเทศไทย 5. พรรคดำรงไทย 6. พรรคบำรุงเมือง 7. พรรคชีวิตที่ดีกว่า 8. พรรคเพื่อประชาชนไทย 9. พรรคมหาชน 10. พรรคอาสามาตุภูมิ 11. พรรคพลังคนกีฬา และ 12. พรรคมหารัฐพัฒนา
โดยการจัดงานครั้งนี้ ได้จัดให้มีการร้องเพลงประสานเสียง “แผ่นดินของเรา” และ “รักกันไว้เถิด” ของนักเรียนโรงเรียบมัธยมสังคีตวิทยา นอกจากนี้ได้มีการนำเสนอวีดีทัศน์ พระบรมราโชวาท ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นผู้สมัครรับเลือกตั้งฯ และผู้สนับสนุน ได้ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ก่อนที่จะได้ชมวีดีทัศน์ ปาฐกถาธรรมของผู้นำศาสนา “คนดีในวิถีประชาธิปไตย และได้ให้ผู้สมัครฯ และผู้สนับสนุน ร่วมกันกล่าวพันธสัญญา 5 ข้อ โดยคำกล่าวมีดังนี้
" ข้าพเจ้าผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ขอให้พันธสัญญา เพื่อให้การเลือกตั้งส.ส.ที่มีจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 3 ก.ค.54 เป็นไปโดยสุจริต และเที่ยงธรรม"
ข้อ 1. ข้าพเจ้าจะไม่นำสถาบันพระมหากษัตริย์ มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง
ข้อ 2. ข้าพเจ้าจะไม่ใช้กลไกลของรัฐ หรือทรัพยากรของรัฐ มาเป็นประโยชน์ในการหาเสียงเลือกตั้ง
ข้อ 3. ข้าพเจ้าจะปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ อันเกี่ยวกับการเลือกตั้งอย่างเคร่งครัด
ข้อ 4. ข้าพเจ้าจะหาเสียงเลือกตั้งโดยสันติวิธี ไม่ข่มขู่คุกคามคู่แข่งขันด้วยวิธีการใดๆ และไม่ใช้วิธีการรุนแรงในการหาเสียงเลือกตั้ง ข้อ 5. ข้าพเจ้าจะยอมรับผลการเลือกตั้งตามที่ประชาชนได้แสดงเจตนารมณ์ในการเลือกตั้งอย่างจริงใจ อย่างไรก็ตามหลังจากกล่าวพันธสัญญาฯเสร็จแล้ว ก็ได้มีการมอบดอกกุหลายสีชมพูระหว่างตัวแทนพรรคการเมืองที่มาร่วมกิจกรรม
** ลดปัญหาการร้องคัดค้าน
นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย เป็นประธาน กล่าวเปิดโครงการว่า โครงการนี้เป็นนโยบายของการเลือกตั้ง คือต้องการลดปริมาณเรื่องการร้องเรียน ร้องคัดค้าน การเลือกตั้งที่เกิดจากการสำคัญผิดในข้อกฎหมาย หรือข้อเท็จจริง ซึ่งการเลือกตั้งทั้งระดับชาติ หรือการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นที่ผ่านมา กกต.ได้วินิจฉัยแต่เรื่องแบบนี้ ซึ่งเมื่อสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ ก็ทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณ และทำให้ประชาชนเกิดความเบื่อหน่าย ไม่อยากไปลงคะแนน จึงมีความแตกแยกเกิดขึ้น
ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกัน และแก้ไขปัญหาดังกล่าวสำนักงาน กกต. จึงได้มีการใช้ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยการเลือกตั้งสมานฉันท์ เมื่อวันที่ 9 ก.พ.50 เป็นต้นมา ซึ่งผลที่ได้จากการดำเนินการโครงการดังกล่าว ถือได้ว่าประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่งที่สามารถลดปริมาณเรื่องร้องเรียนลงได้ การเลือกตั้ง จะเป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรมได้รับการยอมรับจากทุกภาคส่วน
นายสมชัย กล่าวอีกว่า เหตุปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือ ความตั้งใจจริงของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการเลือกตั้ง จึงขอให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งทุกท่าน ตระหนักอยู่เสมอว่า การถวายคำสัตย์ปฏิญาณ การดื่มน้ำสาบาน หรือการให้พันธสัญญา รวมทั้งงบประมาณ และเวลาที่เสียไป จะไม่เกิดประโยชน์อะไรเลยหากท่านทั้งหลายไม่เคารพกฎ กติกา ตนจึงหวังเป็นอย่างยิ่ง นับแต่นี้จนสิ้นสุดเลือกตั้ง จนประกาศผลเลือกตั้ง ทุกท่านจะดำเนินการตามระเบียบกฎหมาย และขอให้ระลึกเสมอว่าการให้พันธสัญญาในวันนี้มิใช่เป็นการให้พันธสัญญาต่อตัวท่านเอง แต่ที่แห่งนี้ ยังมีบุคคลหลายฝายร่วมเป็นสักขีพยานด้วย ตนหวังว่าเลือกตั้งครั้งนี้ จะไม่มีเรื่องร้องคัดค้านกาเรลือกตั้งที่มาจากสำคัญผิดกฎหมาย หรือกลั่นแกล้ง
"ผมคิดว่า ความสมานฉันท์ในการเลือกตั้งครั้งนี้ น่าจะเป็นจุดเปลี่ยนทางการเมืองที่สำคัญของการเมืองไทย และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่นักการเมืองรุ่นต่อไป ซึ่งต้องอาศัยความตั้งใจจริง และการมีจุดยืน มีอุดมการณ์ใหม่ ที่ยึดโยงอยู่บนผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญก็จะทำให้การเลือกตั้งมิใช่เป็นการแข่งขันเอาเป็นเอาตาย หรือจ้องทำลายคู่แข่ง หรือมองคู่แข่งในลักษณะเป็นศัตรู แต่ต้องคำนึงถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นแก่ประชาชน ซึ่งกระบวนการสร้างความสมานฉันท์ จะสัมฤทธิ์ผลได้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกท่าน โดย กกต.เชื่อว่าการเลือกตั้ง 3 ก.ค. ทุกท่านจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เพื่อให้การเลือกตั้งสุจริตและเที่ยงธรรม" นายสมชัย กล่าว
**ลบคำสบประมาทส.ส.ซื้อเสียง
นายสมชัย กล่าวด้วยว่า นับแต่ตนมาทำหน้าที่ กกต.มาหลายปีนั้น รู้สึกท้อแท้ รู้สึกอ่อนอกเพลียใจ ว่า ทำไมบ้านเมืองของเราที่อุดมสมบูรณ์ เป็นบ้านเมืองมีศาสนาพุทธ มีเมตตาธรรมแตทำไมบ้านเมืองมีความเครียด ประชาชนส่วนใหญ่หาความสุขยาก แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จประทับท่าน้ำโรงพยาบาลศิริราช ด้วยพระพักตร์ยิ้มแย้มผ่องใส ทำให้ตนและคณะทำงานรู้สึกมีกำลังใจทั้งกาย และใจ เพื่อให้ประเทศของเราผ่านวิกฤตให้บ้านเมืองที่สงบร่มเย็นภายใต้พระบารมีให้ได้ ซึ่งเราได้อันเชิญพระบรมราโชวาทมา เมื่อเราไม่อาจทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้แต่น่าจะส่งเสริมคนดีให้ปกครองบ้านเมือง การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการเลือกตั้งสำคัญยิ่งที่จะเป็นเครื่องชี้อนาคตประเทศ ว่า ประเทศของเราจะปกครองในระบอบประชาธิปไตยแบบนานาอารยประเทศ ที่ใช้ปกครองมาได้เพียงใด
" เท่าที่ผ่านมา มีหลายฝ่ายที่เห็นว่า ผู้ทื่ได้รับเลือกตั้งในสภาเกินกว่าครึ่งเข้ามาโดยซื้อสิทธิ ขายเสียง มี หลายฝ่ายสบประมาทว่า ผู้อยู่ในสภาคือ เสือสิงห์กระทิงแรด มีการรณรงค์ให้โหวตโน ไม่ใช่ว่าจะเป็นเรื่องดีต่อประเทศชาติ วันนี้มาร่วมพิธีเลือกตั้งสมานฉันท์ อยากให้ท่านทั้งหลายลบคำสบประมาทนี้ให้ได้ โดยเลือกตั้งภายใต้กฎ กติกา ระเบียบของ กกต. ถ้าท่านไม่กระทำผิดกฎหมายของกกต. แล้วทุกคนยอมรับว่า เลือกตั้งนั้นเป็นสุจริต และเที่ยงธรรม ผมก็คิดว่าคำสบประมาทจะถูกลบไป และคนที่พูดนั้นก็น่าจะต้องอาย อยากให้ท่านช่วยสร้างวัฒนธรรม ระบอบประชาธิปไตยเอาไว้เพื่อให้บ้านเมืองของเรา จะได้ไม่มีการปฏิวัติรัฐประหาร ล้มระบอบการปกครองประชาธิปไตย" นายสมชัย กล่าว และว่า ขณะนี้กกต.ได้ตั้งศูนย์อำนวยการสืบสวนสอบสวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ศอส.) ขึ้นมาศูนย์นี้ไม่ได้จ้องจับผิด แต่มาตรวจสอบว่าท่านได้ปฏิบัติตามกฎหมายจะไม่มีใครใส่ร้ายกลั่นแกล้งท่านได้ ท่านมั่นใจได้ว่า กกต.จะจัดเลือกตั้งครั้งนี้ให้เป็นไปโดยสุจริต และเที่ยงธรรมไม่มีการกลั่นแกล้งกัน และสองมาตรฐาน" นายสมชัย กล่าว
** หวัง 3 ก.ค.เปิดศักราชปรองดอง
นายวิสุทธิ์ โพธิแท่น กกต.ด้านกิจการการมีส่วนร่วมกล่าวว่า หลักการประเทศไทยของเรา เป็นประชาชนคนไทย เราอยากให้ประเทศเราเจริญรุ่งเรืองมีปัญหาน้อยที่สุด ท่านทั้งหลายมาเสนอตัวเสนอผู้สมัครแข่งขันให้ประชาขนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เลือกผู้แทนแทนประชาชนในเรื่องต่างๆ แล้วถ้าได้รับเสียงข้างมาก ในสภาก็เป็นรัฐบาล กกต.เป็นคนกลางว่าไปตามเนื้อผ้า ดูตามควมต้องการของประชาชนของประเทศ ตนเชื่อว่าที ถ้าอยู่ด้วยความรักสามัคคี ถ้อยทีถ้อยอาศัยยอมรับผลที่เกิดขึ้น ถ้าต่างคนต่างเคารพกฎหมาย ปัญหาก็ไม่เกิด ถ้าทุกคนไม่ทำผิดกฎหมาย ถ้าทุกคนพยายามเข้าใจว่ากฎหมายและระเบียบ
ทั้งนี้การเลือกตั้ง 3 ก.ค.นี้ คงเป็นสิ่งที่เปิดศักราชใหม่ที่ทำให้เกิดสมานฉันท์ปรองดอง
**วอนแข่งขันด้วยน้ำใจนักกีฬา
นายวิสุทธิ์ โพธิแท่น กกต. ด้านกิจการการมีส่วนร่วม กล่าวถึง การจัดโครงการการเลือกตั้งสมานฉันท์ในการเลือกตั้ง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ว่า เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ สุจริต และเที่ยงธรรม โดยมีกกต. เป็นคนกลางจัดการเลือกตั้ง ซึ่งหวังว่าผู้ลงสมัครเลือกตั้งทุกคน จะปฏิบัติตามระเบียบ และกฎหมายการเลือกตั้ง แข่งขันกันด้วยความสุจริต มีน้ำใจนักกีฬา
เมื่อถามว่า กกต. มีความกังวลว่า การหาเสียงเลือกตั้งต่อจากนี้จะรุนแรงหรือไม่ หลังมีผู้สมัครจำนวนหนึ่ง ได้ขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจคุ้มกัน นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ทุกประเทศที่จัดการเลือกตั้งย่อมเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ แต่ต้องยอมรับว่า มีน้อยมาก หากทุกคนต้องการให้ประเทศมีความเจริญก้าวหน้า ก็ควรงดการกระทำที่ผิดกฎหมายการเลือกตั้ง เพราะทำไปก็ไม่ได้เกิดประโยชน์ใดๆ ฉะนั้นควรแข่งขันไปตามกฎ กติกา ตรงไปตรงมา อย่าทำร้ายกัน จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด อีกทั้งการเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะเป็นการกำหนดอนาคต และทิศทางของประเทศไทย
เมื่อถามว่า การจัดโครงการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์ในครั้งนี้ มีผู้สมัคร และพรรคการเมืองตอบรับเข้าร่วมงานกันน้อย มากจะส่งผลต่อความร่วมมือต่อการการจัดการเลือกตั้งหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า อย่าไปกังวล หรือคิดอะไรเลย ควรมองโลกในแง่ดี เข้าใจว่า ขณะนี้ผู้สมัครและทุกพรรคการเมืองกำลังเข้าสู่ช่วงของการลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้ง รวมทั้งโครงการการเลือกตั้งสมานฉันท์ในวันนี้เป็น การเชิญผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งหากผู้สมัคร หรือพรรคการเมืองใด ที่ไม่สะดวกเดินทางมาร่วมงานก็สามารถส่งตัวแทนมาร่วมงานก็ได้
เมื่อถามว่า ทางกกต. อยากฝากอะไร ถึงผู้สมัคร และพรรคการเมืองที่ไม่ได้มาร่วมงานในวันนี้ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ขอฝากไปทางผู้สมัครทุกคน ถ้าหากว่าเกิดความสงสัยในเรื่องของข้อกฎหมายการเลือกตั้ง ก็สามารถสอบถามมายัง กกต. ได้ โดยเฉพาะในการจัดงานวันนี้ กกต. ได้มีรองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ทุกด้าน มาให้ข้อมูลและความรู้ ฉะนั้น หากมีความสงสัยก็ให้สอบถามได้
ส่วนโครงการการเลือกตั้งสมานฉันท์ของผู้สมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ก็จะมีการจัดกิจกรรมเช่นกัน โดย กทม. จะจัดในวันที่ 6 มิ.ย. ที่ศูนย์การค้าเจเจมอลล์ เขตจตุจักร ส่วนจังหวัดอื่นๆ ก็จะทยอยจัดงานต่อไป
ขณะที่พรรครักษ์สันติ มี ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ว่าที่ผู้สมัครบัญชีรายชื่ออันดับหนึ่ง นำทีมมา นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ และนายเสรี สุวรรณภานนท์ หัวหน้าพรรคประชาสันติ นอกนั้นก็เป็นตัวแทนของพรรคที่ส่งมา ขณะที่พรรคเพื่อไทย ส่งนางรังสิมา เจริญศิริ และ นายพิทยา พุกะมาน มาร่วม
สำหรับพรรคที่มาร่วมงาน ประกอบด้วย 1. พรรคพรรคประชาธิปัตย์ 2. พรรคเพื่อไทย 3.พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน 4. พรรคประชาธิปไตยใหม่ 5. พรรคประชากรไทย 6. พรรคพลังชล 7.พรรคประชาธรรม 8. พรรคพลังมวลชน 9. พรรคไทยพอเพียง 10. พรรครักษ์สันติ
11. พรรคไทยเป็นสุข 12. พรรคกิจสังคม 13. พรรคไทยเป็นไท 14. พรรคแทนคุณแผ่นดิน 15. พรรคเพื่อฟ้าดิน 16. พรรคเครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย 17. พรรคการเมืองใหม่ 18. พรรคชาติไทยพัฒนา 19. พรรคเสรีนิยม 20. พรรคชาติสามัคคี
21. พรรคกสิกรไทย 22. พรรคพลังสังคมไทย 23. พรรคประชาชนชาวไทย 24. รรครักแผ่นดิน 25. พรรคประชาสันติ 26.พรรคพลังชาวนาไทย 27. พรรคไทยสร้างสรรค์ และ 28. พรรคเพื่อนเกษตรกรไทย
ส่วนพรรคการเมืองที่ลงสมัครบัญชีรายชื่อ แต่ไม่มีตัวแทนมาร่วมงานในครั้งนี้ประกอบด้วย 1. พรรคภูมิใจไทย 2. พรรคมาตุภูมิ 3. พรรคความหวังใหม่ 4. พรรครักประเทศไทย 5. พรรคดำรงไทย 6. พรรคบำรุงเมือง 7. พรรคชีวิตที่ดีกว่า 8. พรรคเพื่อประชาชนไทย 9. พรรคมหาชน 10. พรรคอาสามาตุภูมิ 11. พรรคพลังคนกีฬา และ 12. พรรคมหารัฐพัฒนา
โดยการจัดงานครั้งนี้ ได้จัดให้มีการร้องเพลงประสานเสียง “แผ่นดินของเรา” และ “รักกันไว้เถิด” ของนักเรียนโรงเรียบมัธยมสังคีตวิทยา นอกจากนี้ได้มีการนำเสนอวีดีทัศน์ พระบรมราโชวาท ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นผู้สมัครรับเลือกตั้งฯ และผู้สนับสนุน ได้ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ก่อนที่จะได้ชมวีดีทัศน์ ปาฐกถาธรรมของผู้นำศาสนา “คนดีในวิถีประชาธิปไตย และได้ให้ผู้สมัครฯ และผู้สนับสนุน ร่วมกันกล่าวพันธสัญญา 5 ข้อ โดยคำกล่าวมีดังนี้
" ข้าพเจ้าผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ขอให้พันธสัญญา เพื่อให้การเลือกตั้งส.ส.ที่มีจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 3 ก.ค.54 เป็นไปโดยสุจริต และเที่ยงธรรม"
ข้อ 1. ข้าพเจ้าจะไม่นำสถาบันพระมหากษัตริย์ มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง
ข้อ 2. ข้าพเจ้าจะไม่ใช้กลไกลของรัฐ หรือทรัพยากรของรัฐ มาเป็นประโยชน์ในการหาเสียงเลือกตั้ง
ข้อ 3. ข้าพเจ้าจะปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ อันเกี่ยวกับการเลือกตั้งอย่างเคร่งครัด
ข้อ 4. ข้าพเจ้าจะหาเสียงเลือกตั้งโดยสันติวิธี ไม่ข่มขู่คุกคามคู่แข่งขันด้วยวิธีการใดๆ และไม่ใช้วิธีการรุนแรงในการหาเสียงเลือกตั้ง ข้อ 5. ข้าพเจ้าจะยอมรับผลการเลือกตั้งตามที่ประชาชนได้แสดงเจตนารมณ์ในการเลือกตั้งอย่างจริงใจ อย่างไรก็ตามหลังจากกล่าวพันธสัญญาฯเสร็จแล้ว ก็ได้มีการมอบดอกกุหลายสีชมพูระหว่างตัวแทนพรรคการเมืองที่มาร่วมกิจกรรม
** ลดปัญหาการร้องคัดค้าน
นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย เป็นประธาน กล่าวเปิดโครงการว่า โครงการนี้เป็นนโยบายของการเลือกตั้ง คือต้องการลดปริมาณเรื่องการร้องเรียน ร้องคัดค้าน การเลือกตั้งที่เกิดจากการสำคัญผิดในข้อกฎหมาย หรือข้อเท็จจริง ซึ่งการเลือกตั้งทั้งระดับชาติ หรือการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นที่ผ่านมา กกต.ได้วินิจฉัยแต่เรื่องแบบนี้ ซึ่งเมื่อสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ ก็ทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณ และทำให้ประชาชนเกิดความเบื่อหน่าย ไม่อยากไปลงคะแนน จึงมีความแตกแยกเกิดขึ้น
ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกัน และแก้ไขปัญหาดังกล่าวสำนักงาน กกต. จึงได้มีการใช้ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยการเลือกตั้งสมานฉันท์ เมื่อวันที่ 9 ก.พ.50 เป็นต้นมา ซึ่งผลที่ได้จากการดำเนินการโครงการดังกล่าว ถือได้ว่าประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่งที่สามารถลดปริมาณเรื่องร้องเรียนลงได้ การเลือกตั้ง จะเป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรมได้รับการยอมรับจากทุกภาคส่วน
นายสมชัย กล่าวอีกว่า เหตุปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือ ความตั้งใจจริงของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการเลือกตั้ง จึงขอให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งทุกท่าน ตระหนักอยู่เสมอว่า การถวายคำสัตย์ปฏิญาณ การดื่มน้ำสาบาน หรือการให้พันธสัญญา รวมทั้งงบประมาณ และเวลาที่เสียไป จะไม่เกิดประโยชน์อะไรเลยหากท่านทั้งหลายไม่เคารพกฎ กติกา ตนจึงหวังเป็นอย่างยิ่ง นับแต่นี้จนสิ้นสุดเลือกตั้ง จนประกาศผลเลือกตั้ง ทุกท่านจะดำเนินการตามระเบียบกฎหมาย และขอให้ระลึกเสมอว่าการให้พันธสัญญาในวันนี้มิใช่เป็นการให้พันธสัญญาต่อตัวท่านเอง แต่ที่แห่งนี้ ยังมีบุคคลหลายฝายร่วมเป็นสักขีพยานด้วย ตนหวังว่าเลือกตั้งครั้งนี้ จะไม่มีเรื่องร้องคัดค้านกาเรลือกตั้งที่มาจากสำคัญผิดกฎหมาย หรือกลั่นแกล้ง
"ผมคิดว่า ความสมานฉันท์ในการเลือกตั้งครั้งนี้ น่าจะเป็นจุดเปลี่ยนทางการเมืองที่สำคัญของการเมืองไทย และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่นักการเมืองรุ่นต่อไป ซึ่งต้องอาศัยความตั้งใจจริง และการมีจุดยืน มีอุดมการณ์ใหม่ ที่ยึดโยงอยู่บนผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญก็จะทำให้การเลือกตั้งมิใช่เป็นการแข่งขันเอาเป็นเอาตาย หรือจ้องทำลายคู่แข่ง หรือมองคู่แข่งในลักษณะเป็นศัตรู แต่ต้องคำนึงถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นแก่ประชาชน ซึ่งกระบวนการสร้างความสมานฉันท์ จะสัมฤทธิ์ผลได้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกท่าน โดย กกต.เชื่อว่าการเลือกตั้ง 3 ก.ค. ทุกท่านจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เพื่อให้การเลือกตั้งสุจริตและเที่ยงธรรม" นายสมชัย กล่าว
**ลบคำสบประมาทส.ส.ซื้อเสียง
นายสมชัย กล่าวด้วยว่า นับแต่ตนมาทำหน้าที่ กกต.มาหลายปีนั้น รู้สึกท้อแท้ รู้สึกอ่อนอกเพลียใจ ว่า ทำไมบ้านเมืองของเราที่อุดมสมบูรณ์ เป็นบ้านเมืองมีศาสนาพุทธ มีเมตตาธรรมแตทำไมบ้านเมืองมีความเครียด ประชาชนส่วนใหญ่หาความสุขยาก แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จประทับท่าน้ำโรงพยาบาลศิริราช ด้วยพระพักตร์ยิ้มแย้มผ่องใส ทำให้ตนและคณะทำงานรู้สึกมีกำลังใจทั้งกาย และใจ เพื่อให้ประเทศของเราผ่านวิกฤตให้บ้านเมืองที่สงบร่มเย็นภายใต้พระบารมีให้ได้ ซึ่งเราได้อันเชิญพระบรมราโชวาทมา เมื่อเราไม่อาจทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้แต่น่าจะส่งเสริมคนดีให้ปกครองบ้านเมือง การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการเลือกตั้งสำคัญยิ่งที่จะเป็นเครื่องชี้อนาคตประเทศ ว่า ประเทศของเราจะปกครองในระบอบประชาธิปไตยแบบนานาอารยประเทศ ที่ใช้ปกครองมาได้เพียงใด
" เท่าที่ผ่านมา มีหลายฝ่ายที่เห็นว่า ผู้ทื่ได้รับเลือกตั้งในสภาเกินกว่าครึ่งเข้ามาโดยซื้อสิทธิ ขายเสียง มี หลายฝ่ายสบประมาทว่า ผู้อยู่ในสภาคือ เสือสิงห์กระทิงแรด มีการรณรงค์ให้โหวตโน ไม่ใช่ว่าจะเป็นเรื่องดีต่อประเทศชาติ วันนี้มาร่วมพิธีเลือกตั้งสมานฉันท์ อยากให้ท่านทั้งหลายลบคำสบประมาทนี้ให้ได้ โดยเลือกตั้งภายใต้กฎ กติกา ระเบียบของ กกต. ถ้าท่านไม่กระทำผิดกฎหมายของกกต. แล้วทุกคนยอมรับว่า เลือกตั้งนั้นเป็นสุจริต และเที่ยงธรรม ผมก็คิดว่าคำสบประมาทจะถูกลบไป และคนที่พูดนั้นก็น่าจะต้องอาย อยากให้ท่านช่วยสร้างวัฒนธรรม ระบอบประชาธิปไตยเอาไว้เพื่อให้บ้านเมืองของเรา จะได้ไม่มีการปฏิวัติรัฐประหาร ล้มระบอบการปกครองประชาธิปไตย" นายสมชัย กล่าว และว่า ขณะนี้กกต.ได้ตั้งศูนย์อำนวยการสืบสวนสอบสวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ศอส.) ขึ้นมาศูนย์นี้ไม่ได้จ้องจับผิด แต่มาตรวจสอบว่าท่านได้ปฏิบัติตามกฎหมายจะไม่มีใครใส่ร้ายกลั่นแกล้งท่านได้ ท่านมั่นใจได้ว่า กกต.จะจัดเลือกตั้งครั้งนี้ให้เป็นไปโดยสุจริต และเที่ยงธรรมไม่มีการกลั่นแกล้งกัน และสองมาตรฐาน" นายสมชัย กล่าว
** หวัง 3 ก.ค.เปิดศักราชปรองดอง
นายวิสุทธิ์ โพธิแท่น กกต.ด้านกิจการการมีส่วนร่วมกล่าวว่า หลักการประเทศไทยของเรา เป็นประชาชนคนไทย เราอยากให้ประเทศเราเจริญรุ่งเรืองมีปัญหาน้อยที่สุด ท่านทั้งหลายมาเสนอตัวเสนอผู้สมัครแข่งขันให้ประชาขนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เลือกผู้แทนแทนประชาชนในเรื่องต่างๆ แล้วถ้าได้รับเสียงข้างมาก ในสภาก็เป็นรัฐบาล กกต.เป็นคนกลางว่าไปตามเนื้อผ้า ดูตามควมต้องการของประชาชนของประเทศ ตนเชื่อว่าที ถ้าอยู่ด้วยความรักสามัคคี ถ้อยทีถ้อยอาศัยยอมรับผลที่เกิดขึ้น ถ้าต่างคนต่างเคารพกฎหมาย ปัญหาก็ไม่เกิด ถ้าทุกคนไม่ทำผิดกฎหมาย ถ้าทุกคนพยายามเข้าใจว่ากฎหมายและระเบียบ
ทั้งนี้การเลือกตั้ง 3 ก.ค.นี้ คงเป็นสิ่งที่เปิดศักราชใหม่ที่ทำให้เกิดสมานฉันท์ปรองดอง
**วอนแข่งขันด้วยน้ำใจนักกีฬา
นายวิสุทธิ์ โพธิแท่น กกต. ด้านกิจการการมีส่วนร่วม กล่าวถึง การจัดโครงการการเลือกตั้งสมานฉันท์ในการเลือกตั้ง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ว่า เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ สุจริต และเที่ยงธรรม โดยมีกกต. เป็นคนกลางจัดการเลือกตั้ง ซึ่งหวังว่าผู้ลงสมัครเลือกตั้งทุกคน จะปฏิบัติตามระเบียบ และกฎหมายการเลือกตั้ง แข่งขันกันด้วยความสุจริต มีน้ำใจนักกีฬา
เมื่อถามว่า กกต. มีความกังวลว่า การหาเสียงเลือกตั้งต่อจากนี้จะรุนแรงหรือไม่ หลังมีผู้สมัครจำนวนหนึ่ง ได้ขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจคุ้มกัน นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ทุกประเทศที่จัดการเลือกตั้งย่อมเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ แต่ต้องยอมรับว่า มีน้อยมาก หากทุกคนต้องการให้ประเทศมีความเจริญก้าวหน้า ก็ควรงดการกระทำที่ผิดกฎหมายการเลือกตั้ง เพราะทำไปก็ไม่ได้เกิดประโยชน์ใดๆ ฉะนั้นควรแข่งขันไปตามกฎ กติกา ตรงไปตรงมา อย่าทำร้ายกัน จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด อีกทั้งการเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะเป็นการกำหนดอนาคต และทิศทางของประเทศไทย
เมื่อถามว่า การจัดโครงการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์ในครั้งนี้ มีผู้สมัคร และพรรคการเมืองตอบรับเข้าร่วมงานกันน้อย มากจะส่งผลต่อความร่วมมือต่อการการจัดการเลือกตั้งหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า อย่าไปกังวล หรือคิดอะไรเลย ควรมองโลกในแง่ดี เข้าใจว่า ขณะนี้ผู้สมัครและทุกพรรคการเมืองกำลังเข้าสู่ช่วงของการลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้ง รวมทั้งโครงการการเลือกตั้งสมานฉันท์ในวันนี้เป็น การเชิญผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งหากผู้สมัคร หรือพรรคการเมืองใด ที่ไม่สะดวกเดินทางมาร่วมงานก็สามารถส่งตัวแทนมาร่วมงานก็ได้
เมื่อถามว่า ทางกกต. อยากฝากอะไร ถึงผู้สมัคร และพรรคการเมืองที่ไม่ได้มาร่วมงานในวันนี้ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ขอฝากไปทางผู้สมัครทุกคน ถ้าหากว่าเกิดความสงสัยในเรื่องของข้อกฎหมายการเลือกตั้ง ก็สามารถสอบถามมายัง กกต. ได้ โดยเฉพาะในการจัดงานวันนี้ กกต. ได้มีรองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ทุกด้าน มาให้ข้อมูลและความรู้ ฉะนั้น หากมีความสงสัยก็ให้สอบถามได้
ส่วนโครงการการเลือกตั้งสมานฉันท์ของผู้สมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ก็จะมีการจัดกิจกรรมเช่นกัน โดย กทม. จะจัดในวันที่ 6 มิ.ย. ที่ศูนย์การค้าเจเจมอลล์ เขตจตุจักร ส่วนจังหวัดอื่นๆ ก็จะทยอยจัดงานต่อไป