ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - การเลือกตั้งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ ณ ขณะนี้ ที่สุดแล้วก็เป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะเป็นการเลือกตั้งที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศไทย และดูเหมือนว่าการคาดการณ์ข้างต้นดูจะไม่ได้เกินเลยความจริงเท่าใดนัก เนื่องจากมีหลักฐานตามสื่อต่างๆ บ่งบอกได้เป็นอย่างดีถึงสัญญาณเลือกตั้งที่กำลังแข่งขันกันทุกวิถีทางอย่างดุเดือด ชนิดที่เล่นกันถึงเลือกตกยางออกกันเลยทีเดียว
เริ่มจากการใช้อาวุธสงครามกระหน่ำยิง “นายโกวิทย์ เจริญนนทสิทธิ์” นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบางบัวทอง จ.นนทบุรี เสียชีวิต เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ตามต่อด้วยการยิงถล่ม “นายประชา ประสพดี” อดีต ส.ส.เมืองปากน้ำ พรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่เจ้าตัวรอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด และปิดท้ายกันด้วยการสังหารโหดล่าสุดกับกรณีเด็ดชีพ “นายวิโรจน์ ดำสนิท” นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโผงเผง อ.ป่าโมง จ.อ่างทอง คนสนิทของ “เสี่ยตือ-สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล” กรรมการที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาเมื่อวันที่ 22พฤษภาคมที่ผ่านมา
และเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ยิ่งใกล้วันเลือกตั้งมากขึ้นเท่าไหร่ ความรุนแรงก็จะยิ่งทวีเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น
2 มี.ค. 54 นักการเมืองรายแรกที่ตกเป็นเหยื่อของความโหดเหี้ยมก็คือ "นายโกวิทย์ เจริญนนทสิทธิ์" นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบางบัวทอง จ.นนทบุรี ที่ถูกมือปืนใช้อาวุธยิงเข้าใส่ขณะขับรถเก๋งโตโยต้า แฮริเออร์ สีดำ ทะเบียน ฎร 9519 กรุงเทพมหานคร เข้าจอดในบ้าน ซึ่งเปิดเป็นบริษัทขายรถ จยย. ชื่อ "วิศวอินเตอร์เนชั่น" โดยกระสุนปืนขนาด 11 มม. เจาะหน้าผากเหยื่อก่อนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานปมสังหารโหดไว้ 3 ประเด็น คือเรื่องขัดแย้งทางการเมือง ธุรกิจขายรถและเรื่องชู้สาว
ทั้งนี้ ก่อนนายโกวิทย์ถูกยิง ได้เคยเปรยว่า มีแผนบันได 3 ขั้น ปฏิบัติการตีกินเมือง หลังมีพรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่งทาบทามให้ลงสมัคร ส.ส. จึงตัดสินใจเตรียมประกาศเปิดตัวพี่ชายลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย และเตรียมส่งญาติพี่น้องลงสมัครนายก อบต.ในเขต อ.บางบัวทอง หลายแห่งที่จะหมดวาระปลายปีนี้ เพื่อเตรียมขยายเขตเทศบาลเมืองบางบัวทองเป็นเทศบาลนครในอนาคต จนถูกนักการเมืองรุ่นพี่และคนใกล้ชิดปรามว่าจะเป็นการโตเร็วเกินไป และอาจสร้างโกรธแค้นให้กับนักการเมืองคนอื่น
ทันทีที่เกิดเหตุการณ์อุกอาจดังกล่าว พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา (สบ 10) ฐานะรักษาราชการแทน ผบช.ภาค 1 ได้เรียกชุดสืบสวนภาค 1-และตำรวจ สภ.บางบัวทอง เข้าประชุมคลี่คลายคดีสังหารนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบางบัวทอง นานร่วม 2 ชั่วโมง โดยยังคงวางธงไว้ที่ปมการเมืองท้องถิ่น ที่ผู้ตายเป็นนักการเมืองดาวรุ่งพุ่งแรงในพื้นที่ จึงอาจทำให้อีกฝ่ายต้องการตัดคู่แข่ง มากกว่าเรื่องธุรกิจขายรถจักรยานยนต์หรือเรื่องชู้สาว พร้อมกับเชื่อว่าทีมสังหารได้มาดักรอนานหลายวันแล้ว
ส่วนกรณีสะเทือนขวัญรับโหมดเลือกตั้งรายที่สองคือ นายประชา ประสพดี อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.สมุทรปราการ ที่ถูกมือปืนบุกกระหน่ำยิงรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า คัมรี่ สีบรอนซ์ ทะเบียน ชฉ-7777 กทม.เหตุเกิดหน้าที่ทำการไปรษณีย์สาขาพระประแดง ถ.สุขสวัสดิ์ เมื่อค่ำคืนวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา ขณะขับรถกลับจากงานศพ
จากข้อสันนิษฐานเบื้องต้นทั้งตำรวจ และตัวของนายประชา เอง ต่างก็สรุปตรงกันว่าชนวนเหตุลอบสังหารมาจากปมความขัดแย้งเรื่องการเมืองอย่างแน่นอน แม้จะไม่ระบุแน่ชัดว่าจะเป็นการเมืองระดับท้องถิ่น หรือระดับชาติ แต่นายประชา ยืนยันว่ารู้ว่าใครเป็นคนสั่งยิง
พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภาค 1 ยอมรับว่าการจะจับกุมตัวมือปืน และสาวไปถึงผู้บงการเป็นเรื่องยากมาก นั่นหมายถึงว่าหากเจาะข้อมูลโยงหาระดับบิ๊กได้แล้วอาจต้องเจอตอ แต่ยังแบ่งรับ แบ่งสู้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเดินหน้าทำงานกันอย่างเต็มที่ ไม่นิ่งนอนใจ ถึงแม้ว่าตัว "ประชา" จะให้ข้อมูลหรือรู้ตัวผู้บงการว่าเป็นใครนั้น หากพยานหลักฐานไม่ชัดก็ไม่สามารถเอาผิดใครได้ พร้อมกับคุยโวรู้ว่ามือปืนมาจากซุ้มที่มีความเชี่ยวชาญในการใช้อาวุธสงคราม โดยมีความรู้และประสบการณ์การใช้อาวุธปืนสูงมาก
ขณะเดียวกัน นอกจากส.ส.แล้ว ที่เป็นเป้าหมายทางการเมืองแล้วในช่วงนี้แล้ว บรรดาหัวคะแนนต่างๆ ที่ถือว่ามีผลอย่างยิ่งยวดต่อประชาชนในการชักจูงและโน้มน้าวประชาชนในพื้นที่ ก็ถือว่าเป็นเป้าหมายที่สำคัญเช่นกัน ล่าสุดชนิดที่ถึงเอากันถึงตาย เกิดขึ้นกับรายของ นายวิโรจน์ ดำสนิท อายุ 46 ปี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โผงเผง อ.ป่าโมก คนสนิทนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา ขณะกลับจากร่วมงานศพก่อนถึงทางเข้าบ้านเพียง 50 เมตร และนางพรเพ็ญ ดำสนิท อายุ 43 ปี ภรรยานายวิโรจน์ ถูกยิงข้อศอกและแขนขวา 2 นัดบาดเจ็บ ถูกนำส่งโรงพยาบาลอ่างทองเวชการ 2
การเสียชีวิตของนายวิโรจน์ ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับพรรคชาติไทยพัฒนาอย่างมาก จน "เสี่ยตือ" เจ้าของพื้นที่ออกมายอมรับว่าถือว่าเป็นการสูญเสียกำลังสำคัญของพรรค โดยการเสียชีวิตของนายก อบต.โผงเผง ทำให้กระทบฐานเสียงของพรรคชาติไทยพัฒนาแน่นอน
ขณะที่ "บรรหาร ศิลปอาชา" ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ได้กำชับให้ทุกคนระมัด ระวังตัวเวลาลงพื้นที่ห้ามประมาทเด็ดขาด ย้ำให้หันมองซ้าย มองขวา ยิ่งในยามวิกาลเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง ไม่ควรเสี่ยง เพราะเกรงจะเกิดอันตราย หลังหัวคะแนนคนสำคัญในจังหวัดอ่างทองถูกยิงดับ
อย่างไรก็ตาม นอกจาก 3 คดีใหญ่ๆ แล้วก็ยังมีสัญญาณอันตรายในช่วงเลือกตั้งเกิดขึ้นให้เห็นอยู่เป็นระยะๆ โดยทางฟากส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ โดย น.ส.ปรีชญา หรือ องุ่น ขำเจริญ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย น.ส.ณัชณิชา หรือ ชมพู่ ขำเจริญ น้องสาว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ราชบุรี เขต 5 พรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาแถลงข่าวในกรณีที่ถูกรถต้องสงสัยไล่ตามประกบขณะออกพบปะกับประชาชนในพื้นที่ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี จนได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ดำเนินสะดวก จว.ราชบุรี เมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา
ข้ามฟากมาฝั่งแกนนำเสื้อแดงก็มีเช่นกัน โดย นางวัชรี ประจำเรือ อดีตสมาชิกสภาจังหวัดเขตอำเภอเมืองเป็นญาตินายสำเริง ประจำเรือ แกนนำเสื้อแดงจันทบุรี ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี ว่า รถยนต์ของตนที่จอดอยู่หน้าบ้าน เลขที่ 72 ถนนทุ่งดอนแดง ตำบลตลาด อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ถูกมือดีใช้อาวุธปืนยิงได้รับความเสียหาย ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาตรวจสอบด้วย
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานไว้ 2 ประเด็น คือ อาจจะเป็นกลุ่มวัยรุ่น หรือ กลุ่มที่ไม่หวังดี ที่คึกคะนองใช้อาวุธปืนยิงเพื่อข่มขู่เพราะนางวัชรี เป็นญาติกับแกนนำเสื้อแดงจันทบุรี ส่วนประเด็นที่ 2 น่าจะเป็นเรื่องการเมืองที่นายสำเริง ประจำเรือ เป็นแนวร่วมและเป็นหัวคะแนนในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ที่จะมีผู้สมัครพรรคเพื่อไทยลงแข่งขันชิงการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดจันทบุรีในครั้งนี้ด้วย
นอกจากนี้ ยังมีส่วนของ นายมาโนชย์ เรืองทอง อายุ 47 ปี คนสนิท นายวรชัย เหมะ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทยเขต 4 ที่เข้าแจ้งความ พ.ต.อ.ชัยณรงค์ สมเพราะ ผกก.สภ.บางพลี กรณีคนร้ายใช้ระเบิดไม่ทราบชนิดขว้างใส่รถกระบะที่จอดอยู่หน้าบ้านพัก เลขที่189/23 หมู่บ้านลิขิต 7 ซอย 2 ตำบลบางพลีใหญ่อำเภอบางพลี ทำให้กระจกหน้าแตกเป็นใยแมงมุม กระโปรงรถได้รับความเสียหาย
สอบสวนทราบว่า เมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา มีโทรศัพท์เข้าไปหานายมาโนชย์บอกว่าไม่ให้เดินตามหรือช่วยนายวรชัยหาเสียงแต่ไม่ตอบรับกระทั่งเกิดเหตุ เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานเป็นระเบิดปิงปองหรือระเบิดซึ่งทำขึ้นเองเพื่อต้องการข่มขู่ ไม่ต้องการให้มีผู้เสียชีวิตว่าที่ผู้สมัครสองแควซ้อมยิงปืน
ไม่เว้นแม้แต่ การเตะขัดขากันทุกทาง แม่กระทั่งป้ายหาเสียงของพรรคต่างๆ ยังถูกทำลายเสียด้วยซ้ำ ซึ่งมีทั้ง บริเวณถนนวชิราวุธดำเนิน ต.พระบาท อ.เมืองลำปาง เยื้องกับด้านหน้าศาลากลางจังหวัดลำปาง และเป็นสถานที่รับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต และเกาะกลางถนน มีมือดีทำลายป้ายหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีภาพของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคอยู่ด้วย ซึ่งตั้งอยู่ 3 ป้าย โดยลักษณะการกรีดที่มีลักษณะเหมือนกับทุกๆ แห่ง คือกรีดบริเวณใบหน้า
หรือที่ จ.ปทุมธานี นายเกียรติ ศักดิ์ส่องแสง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 จ.ปทุมธานี พรรคประชาธิปัตย์ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ตำรวจ สภ. คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เรื่องป้ายหาเสียงที่ติดตั้งไว้กว่า 100 ป้าย บนถนนเข้าวัดลาดสนุ่น ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ถูกคนร้ายทำลายทั้ง 100 ป้าย
หรือจะเป็น นายขจรธน จุดโต ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 8 พรรคเพื่อไทย ก็ยังแถลงข่าวร้องเรียนเรื่องมีการส่งกลุ่มชายฉกรรจ์นั่งรถยนต์กระบะ 3-4 คัน ใส่ชุดดำสวมแว่นตาดำออกไปข่มขู่ชาวบ้าน ซักถามตามหมู่บ้านว่าเป็นหัวคะแนนของพรรคไหน ทั้งที่รู้ว่าคนที่ถามเป็นคนของพรรคไหน เพื่อแสดงการข่มขู่ จึงอยากให้ตำรวจช่วยตรวจสอบ และ กกต.ดูแลในเรื่องดังกล่าว
ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ มีความรุนแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากบรรดาพรรคการเมืองทุกขนาด ต่างก็พยายามเดินหน้าเพื่อหวังช่วงชิงเก้าอี้ ส.ส.ให้ได้มากที่สุด ประกอบกับครั้งนี้เป็นการกลับมาใช้รูปแบบจัดการเลือกตั้งแบบเขตเดียวเบอร์เดียว ทำให้อัตราการแข่งขันสูงในพื้นที่พุ่งสูงขึ้นซึ่งคาดว่าเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้คงจะดุเดือนเลือดพล่านขึ้นไปอีกจนกว่าวันที่การเลือกตั้งจริงจะมาถึง
ส่วนการออกมาเปิดโฉมหน้า 50 มือปืน ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การนั่งบัญชาการของ "บิ๊กน้อย" พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) โดยได้แจกจ่ายปฏิทิน มือปืนรับจ้าง ส่งไปยังสถานีตำรวจทั่วประเทศ เพื่อให้ทุกท้องที่นำไปติดประกาศ พร้อมทั้งขึ้นไว้บนเว็บไซต์ www.gunman.police.go.th ตลอด 24 ชั่วโมง ก็ยังไม่ได้เป็นหลักรับประกันอะไรว่า จะสามารถหยุดยั้งความรุนแรงที่เกิดขึ้นได้