“ณัฐวุฒิ” ยกหาง “ยิ่งลักษณ์” มีความสามารถเทียบชั้นอาจารย์ “อภิสิทธิ์”

เพื่อแม้วฉะ “เทพเทือก” เต่าล้านปี ถากถาง “ยิ่งลักษณ์” เป็นหนังตะลุง ด้าน “ณัฐวุฒิ” แกนนำแดงในคราบเพื่อแม้ว ป้อง “เจ๊ปู” ระบุไม่จำเป็นต้องดีเบต อ้างมีนโยบายดีอยู่แล้ว แถมมีความสามารถเทียบชั้นเป็นอาจารย์ของอภิสิทธิ์ได้ พร้อมเสนอสโลแกน “เลือกยิ่งลักษณ์ได้นโยบายทักษิณ ถ้ารักสุเทพกับเนวิน ให้เลือกอภิสิทธิ์” ท้าแน่จริงก็อย่าโกงผู้หญิง

นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธาน ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย แถลงตอบโต้กรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เปรียบเทียบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย เป็นตัวหนังตะลุงว่า ตนคิดว่าการพูดอย่างนี้เป็นพวกยุคสมัยของเต่าล้านปีไม่ควรเอาความคิดของตัวเองที่ว่าตัวเองคร่ำหวอดทางการเมืองนานมาตัดสินคนอื่น แต่อย่าลืมว่าคนรุ่นใหม่ก็มีคนมีความรู้เหมือนกัน และ น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นคนรุ่นใหม่และมีความสามารถ มีความรู้ ซึ่งไม่ควรถากถาง เพราะประชาชนจะเป็นคนตัดสิน พรรคประชาธิปัตย์ก็เพียงแค่เป็นคู่แข่งเท่านั้น

“สิ่งที่เป็นห่วงอย่างยิ่งอีกเรื่อง คือ วันนี้ปี่กลองจะเริ่ม เบอร์ยังไม่ได้ แต่มีการบอกกล่าวกันว่าในส่วนของข้าราชการได้มีการสนับสนุนพรรคการเมือง ซึ่งเตือนไปว่าอย่าคิดว่าทำอะไรแล้วประชาชนไม่ทราบ อย่าคิดว่าการกระทำเพื่อสนองตอบในเรื่องของการเลือกตั้งครั้งนี้ มีผลทำให้ตัวเองได้เลื่อนชั้นสูงขึ้นไป แต่ต้องมองกลับอีกด้านว่าท่านกำลังเป็นข้าราชการที่กำลังประพฤติผิดต่อการเลือกตั้งและมีผลต่อผู้ใต้บังคับบัญชาถูกดำเนินคดีถ้าพฤติกรรมดังกล่าวเพียงแต่กำลังเริ่มก็ขอให้หยุด ควรวางตัวเป็นกลางให้ดีที่สุด”

ด้าน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การออกมาพูดเชิงเสียดสี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ของพรรคประชาธิปัตย์ และความตื่นตัวเหลือเกินในการยื่นคำท้าให้มีการดีเบตระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ดูจากอาการของพรรคประชาธิปัตย์พักนี้มั่นใจว่าการพูดจาดีเบตของ นายอภิสิทธิ์จะเป็นข้อได้เปรียบในการมาเทียบเคียงกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์และเมื่อรู้ว่าจะได้เปรียบพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เคยละเลยที่จะละโอกาสแม้ว่าสังคมจะเต็มไปด้วยข้อกังขาในการทำงานที่ผ่านมาตลอดระยะเวลากว่า 2 ปีของรัฐบาลชุดนี้ก็ตาม

“ขอถามไปยังพรรคประชาธิปัตย์และนายอภิสิทธิ์ที่พยามจะท้าทายให้ดีเบตว่ากว่า 2 ปีที่ผ่านมาท่านไม่สงสารประชาชนคนไทยบ้างหรือสองปีที่คุณอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ คุณอภิสิทธ์มีแต่พูดๆ แล้วก็พูด พอพ้นจากตำแหน่งนายกฯ ก็จะหาเวทีเพื่อพูดอีก ผมเรียนว่าคนไทยเขาเห็นตัวตน ของคุณอภิสิทธิ์ชัดเจนหมดสิ้นแล้ว และคำว่าดีแต่พูดก็เป็นคำจำกัดความที่สั้นและกระชับและตรงไปตรงมาอย่างที่สำหรับนายกฯคนนี้ พรรคเพื่อไทยยินดีที่จะใช้ผลงานในอดีต นโยบายเป็นเครื่องยืนยันต่อความมั่นใจของประชาชนเราไม่จำเป็นต้องดีเบต เพราะเราดีกว่าและเรามั่นใจว่าด้วยนโยบายและผลงานที่ผ่านมาจะทำให้ประชาชนสนับสนุนคราวนี้ได้”

ส่วนที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าถ้าเลือกพรรคเพื่อไทยจะได้ น.ส.ยิ่งลักษณ์เท่ากับว่าจะกลายเป็นหุ่นเชิดเป็นตัวแทนของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ตนคิดว่านายสุเทพพูดโดยเจตนาไม่ยอมรับข้อเท็จจริงว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์มีความรู้ความสามารถและมีประสบการณ์ในการบริหารองค์กรระดับพันล้านหมื่นล้านบาท กิจการมีความเติบโตก้าวหน้า มิติในการบริหาร น.ส.ยิ่งลักษณ์ถือเป็นอาจารย์ของนายอภิสิทธิ์ได้เลยเพราะนายอภิสิทธิ์ไม่เคยมีตำแหน่งเหล่านี้ก่อนก้าวเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะฉะนั้น คนที่ผ่านกิจการ ดูแลกิจการ ผ่านคลื่นลมการบริหารมาแบบ น.ส.ยิ่งลักษณ์มีความคิดเป็นของตัวเอง มีสติปัญญาเป็นของตัวเอง

แต่ข้อที่จะดีขึ้นไปอีกและเป็นเรื่องที่ประชาชนเขายอมรับคือ ความรู้ ความสามารถ ดังนั้นคนที่ผ่านการบริหารอย่าง น.ส.ยิ่งลักษณ์มีความคิดและสติปัญญาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์เมื่อบวกกับประสบการณ์และความรู้ความสามารถของ พ.ต.ท.ทักษิณจะเป็นส่วนผสมที่ลงตัวจะนำพาประเทศออกจากวิกฤติทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ต่างจากนายอภิสิทธิ์ทีเป็นหุ่นเชิดของอำนาจนอกระบบ แต่ไม่ได้มีต้นทุนทางความสามารถ ไม่ได้มีต้นทุนทางประสบการณ์มาเลย เพราะฉะนั้นเมื่อขึ้นนั่งเก้าอี้นายกฯสภาพของบ้านเมืองก็เป็นอย่างที่เห็นข่าวคราวการทุจริตก็เกิดขึ้นอย่างที่เป็นอยู่เวลานี้ เพราะฉะนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์นอกจากความรู้ความสามารถของตัวเองแล้วยังบวกกับความรู้ของ พ.ต.ททักษิณที่จะเป็นที่ปรึกษาและผู้สนับสนุน

“เอาสโลแกนง่ายๆ ดีกว่า เลือกยิ่งลักษณ์ได้นโยบายทักษิณ ถ้ารักสุเทพกับเนวิน ให้เลือกอภิสิทธิ์ ผมคิดว่าประชาชนเขาตัดสินใจได้”

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า เมื่อพรรคเพื่อไทยประกาศเลือกน.ส.ยิ่งลักษณ์เราก็พร้อมที่จะเดินร่วมทางกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ต่อสู้ในสนามเลือกตั้งอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม และก็พร้อมที่จะต่อสู้เต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเผชิญการกดดันและแทรกแซง แต่ถ้าหากพรรคประชาธิปัตย์เห็นว่านายอภิสิทธิ์เก่งกาจสามารถเหลือเกินเป็นที่ยอมรับรักใคร่ของประชาชนเหลือเกิน และ น.ส.ยิ่งลักษณไม่มีอะไรจะเทียบเปรียบได้ ตนก็อยากฝากคำพูดง่ายๆ ว่าถ้ามั่นใจขนาดนั้น แน่จริงอย่าโกงผู้หญิงก็แล้วกัน อย่าใช้อำนาจนอกระบบมากดขี่แทรกแซงประชาชน ถ้าพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนเสียงข้างมากก็อย่ามาแทรกแซงการจัดตั้งรัฐบาล อย่าใช้อำนาจนอกระบบทำลายเจตนารมณ์ของประชาชน ขอย้ำอีกทีว่าถ้ามั่นใจว่าชนะแน่ แน่จริงก็อย่าโกงผู้หญิงแล้วกัน

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ประการสุดท้ายขอเรียนว่าสถานการณ์การเมืองอยู่ในบรรยากาศเลือกตั้งเต็มรูปแบบ ขอเรียกร้องให้กลุ่มอำนาจนอกระบบหรือกลไกรัฐที่เป็นเครื่องมือ ได้กรุณามีจิตสำนึกต่อกระบวนการประชาธิปไตยและยุติการสั่งการปฏิบัติการในพื้นที่เลือกตั้งอย่างที่เป็นอยู่ทันที ซึ่งขณะนี้ยังมีอยู่ มีเจ้าหน้าที่ส่วนอำนวยความมั่นคงไปเช่าบ้านตามเขตเลือกตั้งต่างๆ ทำสัญญาเช่าตกลงกัน 3 เดือน ไปเช่าบ้านเสร็จก็รีบตั้งจานดาวเทียมเพื่อดูความเคลื่อนไหวของประชาชนฝ่ายประชาธิปไตย พรรคการเมือง และทุกวันเช้ายันเย็นไม่ทำอะไร ตระเวนกินก๋วยเตี๋ยว กินข้าวแกงร้านนี้ สอบถามข้อมูลซอกแซก วิธีอย่างนี้ให้เลิกเสียเพราะประชาชนเขารู้ทัน

ส่วนการขอประกันตัวนายจตุพร พรหมพันธุ์ เพื่อมาสมัครรับเลือกตั้ง นายณัฐวุฒิกล่าวว่า หารือกันแล้วทีมทนายจะต้องยื่นเรื่อง 18 พ.ค. แต่การยื่นเรื่องเพื่อให้นายจตุพรได้ออกมาสมัคร ส.ส.ดำเนินการพร้อมกับการยื่นประกันในวันที่ 18 พ.ค.นี้อย่างแน่นอน และคิดว่าขั้นตอนการพิจารณาคงไม่มีอะไรซับซ้อนเพราะมีกรณีปฏิบัติของนายก่อแก้ว พิกุลทองเป็น ตัวปฏิบัติอยู่แล้วคิดว่าหนึ่งวันศาลน่าจะวินิจฉัยได้ แต่อย่างไรเราคงไม่ไปก้าวล่วงการวินิจฉัยของศาล

ส่วนกรณีที่ กกต.ระบุว่านายจตุพรไม่ต้องมาสมัครด้วยตัวเองก็ได้เพราะมีรายชือ่ในบัญชีผู้สมัครอยู่แล้ว นายณัฐวุฒิกล่าวว่า นั่นเป็นความเห็นของ กกต. เราเห็นว่าในประเทศที่เป็ประชาธิปไตยจะมีความพยามที่สุดให้นักการเมืองมาพบกับประชาชนได้มีโอกาสนำเสนอแนวคิดต่อประชาชนในการเลือกตั้ง ซึ่งนายจตุพรเป็นนักการเมืองคนหนึ่งก็น่าจะได้รับสิทธินั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่าถามถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ในวันที่ 19 พ.ค.นี้ของคนเสื้อแดงหลายฝ่ายมองว่าอาจจะเกิดอะไรรุนแรง นายณัฐวุฒิกล่าว่า การเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงไม่ได้มีมิติความรุนแรงแต่ต้นอยู่แล้ว ถ้าไม่มีที่ 3 มือที่ 4 หรือมือที่มองไม่เห็นไปสร้างความปั่นป่วนให้เกิดความเสียหาย ทุกอย่างก็จะเริ่มต้นแลจะจบอย่างสงบ ทราบจากแกนนำคนจัดว่าจะไม่มีการปราศัยทางการเมือง สิ่งที่เกิดขึ้นบนเวทีจะเป็นการรำลึกสดุดีวีรชนที่สูญเสียมีการประกอบพิธีสงฆ์ ถวายสังฆทานเวลากระชับสั้น ตนห่วงมือที่ 3 มือที่ 4 มือที่มองไม่เห็นมากกว่า อย่างไรก็ตาม แกนนำเสื้อแดงที่ลงสมัคร ส.ส.จะไปร่วมในฐานะประชาชนคนหนึ่งใด และจะไม่มีส่วนร่วมกับการเป็นผู้จัดการชุมนุม ไปในฐานะรำลึกครบรอบการสูญเสียหนึ่งปีเท่านั้น โดยพิธีจะเริ่มประมาณ 17.00 น.