ASTVผู้จัดการรายวัน- ชัดเจนกลุ่มเสื้อแดง-เพื่อไทยพวกเดียวกัน เผยโจกแดงเผาเมืองได้ดี ขึ้นชื่อปาร์ตี้ลิสต์พรรคเผาไทยเพียบ "เจ๊มิ่ง-ไอ้กี้ร์" วืดปาร์ตี้ลิสต์ 20 อันดับแรก พธม.แฉหวังใช้เอกสิทธิ์คุ้มกะลาหัวเพื่อทำผิด
วานนี้ ( 18 พ.ค. ) ที่พรรคเพื่อไทย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 ของพรรคเพื่อไทย เดินทางมายังที่ทำการพรรคเพื่อร่วมประชุมกับทีมเศรษฐกิจ ในการวางนโยบายด้านเศรษฐกิจ และจะเริ่มลงพื้นที่ในวันที่ 21 พ.ค.นี้ ที่ จ.เชียงใหม่ และเชียงราย
** ปัดดีเบต"มาร์ค" ขอพบประชาชนก่อน
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังกล่าวถึงพรรคประชาธิปัตย์ ที่ขอให้มีการดีเบตระหว่าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กับตนเองว่า ขอพบปะกับประชาชน เพื่อพูดคุยถึงนโยบายของพรรคเพื่อไทยก่อน จากนั้นเมื่อใกล้ถึงเวลาเลือกตั้ง หากจะมีการดีเบตอย่างไร ก็ว่ากันอีกครั้ง ซึ่งตนเพิ่งเข้าสู่วงการการเมืองไม่นานมานี้ จึงต้องการพบประชาชนมากกว่า
ส่วนที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องส่วนตัวนั้น ตนก็อดทน และต้องการให้การเมืองที่สร้างสรรค์ จึงอยากให้ทุกฝ่ายนำนโยบายมาเสนอกันมากกว่า
ทั้งนี้การวิพากษ์วิจารณ์จนกระทั่งอาจก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว จะนำไปสู่การฟ้องร้องหรือไม่ นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวอีกว่า ต้องดูขั้นต้น ณ ขณะนี้ขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุดโดยสังคมก็คงเป็นผู้พิจารณาตนเอง
ส่วนกรณีรายชื่อ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ยังไม่เสร็จเรียบร้อย ซึ่งจากนี้ ก็เป็นหน้าที่การพิจารณาของกรรมการบริหารพรรค
**"เจ๊มิ่ง-ไอ้กี้ร์"วืดปาร์ตี้ลิสต์20 อันดับแรก
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังกรรมการบริหารพรรคได้ทำการรับรองรายชื่อของบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี และรายชื่อผู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ 125 คนในอันดับต้น ได้แก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายเสนาะ เทียนทอง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก นายปลอดประสพ สุรัสวดี นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช พล.ต.ท.ชัช กุลดิลก นายจารุพงษ์ เรืองสุวรรณ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย นายสันติ พร้อมพัฒน์ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ นพ.เหวง โตจิราการ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล นายนิวัตน์ธำรง บุญทรงไพศาล นายวัฒนา เมืองสุข พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา โดยรายชื่อทั้งหมดนี้ ยังไม่ได้ถูกเรียงตามลำดับ และระบบแบบเขต 375 คน
ทั้งนี้ในรายชื่อระบบบัญชีรายชื่อนั้น ไม่ปรากฏชื่อ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ อยู่ในรายชื่อ 20 อันดับแรกด้วย โดยนายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เอกสารของนายมิ่งขวัญ ยังไม่ครบถ้วน ซึ่งในวันนี้ถ้ามีการยื่นเอกสารเข้ามาเพิ่ม รายชื่ออาจจะมีการปรับเปลี่ยนได้ นอกจากนี้ยังไม่ปรากฏชื่อของนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงแต่อย่างใด
ส่วนกรณีของนายจตุพร พรหมพันธุ์ นั้นไม่จำเป็นที่จะต้องออกจากคุก มาทำการยื่นเอกสารในการสมัครด้วยตนเองก็ได้
ส่วนกรณีที่นายสงกรานต์ เตชะณรงค์ ที่มาลงพื้นที่กรุงเทพมหานคร ทำให้นายวัฒนา เซ่งไพเราะ ต้องขยับขึ้นไปอยู่ในระบบบัญชีรายชื่อ ทั้งนี้พรรคเพื่อไทย จะเดินทางไปสมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง เวลา 07.00 น.วันนี้
นอกจากนี้ยังได้รับการเปิดเผยรายชื่อ ว่าที่ผู้สมัครใน จ.เชียงใหม่ ดังนี้ เขต 1 น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ เขต 2 นายกฤษฎาภรณ์ เสียมภักดี เขต 3 นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ เขต 4 น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ เขต 5 นายวิทยา ทรงคํา เขต 6 นายนพคุณ รัฐผไท เขต 7 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ เขต 8 นายสุรพล เกียรติไชยากร เขต 9 นายศรีเรศ โกฏิคำลือ เขต 10 นายประสิทธิ์ วุฒินันชัย
***ศาลห้าม"ไอ้ตู่"ออกคุกไปสมัครส.ส.
ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเศก นายวิญญัติ ชาติมนตรี พร้อมด้วย นายคารม พลทะกลาง ทนายความกลุ่มแนว นปช. ได้มายื่นคำร้องขอให้ศาลอนุญาตให้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. และ อดีตส.ส. สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ในข้อหาก่อการร้าย เพื่อออกไปลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ของพรรคเพื่อไทย หลังจากจำเลยได้รับการเสนอชื่อ จากกรรมการบริหารพรรคให้เป็นผู้สมัครของพรรค
ต่อมาศาลพิเคราะห์คำร้องแล้ว เห็นว่า การสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคการเมือง หรือกรรมการบริหารพรรคการเมืองที่ได้รับมอบหมายเป็นหนังสือจากหัวหน้าพรรคการเมือง จะเป็นผู้ยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัครเลือกตั้งดังกล่าว โดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ จำเลยที่ 2 จึงไม่จำเป็นต้องไปสมัครด้วยตนเอง ไม่มีเหตุสมควรอนุญาต ยกคำร้อง
***ใช้รถไฟฟ้า10สายหาเสียงคนกรุง
นายคณวัฒน์ วศินสังวร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับกรณีเรื่องนโยบายของรถไฟฟ้า ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็เน้นให้ที่ประชุมไปดูความชัดเจนนโยบายรถไฟฟ้า 10 สาย เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน ในการเดินทางเข้าเมืองหลวง ในราคาที่ไม่แพง ซึ่งในขณะนี้ได้กำหนดเอาไว้ว่า ค่าบริการจะอยู่ 20 บาทตลอดสาย ในทุกๆ เส้นทาง
***ยิ่งลักษณ์ไขก๊อกSC
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กล่าวที่พรรคเพื่อไทยว่า ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอสซีแอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (เอสซี) แล้วเพื่อมาเล่นการเมืองเต็มตัว เมื่อวันที่ 18 พ.ค.ซึ่งทางตลาดหลักทรัพย์ก็คงจะแจ้งต่อผู้ถือหุ้นต่อไป ทั้งนี้ใบลาออกดังกล่าวจะมีผลสมบูรณ์วันที่ 30 มิ.ย.
***อัดโจกแดงลงปาร์ตี้ลิสต์หวังเอกสิทธิ์
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงกรณี พรรคเพื่อไทย เตรียมส่งแกนนำ นปช. หรือกลุ่มคนเสื้อแดง เป็นผู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรคว่า การส่งบุคคลเหล่านี้ลงสมัคร โดยให้อยู่ในลำดับที่ปลอดภัยในการได้รับเลือกเป็น ส.ส. ก็เพื่อหวังให้สามารถใช้เอกสิทธิ์คุ้มครองไม่ต้องถูกควบคุมตัวในกรณีที่กระทำความผิด แสดงให้เห็นว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง และพรรคเพื่อไทย ไม่ได้แยกจากกันตามที่เคยกล่าวอ้างไว้เลย ที่สำคัญยังปรากฏความเป็นจริงในเรื่องอภิสิทธิ์ชนในกลุ่มคนเสื้อแดงเอง ที่เฉพาะแกนนำเท่านั้นที่ได้สิทธิ์ในการที่จะเป็น ส.ส. ในขณะที่แนวร่วม กลับไม่มีโอกาสได้รับสิทธิ์คุ้มครองดังกล่าว หากถูกจับกุม ก็จะไม่ได้รับการช่วยเหลือ แต่กลับมีความพยายามในการส่ง นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ที่อยู่ระหว่างการหลบหนีคดี อยู่ในต่างประเทศ ลงสมัครด้วย ทั้งที่นายอริสมันต์ ถือเป็นแกนนำคนเสื้อแดง ที่มักพูดในลักษณะให้ก่อเหตุรุนแรงมากที่สุด
การเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พรรคเพื่อไทย และกลุ่มคนเสื้อแดง เป็นขบวนการเดียวกัน ทั้งพฤติกรรมที่หมิ่นสถาบันฯ และการก่อความรุนแรงต่างๆ ดังนั้นหากพรรคเพื่อไทยได้เข้ามาบริหารประเทศสถานการณ์ความรุนแรง ก็ยังจะไม่สิ้นสุด แล้วยังจะมีแนวโน้มที่จะทำลายหลักนิติรัฐ โดยการนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และบุคคลบางกลุ่ม
ในทางกลับกัน ประชาชนก็รับไม่ได้อีกเช่นกัน หากพรรคประชาธิปัตย์ได้กลับมาเป็นรัฐบาล เพราะไม่สามารถทนได้กับปัญหาข้าวยากหมากแพง การทุจริตคอร์รัปชัน และที่สำคัญปัญหาการถูกละเมิดอธิปไตยของชาติ การเมืองทั้ง 2 ขั้วใหญ่นี้ จึงยังเป็นปัญหา และไม่ใช่คำตอบของชาติ ในขณะที่การเมืองขั้วที่ 3 ก็เป็นได้เพียงเสียงส่วนน้อย ในระบบรัฐสภา
*****"สนธิ"ชี้"ยิ่งลักษณ์"ไร้ประสบการณ์
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และผู้บริหารหนังสือพิมพ์ผู้จัดการเอเอสทีวี ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่ากรณีที่พรรคเพื่อไทยชูน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขึ้นเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ประการแรก ถือเป็นยุทธศาสตร์และเจตนารมณ์ที่ชัดเจนของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ต้องการรวมศูนย์อำนาจการตัดสินใจภายในพรรคเพื่อไทย หลังจากที่ไม่ไว้ใจคนอื่น เพราะสมัยอดีตนายสมัคร สุนทรเวช ก็ไม่สามารถนำพาพรรคแทนได้และไม่มีใครเชื่อใจได้มากกว่าน้องสาวของตัวเอง ประการที่สองการ ที่คุณยิ่งลักษณ์ขึ้นมาเป็นตัวแทนถือว่าเป็นการดี โอกาสที่จะก้าวร้าวมีน้อย แต่มีหลายอย่างที่คุณยิ่งลักษณ์ตอบไม่ได้เกี่ยวกับการแก้ปัญหาทางการเมือง เพราะไม่เคยเล่นการเมือง และไม่มีประสบการณ์ทางการเมืองจึงต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก
***มาร์คยันมีเวลาดีเบตอีกนาน
เมื่อเวลา 18.15 น. ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รักษาการนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครบัญชีรายชื่อหมายเลข 1 พรรคเพื่อไทย ยังไม่พร้อมที่จะดีเบตในตอนนี้ ว่า ยังมีเวลา เมื่อมีการแข่งขันทางการเมืองกันแล้ว ถ้ายึดตามหลักสากลก็ต้องมีวิธีการที่จะให้ประชาชนสามารถที่จะรับรู้รับทราบได้ ก็ให้เวลาอีกสักนิดหนึ่ง
เมื่อถามว่า คิดว่ามีคำถามอะไรบ้างที่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ควรจะตอบและบอกกับสังคม นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทุกคนมีคำถามที่จะต้องตอบ ตอนนี้ควรจะให้เวลาแต่ละพรรคได้ดำเนินการเรื่องการสมัครรับเลือกตั้ง แถลงนโยบายกันให้เรียบร้อยก่อน ไม่จำเป็นต้องไปคาดคั้นอะไรกัน แต่ถึงที่สุดแล้วก็เป็นระบบการตรวจสอบอย่างหนึ่ง เมื่อถามว่า มองว่าการดีเบตมีความสำคัญสำหรับนักการเมืองใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถือว่าเป็นกระบวนการปกติ ถ้าเราอยากเป็นประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา
***จี้ต้องเคลียร์เรื่องนิรโทษ
เมื่อถามว่า นโยบายเกี่ยวกับเรื่องนิรโทษกรรม นางสาวยิ่งลักษณ์ควรจะอธิบายให้ชัดเจน หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่าพรรคเพื่อไทยจะต้องอธิบายให้ชัดเพราะเป็นสิ่งที่ตนเองเชื่อว่าจะทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมาอีก ไม่ใช่เรื่องของการปรองดอง เวลาที่พูดถึงว่าจะทำให้คนพ้นจากความผิดอะไรต่างๆ มันจะทำให้เกิดการโต้เถียง วันนี้การเลือกตั้งมันน่าจะเป็นเรื่องที่เราก้าวพ้นสิ่งเหล่านี้ มุ่งไปสู่การแก้ปัญหาของประชาชนมากกว่า ซึ่งปัญหาที่รอคอยการแก้ไขใหญ่ๆ ประชาชนสะท้อนออกมาชัดเป็นเรื่องของปากท้อง ยาเสพติด ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์ จะมุ่งหน้าตรงนี้ว่าทำอย่างไรเราสามารถที่จะทำการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้ตรงกับความต้องการของพี่น้องประชาชน ไม่ควรให้ประเทศมาเสียเวลา โต้เถียงขัดแย้งกันในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับนักการเมือง
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โจมตีทั้งสองฝ่ายโดยบอกว่านางสาวยิ่งลักษณ์เป็นนอมินีของพ.ต.ท.ทักษิณ ส่วนนายอภิสิทธิ์ เป็นนอมินีของนายสุเทพ และนายเนวิน นายอภิสิทธิ์ หัวเราะพร้อมกับกล่าวว่า คงไม่ใช่ มันชัดเจนอยู่แล้ว การตัดสินใจต่างๆ ที่ผ่านมา ตนเองถูกวิจารณ์ แม้แต่โครงการกระทรวงต่างๆ เสนอขึ้นมาไม่ผ่าน ตนก็ถูกวิจารณ์หลายรอบว่าไปขัดแข้งขัดขาคนอื่น อะไรต่างๆ ฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะไปบอกว่าตนเป็นตัวแทนของนักการเมืองคนใดคนหนึ่ง ไม่ใช่
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรี มองเหมือนกับที่นายบรรหาร ศิลปอาชา ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชพน.) ว่า ถึงเวลาชิงตำแหน่งนายกฯ อาจไม่ใช่นางสาวยิ่งลักษณ์ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงไม่สามารถตอบได้ ตามระบบของรัฐสภากติกาชัดอยู่แล้ว รัฐธรรมนูญบอกให้เลือกนายกฯกันในสภา ขานชื่อกันอย่างเปิดเผย และวันนี้ควรจะถามคนที่ลงสมัครส.ส. โดยประชาชนถามส.ส.ในเขตว่าเลือกไปแล้วจะไปยกมือให้ใครก็จะโปร่งใสดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่พรรคเพื่อไทยส่งนางสาวยิ่งลักษณ์เป็นตัวนำขบวนในครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีคิดว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวสำหรับพรรคประชาธิปัตย์ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนถือการเลือกตั้งทุกครั้งมีการแข่งขัน และทุกคนก็ต้องทำให้ดีที่สุด ตนไม่ไปวิจารณ์ใครตอนนี้ ตนถือว่าเป็นเรื่องที่เราต้องเปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงแนวความคิดของตนเอง แล้วมาตรวจสอบกัน
เมื่อถามว่า โดยนัยยะแล้วการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์สู้กับพ.ต.ท.ทักษิณโดยแท้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงต้องถามพรรคเพื่อไทย ตนไม่ไปก้าวล่วงตรังนั้น เพียงแต่บอกว่าเมื่อใครอาสาตัวเข้ามาก็ต้องมาแสดงจุดยืนให้ชัด ตอบคำถามของสังคม รับการตรวจสอบ และแข่งขันกันไปเหมือนกันตนเองและหัวหน้าพรรคคนอื่นๆ ที่เสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องได้รับการตรวจสอบจากประชาชนเหมือนกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่พ.ต.ท.ทักษิณ เดิมพัน โดยการส่งนางสาวยิ่งลักษณ์ลงมา เท่ากับประกาศว่าครั้งนี้แพ้ไม่ได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เข้าใจว่าพ.ต.ท.ทักษิณ หรือพรรคเพื่อไทยคงไม่อยากแพ้ แต่สำคัญกว่าชัยชนะของพรรคการเมืองคือบ้านเมืองจะเดินอย่างไร
“ผมไม่คิดว่าวันนี้ ความเร่งด่วนของบ้านเมืองจะอยู่ที่ว่าจะไปนิรโทษกรรม หรือไปล้างความผิดให้ใคร” นายอภิสิทธิ์ กล่าวเมื่อถามว่า ที่ผ่านมาพ.ต.ท.ทักษิณ พยายามออกมาพูดระยะเวลาการกลับประเทศ ดูเหมือนการเลือกตั้งคราวนี้พรรคเพื่อไทยจะพยายามทุกอย่างเพื่อให้ได้ชัยชนะ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยมองว่านั้นคือปัญหาเร่งด่วนของบ้านเมืองก็ต้องพูดออกมาให้ชัด แต่ตนเห็นว่าปัญหาเร่งด่วนของประชาชนคือเรื่องอื่น เมื่อปี 2551 ก็มีความพยายามที่จะทำอะไรอย่างนี้ และมันก็ไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่าทำอย่างไร ทำแล้วสังคมจะสงบหรือตรงกันข้ามกับสิ่งที่เกิดขึ้นในปี2551 คือเกิดปัญหาความขัดแย้งมากขึ้นและเป็นปมใหม่ของความขัดแย้งขึ้นมาอีก
** ห้ามครม.ลาเกิน 3 วันใน 1 สัปดาห์
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในการประชุมครม.วานนี้ ( 18 พ.ค.) โดยมีรัฐมนตรีเข้าร่วมประชุมเพียง 22 คนเท่านั้น และใช้เวลาประชุมแค่ 1 ชม. ทั้งนี้ ที่ประชุมครม.ใช้เวลาส่วนใหญ่หารือเกี่ยวกับการตอบข้อหารือของกกต.เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีในระหว่างที่มีการยุบสภา รวม 5 ข้อ ซึ่งก็ยังคงมีรัฐมนตรีหลายคงซักถามถึงข้อสงสัยในสิ่งที่ทำได้หรือไม่ได้ในช่วงการหาเสียง
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังแจ้งเน้นย้ำต่อ ครม.ด้วยว่า ขออย่าลาหยุดกันบ่อยนัก โดยใน 1 สัปดาห์ห้ามลาหยุดเกิน 3 วัน ไม่เช่นนั้นตนจะไม่รับการลา โดยรมต.ให้แจ้งลาต่อนายกรัฐมนตรี ส่วนนายกฯ ต้องแจ้งลาต่อครม. แต่ก็ไม่ได้มีระเบียบกำหนดว่าต้องแจ้งก่อนหรือหลัง โดยตนขอถือโอกาสแจ้งลากิจให้ครม.ทราบเลยว่า จะขอลากิจ 2 วัน ในวันที่ 19-20 พ.ค. เพราะในวันที่ 19 พ.ค.จะไปลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งต้องให้มีการตั้งรักษาการนายกรัฐมนตรี โดยมอบหมายให้ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ทำหน้าที่รักษาการนายกฯ แทน
*** จี้ขั้นตอนล้างผิดแม้ว
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในการสมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อในวันนี้ ( 19 พ.ค.) ผู้สมัครของพรรค ทั้งระบบเขต และระบบบัญชีรายชื่อ จะเดินทางไปสมัครเพื่อจับเบอร์ในวันนี้ พร้อมกับหัวหน้าพรรค และแกนนำพรรค ในเวลา 07.30 น. ที่สนามไทยญี่ปุ่น-ดินแดง และจะออกพบปะประชาชนทันที หลังจากได้เบอร์แล้ว
นพ.บุรณัชย์ กล่าวถึง แนวทางการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งว่า ทั้งพรรคเพื่อไทย และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังไม่มีการพูดอย่างชัดเจนถึงการเข้าสู่กระบวนการยกโทษ ล้างผิดให้บุคคล และกลุ่มบุคคล ว่ามีขั้นตอน วิธีการในการล้างผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างไร เพราะแกนนำบอกว่า ต้องใช้วิธีการออกกฎหมาย
ดังนั้น จึงอยากถามถึงกรอบเวลาขั้นตอนต่างๆ ที่จะนำไปสู่การล้างผิดว่า จะมีแผนอย่างไร นับตั้งแต่การเข้าสู่ตำแหน่งนายกฯ หากพรรคเพื่อไทยสามารถตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ และให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ประกาศว่า จะมีแผนล้างผิดอย่างไร ที่จะไม่ทำให้เกิดความวุ่นวายในสังคม
** อ้างดีเบตไม่ขัดแนวทางปรองดอง
นายบุญยอด สุขถิ่นไทย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่าไม่เคยมีการดีเบตระหว่างหัวหน้าพรรคมาก่อนว่า ในอดีตเคยมีการดีเบต ระหว่าง นายชวน หลีกภัย และนายบรรหาร ศิลปอาชา มาแล้ว และยืนยันว่าการดีเบตไม่ได้มาทะเลาะกัน แต่จะมาพูดถึงนโยบาย การโชว์วิสัยทัศน์ เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมูล ซึ่งการที่นายปลอดประสพ ออกมาพูดแบบนี้ ถือเป็นเรื่องที่ผิด และการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ บอกว่าการดีเบตจะทำให้ไม่ปรองดองนั้น ก็อยากถามว่า การดีเบตไม่ปรองดองตรงไหน
นายบุญยอด กล่าวถึงการชุมนุมของคนเสื้อแดงว่า แสดงเห็นความขัดแย้งของตัวเอง ที่นายบอก ไม่แก้แค้น มุ่งแก้ไข แต่วันนี้กลับจะมาชุมนุม ซ้ำเติมปัญหา ทำให้คนอยากแก้แค้น ทั้งนี้ อยากให้แกนนำหลีกเลี่ยงการปลุกระดมคนให้แก้แค้น ชิงชัง แต่หากจะทวงถามความถูกต้อง เรื่องหาคนผิด คนยิง สามารถทำได้
****ใช้ตร. 25 กองร้อยคุมม็อบแดง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงในวันนี้ (19 พ.ค.) ว่า ทางตำรวจได้เตรียมกำลังไว้แล้ว ประมาณ 25 กองร้อย และทางกลุ่มนปช. ก็บอกว่าจะไม่ใช้ความรุนแรง และพูดจาให้เกิดความเสียหาย ก็ดูไปก็แล้วกัน ใครพูดอะไรก็ขอให้บันทึกไว้ ทุกคนต้องช่วยตน จะให้ตนสู้คนเดียวได้อย่างไร ตนสู้คนเดียวไม่ได้ สู้กับคนชั่วร้าย คนร้ายเป็นใครไม่รู้ ใครไม่ดี ทำผิดกฎหมาย ละเมิดสถาบันฯ นั้นคือคนร้าย กฎหมายมีไว้ให้ปฎิบัติ จะปฎิเสธไม่รู้กฎหมาย ไม่ได้
เมื่อถามว่า ครบรอบ 1 ปีหลังจากที่เกิดเหตุความวุ่นวาย ดูแล้วสถานการณ์ดีขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ประชาชนต้องเข้าใจว่า เป็นเรื่องของการเมือง การเมืองก็ว่ากันไป ประชาชนที่เหลือ ก็ต้องดูว่าอะไรผิดถูกดีหรือไม่ดี ทหารเป็นเจ้าหน้าที่ปฎิบัติตามกฎหมาย และที่ผ่านมา สถานการณ์เป็นตัวกำหนด ไม่ใช่เราเป็นคนกำหนดว่าต้องใช้มาตรการรุนแรง
ทหารทำตามหน้าที่ตามกฎหมายที่เขาได้สั่งการมา มีรัฐบาลรับผิดชอบ ก็ต้องทำ ถ้าไม่ทำก็ผิด และวิธีการดำเนินการแต่ละครั้ง ไม่ใช่ว่าอยากทำอะไรก็ทำ อยู่ดีๆ จะเอาปืนไปไล่ยิง ซึ่งไม่ใช่ ถ้าทุกคนรู้ว่าเขาประชุมกันอย่างไร มีมาตรการอย่างไร แทบจะเอื้อประโยชน์ให้ผู้ร้าย ซึ่งก็เต็มที่แล้วว่าทำอย่างไรจะให้เขาปลอดภัย จนทำให้คนไม่ดีใช้โอกาสตรงนี้มาทำให้เกิดความรุนแรง ต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่
** เลือกคนดีมาดูแลบ้านเมืองแทนทหาร
เมื่อถามว่า หลังการเลือกตั้ง สถานการณ์จะดีขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ต้องดี คาดหวังกันอย่างนั้นไม่ใช่หรือ เมื่อถามว่า พวกสีต่างๆ จะออกมาเคลื่อนไหวกันอีกหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็อยู่ที่พวกเรา เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทย เสนอ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้เป็นนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็แล้วแต่ เครือข่ายเขาส่งมา คงไม่เกี่ยวกับตน และไม่ขอแสดงความคิดเห็นใดๆ และตนจะเลือกใคร ก็เป็นเรื่องของตน
เมื่อถามว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่สงบขึ้นอีก จะมีการปรับบทบาทอย่างไรบ้าง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็อย่าให้เกิด เกิดหรือไม่ อยู่ที่เรา ทำให้ทุกอย่างสงบแล้วการเลือกตั้งจะไปได้ดี ประชาชนก็มีสิทธ์ในการเลือกคนดีๆ มาปกครองมาดูแลบ้านเมืองแทนพวกเรา อย่าให้เราต้องใช้กฎหมาย ใช้ทหารออกมา เพราะอันตรายสุ่มเสี่ยงต่อเหตุการณ์จะลุกลามบานปลาย อยากขอร้อง และอย่าเอาทหารไปยุ่งกับการเมือง