xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.เสียวสันหลัง เติ้งส่อพลิกขั้ว หนุน"ยิ่งลักษณ์" นายกฯหญิง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ปชป.เสียวสันหลังวาบ หลัง "บรรหาร" ออกอาการคึก ชม"ยิ่งลักษณ์" ทั้งสาว ทั้งสวย แถมมืออาชีพ แต่ยังข้องใจ "เพื่อไทย" ไม่บอกว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ หรือไม่ "เสี่ยตือ" ตื่นเต้นของใหม่ โดดขวางพวกขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัว อ้างไม่เป็นสุภาพบุรุษ ด้านเพื่อไทยปัดไม่มีการจ้างส.ส. คนละล้านให้เลือก "ยิ่งลักษณ์" ขึ้นเบอร์ 1 เมินดีเบต "มาร์ค" ท้าปชป. แน่จริงอย่าโกงผู้หญิง ปชป.จี้ตอบให้ชัด ยึดหลักนิติธรรมแล้วจะนิรโทษให้ "แม้ว" ได้อย่างไร "ชูวิทย์" โดดแจม บอก"ยิ่งลักษณ์"หน้าตาคล้าย "ซูฉี" เซ็กซ์ซี่สตาร์ฮ่องกง

นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เปิดเผยถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 ว่า เป็นเรื่องใหม่ ที่จะมีสุภาพสตรีสาว และสวย ลงในระบบบัญชีรายชื่อเบอร์ 1 แต่ไม่รู้ว่าการเป็นบัญชีรายชื่อเบอร์ 1 นั้น จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีด้วยหรือไม่ ตอบไมได้ ถ้าถามถึงความเหมาะสม ตนก็ตอบไม่ได้เช่นกัน เพราะถือเป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทยที่ได้พิจารณา

ส่วนที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ อาจจะไปดีเบตกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์นั้น ส่วนตัวยังไม่รู้ว่าวิสัยทัศน์ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นอย่างไรบ้าง แต่บทบาททางด้านธุรกิจ ถือว่าใช้ได้ แต่ในเรื่องการเมือง ไม่รู้ ตอบไม่ถูก
"มองว่า คนไทยมีนิสัยสงสารคน ฉะนั้น การดีเบตที่จะเกิดขึ้น ก็จะต้องดูว่า จะทำอย่างไร ไอ้ความเสียเปรียบมันมีแน่นอน ทางด้านการเมือง ทั้งนี้ หากมีการขึ้นไปพูดกันตัวต่อตัว แต่ในด้านการเมืองมีความเสียเปรียบแน่นอน ส่วนคุณยิ่งลักษณ์ จะเอาตัวรอดอย่างไร ค่อยว่ากันอีกที ผมตอบไม่ได้ว่า จะสู้กันได้หรือไม่ วันนี้ยังตอบไม่ได้ว่า การที่คุณยิ่งลักษณ์ ลงปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 ของพรรคเพื่อไทย วันนี้ตอบได้หรือยังว่าจะเป็นนายกฯ หรือเปล่า วันนี้ยังไม่มีใครตอบได้ อาจจะไม่ได้เป็นก็ได้ อาจจะให้คนอื่นเป็นก็ได้ ยังไม่มีใครตอบได้" นายบรรหารกล่าว

เมื่อถามว่าทำไมถึงมองว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะไม่ได้เป็นนายกฯ นายบรรหาร กล่าวว่า เป็นการพูดเผื่อไว้เท่านั้น เพราะวันนี้ยังไม่รู้ว่ามีการตอบมาหรือยังว่า จะให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นนายกฯ ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็คงไม่ตอบ ถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้พูดสักคำ แต่ถ้าเป็นนายกฯ ก็เป็นเรื่องดี ในฐานะสุภาพสตรี ถือเป็นมิติใหม่ในทางการเมือง ตนถึงได้บอกว่า อนาคตอีก 5 ปี จะส่งลูกสาวเป็นหัวหน้าพรรคบ้าง

เมื่อถามว่า ถ้าเพื่อไทยชู น.ส.ยิ่งลักษณ์ จริง พรรคชาตคิไทยพัฒนาจะยอมรับได้หรือไม่ หากต้องร่วมรัฐบาลกัน นายบรรหาร กล่าวว่า ก็รอให้พรรคเพื่อไทยชูจริงๆ เสียก่อน

เมื่อถามว่า มองวิสัยทัศน์ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ อย่างไร โดยเฉพาะที่พูดว่า จะเข้ามาแก้ไข ไม่แก้แค้น นายบรรหาร กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งทุกฝ่ายก็ต้องการอยู่แล้ว ในเรื่องที่ไม่แก้แค้น แต่แก้ไข เรื่องของการแก้แค้นนั้นไม่มี มีแต่เข้ามาช่วยกันแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง

"คุณยิ่งลักษณ์คงไม่แก้แค้น แต่ฝ่ายอื่นๆ ก็ตอบไม่ได้ แต่ถ้าทุกฝ่ายไม่แก้แค้น ลืมกันทั้งหมด มันก็ดี บ้านเมืองจะได้ดีขึ้น แต่ต้องทุกคนนะ"

เมื่อถามว่า การที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีนามสกุล ชินวัตร จะมีผลในทางการเมืองมาก-น้อยแค่ไหน เพราะปัจจุบันมีทั้งคนชอบ และไม่ชอบ นายบรรหาร กล่าวว่า มันก็นามสกุลเดียวกันกับพ.ต.ท.ทักษิณ แต่เป็นคนละคนกัน เราจะไปรังเกียจไม่ได้ เพราะเป็นคนละคน

ส่วนที่มีการมองว่า การที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นสุภาพสตรี จะเป็นการสร้างความประนีประนอมทางการเมืองนั้น ส่วนตัวก็เห็นว่าเป็นเรื่องดี อย่างพรรคชาติไทยพัฒนา ในอนาคตตนคงไม่ได้กลับมาแล้ว และนายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ไม่รับตำแหน่ง ก็จะเสนอตัวน.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคชทพ. ตอนนี้กำลังทาบทาม แต่ขอให้รอพ้นเว้นวรรค 5 ปีก่อน ส่วนตัวคิดว่าเป็นเรื่องดี ที่มีสุภาพสตรีลงชิงตำแหน่ง ถือว่ามีสีสันดี

เมื่อถามว่า โอกาสที่ประเทศไทยจะมี "นารีขี่ม้าขาว" หลังการเลือกตั้งครั้งนี้หรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า นารีขี่ม้าขาวดี แต่อย่าให้นารีตกม้าขาว แต่ถ้าเป็นม้าสีหมอก ตนคงต้องขี่เอง จะให้คนอื่นขี่ คงไม่ได้ ทั้งนี้ในการเลือกตั้งตนยังไม่มีสิทธิที่จะทำหน้าที่เป็นแม่ทัพขี่ม้าสีหมอกหาเสียงให้ลูกพรรค ตนไปและพูดไม่ได้ เป็นหน้าที่ของหัวหน้าพรรคชทพ. คนปัจจุบัน ตนอยู่แต่ที่ร้านกาแฟ หรือบางครั้งอาจจะไปบ้างก็ได้ แต่ต้องเดินเป็นใบ้ พูดไม่ได้แม้คำเดียว ทำได้เพียงแต่โชว์เชฟประกวดชายงาม

ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อปี่กลองโหมโรงเข้าโหมดเลือกตั้งแล้ว เรื่องการจับขั้วทางการเมือง ได้มีการประสานงานไว้หรือยัง และที่มองว่า พรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้ง แต่แพ้การจัดตั้งรัฐบาล นายบรรหาร กล่าวว่า " เอาว่าตอนนี้ไม่มีการจับขั้วดีกว่า ยืนยันว่าไม่มี ซึ่งเวลาอาจจะใกล้ๆ วันเลือกตั้ง หรือก่อนเลือกตั้งวันเดียว อย่างครั้งที่แล้ว เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. ที่สื่อไปเฝ้าอยู่"

เมื่อถามว่า ครั้งนี้การจัดตั้งรัฐบาลจะไปอยู่ในค่ายทหารอีกหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวปฏิเสธว่า ตนไม่รู้ จะมาถามทำไม ตนไม่เกี่ยวข้อง

เมื่อถามถึงกรณีที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ประกาศปราศรัยคู่ขนานกับทุกพรรคการเมือง นายบรรหาร กล่าวว่า ไม่มีความเห็น แต่ก็ดี จะได้เป็นสีสันทางการเมือง

**"เสี่ยตือ"ตื่นเต้น"ยิ่งลักษณ์"ของใหม่

นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล กรรมการที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย เสนอชื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปว่า เป็นปรากฏการณ์ทางการเมืองครั้งแรกที่มีการเสนอสุภาพสตรีมาเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งนายกฯ ทำให้มองเห็นถึงความก้าวหน้าของสังคมไทยอีกระดับหนึ่งของการให้สิทธิสตรี ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาสังคมไทย ก็พยายามชูสิทธิสตรีในทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด ตำรวจ หรือ ทหาร

ฉะนั้น เมื่อมีการเสนอชื่อน.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นนายกฯ ถือเป็นพัฒนาสิทธิสตรีและความเท่าเทียมกันได้ในระดับหนึ่ง ทำให้มีสีสัน และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจขนาดใหญ่ เหมือนกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็อาจจะนำระบบทางธุรกิจมาใช้กับการเมือง เหมือนกับสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ คิดว่าจะได้ความแปลกใหม่ ประชาชนจะได้มีทางเลือกและความหลากหลายมากขึ้น

เมื่อถามว่า ความขัดแย้งจะเกิดขึ้นหรือไม่เพราะเป็นคนในครอบครัวชินวัตร นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ถ้าจะมองว่าเป็นความขัดแย้งมันก็ขัดแย้ง ขนาดนายสมัคร สุนทรเวช เป็นคนนอกครอบครัวชินวัตร ก็ยังถูกกล่าวหาว่าเป็นนอมีนี เรื่องแบบนี้อยู่ที่ใจคนมอง คิดว่าถ้าละวางเรื่องส่วนตัว และคิดการคืนความปกติให้กับสังคม มันก็น่าจะสงบได้ ควรปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ ประชาชนจะตัดสินใจอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับประชาชน เพราะเชื่อว่าถ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชนะเลือกตั้งแล้วจะทำอะไรตามอำเภอใจคงทำได้ยาก เพราะวันนี้การเมืองเปลี่ยนไปแล้ว การเมืองภาคประชาชนแข็งแรง ในอดีตที่ผ่านมามีบทเรียนให้เห็นว่า รัฐบาลทำอะไรไม่ถูกต้อง และประชาชนไม่เอาด้วยรัฐบาลก็ไม่สามารถจะอยู่ต่อไปได้

" อย่าไปกลัวเงาของพ.ต.ท.ทักษิณ อย่าไปกลัวกับเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้น ขอให้เชื่อในพลังของประชาชน ที่จะชี้นำประเทศได้ดีกว่าพรรคการเมือง" นายสมศักดิ์กล่าว

**อ้างสาวไส้กันเองจะทำลายระบบ

เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับการเริ่มมีกระบวนการทำลายความน่าเชื่อถือน.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกมาแล้ว นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องแบบนี้แค่ขุดคุ้ยออกมา คนที่ขุดคุ้ยก็ตายตั้งแต่ยังไม่เกิด สังคมไทยรู้ดี จะเห็นได้จากเมื่อออกมาก็ถูกเบรกกันเป็นแถว คิดว่ามันไม่ใช่สุภาพบุรุษด้วย อยากเห็นทุกฝ่ายเคารพในความเป็นคน และเคารพที่มาที่ไปของแต่ละคน

"ไม่ใช่ว่าพอคนนี้มาสมัครส.ส. คุณก็ไปบอกว่าเขาชั่ว เขาเลวไปหมด ตรงนี้ถือว่าสิ่งที่ทำลายสถาบันการเมือง ไม่มีใครทำลายสถาบันการเมืองได้ดีเท่ากับคนในสถาบันการเมืองทำกันเอง คุณไม่พูดแล้วก็ปล่อย อย่าไปดูถูกประชาชน อย่าคิดว่าประชาชนไม่รู้ เขาแยกแยะได้ ถ้าฝ่ายการเมืองมาสาวไส้ ตอแยกันเอง จะเป็นอันตรายต่อระบอบ" นายสมศักดิ์กล่าว

** ชทพ.ประชุมบอร์ดใหญ่รับศึกเลือกตั้ง

เมื่อเวลา 11.00 น. วานนี้ (17 พ.ค.) มีการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา หรือบอร์ดใหญ่ของพรรค โดยมีนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาเป็นประธาน พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล นายนิกร จำนง นายประภัทร โพธสุธน นายจองชัย เที่ยงธรรม และพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรค เพื่อประเมินและเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้ง โดยในวันพุธที่ 18 พ.ค.นี้ พรรคจัดให้มีสัมมนาใหญ่ เพื่อปฐมนิเทศว่าที่ผู้สมัครของพรรค ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์

ทั้งนี้ ก่อนการประชุม นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ในส่วนว่าที่ผู้สมัครระบบเขตนั้น ที่เรียบร้อยแล้วมีร้อยเศษๆ และที่ยังไม่นิ่งอีกส่วนหนึ่ง เนื่องจากยังมีอดีตส.ส.เคลื่อนไหวเตรียมย้ายเข้าพรรคชาติพัฒนาเป็นระยะ แต่ในส่วนของระบบบัญชีรายชื่อเรียบร้อยแล้ว โดยจะส่งทั้งหมด 125 คน

ทั้งนี้ ในระบบเขต พรรคชาติไทยพัฒนาจะพิจารณาส่งในพื้นที่ที่คิดว่ามีความเหมาะสม โดยไม่สนใจว่า พื้นที่นั้นๆ จะเป็นพื้นที่เดิมของพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ถ้าหากพรรคชทพ. มีผู้สมัครหรือมีอดีตส.ส.อยู่ เราก็จะลงแข่งขันสู้เต็มที่ ไม่มีการยอมให้กับพรรคร่วมรัฐบาล ส่วนกำหนดการเดินสายปราศรัยของพรรคนั้น เตรียมไว้ทั่วประเทศ โดยพรรคได้มอบหมายให้ นายนิกร และตนรับผิดชอบ ซึ่งจะพิจารณาใน 2 รูปแบบ คือ พรรคเป็นผู้กำหนด และเป็นการร้องขอจากว่าที่ผู้สมัครในเขตนั้นๆ

**ปัดแจกส.ส.คนละล้านหนุน"ยิ่งลักษณ์"

นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขึ้นปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 1 เป็นไปตามมติเอกฉันท์ของพรรคเพื่อไทย และทุกคนในพรรคก็ชื่นมื่นดี โดยมีการพิจารณาอย่างดี ทั้งความเหมาะสมด้านต่างๆ จากนี้ไป น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีกำหนดการแสดงวิสัยทัศน์ ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่า เริ่มที่จุดใด แต่มีหลายกลุ่ม โดยอาจจะเริ่มจากกลุ่มนักธุรกิจก่อนแล้วกระจายไปทุกภาคส่วน

อย่างไรก็ตาม ทางพรรคไม่หวั่นเรื่องการโจมตีหรือการขุดคุ้ยประวัติน.ส.ยิ่งลักษณ์ มาแฉ ซึ่งทางพรรคเชื่อว่าไม่มีเรื่องใดให้แฉ เพราะประวัติที่ผ่านมา ไม่มีปัญหาใดๆ ทำงาน การทำธุรกิจ ก็เป็นไปด้วยดี แต่หากผู้ใดนำมาแฉ ก็ถือเป็นการดีที่จะได้ชี้แจงต่อสังคม รวมทั้งปัญหาคาใจต่างๆ ด้วย

นายวิชาญ ยังได้ปฏิเสธกรณีกระแสข่าวว่ามีการแจกเงินภายในพรรคเพื่อไทย คนละ 1 ล้านบาท เพื่อให้สนับสนุน น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯ โดยยืนยันว่าไม่เป็นความจริง

** "ณัฐวุฒิ"ท้าแน่จริงอย่าโกงผู้หญิง

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแสดงความเห็นเชิงเสียดสี ที่พรรคเพื่อไทย หนุนน.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 ว่าการที่พรรคประชาธิปัตย์แสดงความตื่นตัวเหลือเกิน ในการยื่นคำท้าให้มีการดีเบต ระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ดูจากอาการของพรรคประชาธิปัตย์ พรรคนี้มั่นใจว่า การดีเบตของนายอภิสิทธิ์ จะเป็นข้อได้เปรียบในการมาเทียบเคียงกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ทั้งที่ประชาชนเต็มไปด้วยข้อกังขา ในการทำงานมากว่าสองปีของรัฐบาลชุดนี้ก็ตาม
 
"ขอถามไปยังพรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิสิทธิ์ ที่พยามจะท้าทายให้ดีเบตว่า กว่าสองปีที่ผ่านมา ท่านไม่สงสารประชาชนคนไทยบ้างหรือ สองปีที่คุณอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ คุณอภิสิทธิ์ มีแต่พูดๆๆ แล้วก็พูด พอพ้นจากตำแหน่งนายกฯ ก็จะหาเวทีเพื่อพูดอีก ผมเรียนว่าคนไทยเขาเห็นตัวตน ของคุณอภิสิทธิ์ ชัดเจนหมดสิ้นแล้ว และคำว่าดีแต่พูด ก็เป็นคำจำกัดความที่สั้น และกระชับและตรงไปตรงมาอย่างดี สำหรับนายกฯคนนี้ พรรคเพื่อไทยยินดีที่จะใช้ผลงานในอดีต นโยบายเป็นเครื่องยืนยันต่อความมั่นใจของประชาชน เราไม่จำเป็นต้องดีเบต เพราะเราดีกว่า และเรามั่นใจว่าด้วยนโยบายและผลงานที่ผ่านมา จะทำให้ประชาชนสนับสนุนคราวนี้ได้" นายณัฐวุฒิกล่าว

ส่วนกรณีที่สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์บอกว่า ถ้าเลือกพรรคเพื่อไทย จะได้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่เป็นหุ่นเชิดของพ.ต.ท.ทักษิณนั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า นายสุเทพพูดโดยเจตนาไม่ยอมรับข้อเท็จจริงว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีความรู้ความสามารถ และมีประสบการณ์ในการบริหารองค์กรระดับพันล้าน หมื่นล้านบาท กิจการมีความเติบโตก้าวหน้า มิติในด้านการบริหาร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถือเป็นอาจารย์ของนายอภิสิทธิ์ได้เลย เพราะนายอภิสิทธิ์ ไม่เคยมีตำแหน่งเหล่านี้ ก่อนก้าวเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะฉะนั้นคนที่ผ่านกิจการ คนที่ดูแลกิจการ คนที่ผ่านคลื่นลมการบริหารมาแบบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีความคิดเป็นของตัวเอง มีสติปัญญาเป็นของตัวเอง แต่ข้อที่จะดีขึ้นไปอีก และเป็นเรื่องที่ประชาชนเขายอมรับคือ ความรู้ ความสามารถ

"เอาสโลแกนง่ายๆ ดีกว่า เลือกยิ่งลักษณ์ ได้นโยบายทักษิณ ถ้ารัก สุเทพ กับเนวิน ให้เลือกอภิสิทธิ์ ผมคิดว่าประชาชนเขาตัดสินใจได้" นายณัฐวุฒิ กล่าว

**เย้ย"เทือก" คนรุ่นเก่า เต่าล้านปี

นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธาน ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย แถลงตอบโต้กรณี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เปรียบเทียบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นตัวหนังตะลุงว่า การทำอย่างนี้ เป็นยุคสมัยของเต่าล้านปี ไม่ควรเอาความคิดของตัวเองที่ว่าตัวเองคร่ำหวอดทางการเมืองนานมาตัดสินคนอื่น แต่อย่าลืมว่าคนรุ่นใหม่ ก็มีคนมีความรู้เหมือนกัน และน.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นคนรุ่นใหม่ และมีความสามารถ มีความรู้ ซึ่งไม่ควรถากถาง เพราะประชาชนจะเป็นคนตัดสิน พรรคประชาธิปัตย์ก็เพียงแค่เป็นคู่แข่งเท่านั้น

** "ปลอด"เมินปชป.ท้าดีเบต

นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ ท้าให้มีการดีเบต เพื่อแสดงวิสัยทัศน์ระหว่าง นายอภิสิทธิ์ กับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า ตนจำได้ว่าในประเทศไทยไม่เคยมีการมาท้าดีเบต แต่มีการพูดเรื่องนี้ครั้งแรกโดยนายอภิสิทธิ์ ไปพูดท้านายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี และมาครั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ และคนในพรรคประชาธิปัตย์ ต่างสนับสนุนการท้าดีเบตหมด อยากถามว่าจะท้าดีเบตกันทำไม ในเมื่อทุกพรรคเสนอได้นโยบายของแต่ละพรรคไปแล้ว และประชาชนก็เห็นแล้ว ดังนั้น การให้คนมาเถียง และทะเลาะกันต่อหน้าประชาชน จะสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นได้อย่างไร และมองว่าการดีเบต เป็นการใช้คำพูดมาทำงานการเมือง เพื่อท้าตีท้าต่อย กับคนอื่น ฉะนั้น ขอให้พอเรื่องนี้กันเสียที

** พท.คุยชนะปชป. 60-70 เสียง

นายปลอดประสพ ยังกล่าวถึงความชัดเจนเรื่องการจัดส่งส.ส.บัญชีรายชื่อ ว่าการจัดลำดับบุคคล พรรคจะจัดลำดับจากหัวไปหาง เมื่อได้ลำดับที่ 1ไปแล้ว ก็จะเริ่มที่ลำดับ 2-20 ไปจนครบ และลำดับเซฟโซน คือลำดับที่ 70 ขึ้นมา ทั้งนี้ ตนวิเคราะห์ว่าคำ พูดของนายสุเทพ ที่ระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์ จะได้ส.ส. 200 เสียง เป็นความต้องการเพิ่มคะแนนของพรรคตัวเอง จากเดิมที่ได้ 160 อีก 40 รวมเป็น 200 เสียง เพื่อจะได้มีอำนาจต่อรองในการต่อรองตั้งรัฐบาล ทวงเอากระทรวงใหญ่กลับคืน จากพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นนโยบายเขี่ยทิ้งภูมิใจไทย

ส่วนนายอภิสิทธิ์ บอกว่า จะแพ้เพื่อไทย เพียง 40 คะแนน เพื่อให้ใกล้เคียงกับพรรคเพื่อไทยนั้น ตนยังเชื่อว่า พรรคเพื่อไทยจะชนะพรรคประชาธิปัตย์ 60-70 เสียง และจะเป็นรัฐบาลพรรคเดียว แต่อาจเชิญพรรคพวกมาร่วมด้วยนิดหน่อยเท่านั้น

เมื่อถามว่าพรรควางค่าใช้จ่ายในการหาเสียงอย่างไร นายปลอดประสพ กล่าวว่า ตัวเลขที่ออกมาไม่ใช่ตัวเลขจริง และเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้เงิน 1.5 ล้านบาท แต่เราก็จะทำตามกฎหมายทุกอย่าง

**แนะ"ยิ่งลักษณ์"หยุดสร้างภาพไม่แก้แค้น

นายบุญยอด สุขถิ่นไทย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกมาประกาศว่า จะมุ่งแก้ไข ไม่แก้แค้น ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ กำลังสร้างภาพว่าเป็นเหมือนผู้ถูกกระทำ ทั้งที่ทุกคนรู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และกลุ่มคนเสื้อแดง เป็นพวกเดียวกัน และได้ร่วมกันกระทำคนอื่น ดังนั้นน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ควรใช้คำพูดนี้ แต่ควรไปถามผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เผาเมือง เช่น ญาติของทหารที่เสียชีวิต และผู้ค้าราชประสงค์ ที่ถูกเผาทั้งหมดว่า จะไม่แก้แค้นหรือไม่
การที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกมาพูดอย่างนี้ ถือว่าดูถูกคนไทยเกินไปแล้ว คนไทยไม่ใช่คนลืมง่าย และอยากถามว่า ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ที่มีเหตุการณ์ความเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง น.ส.ยิ่งลักษณ์ไปอยู่ไหน และใครเป็นผู้สนับสนุนเงินให้กลุ่มคนเสื้อแดง จนกระทั่งถูกอายัดบัญชีเงินฝาก

**โชว์หลักนิติธรรม สวนนิรโทษ"แม้ว"

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่พรรคเพื่อไทย เสนอชื่อน.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นนายกรัฐมนตรี เท่ากับจะทำให้ประชาชนได้ใช้โอกาสตัดสินใจเลือกผู้นำการเมือง หรือนายกรัฐมนตรี โดยอยากตั้งข้อสังเกตุวิสัยทัศนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ระบุว่า บ้านเมืองจะเดินหน้าได้จะต้องอาศัยหลักนิติธรรม ดูเหมือนจะขัดแย้งกับท่าทีของ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นลูกน้องของนส.ยิ่งลักษณ์ ที่ระบุว่า หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล และน.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นนายกรัฐมนตรี ก็จะมีการออกกฎหมายนิรโทษกรรม โดยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะได้อานิสงส์ จากกฎหมายนี้ด้วย จึงอยากถามว่า กระบวนการ ขั้นตอน และความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการเรื่องนี้ทันทีที่เป็นรัฐบาล คืออะไร จะมีขั้นตอนในการออกกฎหมายโดยกระบวนการใด และใช้เวลาเท่าใด

"ขอเรียนถามไปยังคุณยิ่งลักษณ์ว่า กระบวนการดังกล่าวขัดกับหลักนิติธรรมหรือไม่ เพราะที่ผ่านมา การดำเนินการในส่วนที่จะให้เกิดการล้างผิดกับบุคคลที่ได้ดำเนินการมาในอดีตนั้นก็ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย และการที่พรรคเพื่อไทยได้ยืนยันพร้อมกับคำแถลงการณ์ของคุณยิ่งลักษณ์ว่า จะรักษาหลักนิติธรรมนั้น ก็มีความขัดแย้งกันอยู่ แต่กระบวนการที่จะเร่งออกกฎหมายก็จะทำให้บ้านเมืองนั้น เกิดปฏิกิริยาจากคนอื่น เกิดความวุ่นวายที่จะดำเนินการในลักษณะดังกล่าว ซึ่งส่วนนี้นายอภิสิทธิ์ จึงถามว่า เหตุใดปัญหาสำคัญ เรื่องเศรษฐกิจ เรื่องต้นทุนค่าครองชีพ ยาเสพติด เรื่องการศึกษา จะถูกบดบังด้วยกระบวนการล้างผิดทางกฎหมาย และจะทำให้ปัญหาของประชาชนได้รับการแก้ไข" นพ.บุรณัชย์ กล่าว

**"กอร์ปศักดิ์"ไม่ลงปาร์ตี้ลิสต์

นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ประธานคณะทำงานด้านยุทธศาสตร์ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวยอมรับว่า ตนได้ถอนตัวจากการเป็นผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเป็นความตั้งใจที่จะไม่ลงสมัคร เช่นเดียวกับการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว และคิดว่าถึงไม่ได้เป็นส.ส.ก็สามารถทำงานได้ โดยการไม่ได้ลงสมัครส.ส. ถือเป็นข้อดีที่ เพราะได้ทำงานด้านยุทธศาสตร์ให้กับพรรคอย่างเต็มที่ ไม่ต้องลงพื้นที่เช่นเดียวกับผู้สมัครส.ส.รายอื่นๆ ส่วนที่มีรายชื่อของตนอยู่ในโผผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อในตอนแรกนั้น เป็นเพราะทุกคนมีเจตนาดี ที่อยากให้ทำงาน แต่ตนก็เห็นว่าการทำงานมีหลายรูปแบบ และเชื่อว่าแม้จะไม่อยู่ในบัญชีรายชื่อ ก็ไม่มีผลต่อการผลักดันยุทธศาสตร์ของพรรค

สำหรับกรณีที่พรรคเพื่อไทย ชูน.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี โดยมีการโยงคุณสมบัติพิเศษ และกระแสของผู้หญิงในการบริหารประเทศ จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์ต้องปรับยุทธศาสตร์หรือไม่นั้น นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า ไม่มี เพราะความรู้สึกในสมัยใหม่ ไม่ได้คำนึงถึงหญิง ชาย ทุกเพศสามารถสืบประวัติการทำงานว่า เคยทำอะไรมาบ้าง การจะเปรียบเทียบผู้ชายกับผู้หญิง ใครดีกว่าอย่างไร ไม่มีคำตอบ ทางพรรคไม่ได้มีการคำนึงว่าเป็นเพศหญิง หรือชาย เพราะคนเป็นนายกรัฐมนตรี จะเป็นเพศไหนก็ขึ้นอยู่กับว่าบุคคลนั้นจะตอบสังคมได้หรือไม่ว่า มีความพร้อมอย่างไร ที่จะทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้

ส่วนที่บอกว่าจะไม่มีการแก้แค้นนั้น นายกรอ์ปศักดิ์ กล่าวว่า ใครแก้แค้นใคร ต้องอธิบายให้ได้ แต่สิ่งที่เป็นห่วงมากที่สุดคือ ประเด็นกระบวนการที่จะล้างผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ และต้องถามว่าเหตุใดจะต้องมาล้างความผิด ตั้งแต่วันแรก ทั้งที่ วาระประชาชนมากมาย โดยกระบวนการล้างความผิดนี้ ฝั่งเพื่อไทยเคยมีความพยายามที่จะทำมาเมื่อ 2 ปีแล้ว ซึ่งตนก็กังวลว่า จะต้องใช้ระยะเวลานาน และอาจจะทำให้เกิดความวุ่นวาย ซึ่งเรื่องนี้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ต้องอธิบายให้ได้ว่า จะทำกระบวนการล้างผิดโดยที่ให้ไม่เกิดความวุ่นวายอย่างไร ประเด็นสำคัญคือ กระบวนการล้างความผิด จะทำอย่างไรเพื่อให้ทุกคนในสังคมเห็นชอบด้วย

เมื่อถามว่ากลัวหรือไม่ เมื่อพรรคเพื่อไทยมีการประกาศตัวผู้ที่จะชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีชัดเจน แล้วประชาชาจะเทคะแนนไปให้พรรคเพื่อไทย นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า เต็มใจ แต่ขอให้บอกให้ชัด ว่าจะมีกระบวนการล้างความผิดอย่างไร ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่กลัว หรือไม่กลัว แต่อยู่ที่ว่าประชาชนจะต้องรู้ให้แน่ชัด เพื่อที่จะได้ตัดสินใจ

ส่วนพรรคเพื่อไทย มีการปฏิเสธการให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ มาดีเบต กับนายอภิสิทธิ์นั้น นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า รู้สึกเสียดายที่ประชาชนจะไม่มีโอกาสได้ฟัง แต่ยังมีเวลาอีกตั้งหลายวัน บางทีหากพรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วย แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ อาจจะพร้อมก็ได้ ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ได้ท้า แต่ตนเห็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นโอกาสในเรื่องการแสดงวิสัยทัศน์
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของการดีเบตนั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับประชาชนว่าอยากจะให้มีการดีเบตหรือไม่

** ชี้ปชป.ยึด"อ๊อกฟอร์ด คอนเน็กชั่น"
 

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย กล่าวถึงความพร้อมในการจัดผู้สมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ ของพรรคการเมืองใหญ่ๆ ว่า ในส่วนของตน ส่งแค่ 10 คนก็ปวดหัว เพราะต้องคัดเลือกประวัติ และคุณสมบัติ แต่พรรคใหญ่ๆ ที่ส่งครบ 125 คน เมื่อดูรายชื่อตามสื่อ พบว่าการพิจารณาจะเน้นความใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้นำ คณะผู้บริหาร หรือเลขาธิการพรรคเป็นหลัก แต่ที่ไม่เข้าใจ คือ เมื่อพิจารณาแล้วกลับไม่ยอมเปิดเผยรายชื่อทั้งหมดให้ประชาชน และสังคมได้รับทราบ เพื่อประกอบการตัดสินใจแต่เนิ่นๆ แสดงถึงความไม่พร้อมของพรรคการเมืองใหญ่ ที่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงรายชื่อได้อีก เพราะที่ผ่านมา มีบางพรรคก็เคยเปลี่ยนรายชื่อในรถตู้ก่อนเปิดรับสมัครเพียง 15-20 นาที ก็เคยมีมาแล้ว

ทั้งนี้ ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ เท่าที่ดูรายชื่อตามข่าว สงสัยว่าคงพิจารณาจากอ๊อกฟอร์ด คอนเน็กชั่น เพราะลำดับชื่อ 1-20 ส่วนใหญ่เป็นคนหัวนอกทั้งนั้น เข้าใจว่ากก.บห. คงอึดอัด และคงมีการต่อรองกับเจ้าของอำนาจตัวจริงในพรรค

**"ยิ่งลักษณ์"เหมือนเซ็กซ์สตาร์ "ซูฉี"

นายชูวิทย์กล่าวอีกว่า ขณะที่พรรคเพื่อไทย ก็เพิ่งจะเปิดตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สังคมไทยได้ชัดเจน เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ดูหน้าตาคล้าย ซูฉี นางเอกฮ่องกง แต่ที่น่าเสียดาย คือ กลับยังไม่ยอมเปิดรายชื่อของบัญชีรายชื่อทั้งพรรค โดยเฉพาะตัวเด่นอย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ หรือนายเสนาะ เทียนทอง ว่าอยู่ในลำดับที่เท่าไร ทั้งที่ไม่น่าจะปิดบัง ในเมื่อประกาศความพร้อมที่จะขอเสียงจากประชาชน ซึ่งทั้งหมดนี้ สะท้อนให้เห็นว่า วัตถุประสงค์ที่มีส.ส.บัญชีรายชื่อถูกบิดเบือน คือ เอาคนใกล้ชิดกับขั้วอำนาจ กลุ่มพวกพ้องผู้บริหาร หรือผู้มีอำนาจในพรรค หรือพวกนายทุนมาลง ขณะที่วัตถุประสงค์ของการมีรายชื่อแท้จริงคือ ต้องการให้คนดี มีความรู้ความสามารถ ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง หรือคนหน้าใหม่เข้ามาทำงานการเมือง โดยการแก้ไขปัญหาต่างๆ แต่ละจุด แต่ของประเทศไทย กลับใช้ความใกล้ชิดสนิทสนมเป็นหลักในการคัดเลือก จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย
กำลังโหลดความคิดเห็น