“ชุมพล” เผยปาร์ตี้ลิสต์เสร็จ 95% คาดได้ ส.ส.เท่าเดิม รับน้อยใจโพลไร้ชื่อพรรค ชี้ พท.ส่ง “ยิ่งลักษณ์” ไม่ได้หมายถึงจะไม่ปรองดอง เชื่อดีเบตตัดสินอะไรไม่ได้ ด้าน “เสธ.หนั่น” ไม่วิจารณ์ “นช.แม้ว” ส่งน้องชิงนายกฯ โยนเสียงในสภาหนุนใครนั่งผู้นำ แนะจับมือสาบานปรองดองหลังเลือกตั้ง
วันนี้ (18 พ.ค.) ที่ รร.มิราเคิล แกรนด์ นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงการจัดทำบัญชีรายชื่อว่า ขณะนี้เรียบแล้วไปกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 5 เปอร์เซ็นต์ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสาร หลักฐานต่างๆ เบอร์อะไร ส่วนพรรคจะจับเบอร์อะไร ตนเป็นคนไม่เชื่อเรื่องโชคลาง แต่ยอมรับในพื้นที่ต่างจังหวัดเบอร์ผู้สมัครมีผลต่อการลงคะแนน อย่างไรก็ตามเบื้องต้นประเมินว่าพรรคน่าจะได้ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่ออย่างน้อยเท่าเดิม 6 คน เนื่องจากขณะนี้ผลสำรวจออกมาพรรคชาติไทยพัฒนาไม่ติดโหวต ซึ่งยอมรับรู้สึกน้อยใจเช่นกัน
นายชุมพลยังกล่าวถึงการที่พรรคเพื่อไทยส่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลงบัญชีรายชื่ออันดับหนึ่งว่า เป็นเรื่องของตัวบุคคลที่ต้องแยกออกจากประเด็นของความปรองดอง เพราะการส่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้หมายความว่าพรรคเพื่อไทยจะไม่สนับสนุนแนวทางปรองดอง ส่วนการเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ดีเบตกับนายอภิสิทธิ์ นั้นเห็นว่าการดีเบตคงไม่สามารถตัดสินได้ว่าแต่ละคนมีความรู้ความสามารถอย่างไร เพราะเรื่องของการตอบคำถามและแก้ปัญหาบนเวที เป็นความสามารถเฉพาะตัวที่อาจจะทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ ซึ่งโดยส่วนตัวเห็นว่าการจะตัดสินใครคงดูที่การดีเบตเพียงอย่างเดียวไม่ได้ คงต้องดูที่ผลงาน และองค์ประกอบอื่น ที่สำคัญสำหรับประชาชนในเลือกตั้งอยากให้ดูที่นโยบาย และผลงานของแต่ละพรรคในอดีตมากกว่า
“การดีเบตส่วนใหญ่ใช้ในอเมริกา แต่บรรยากาศของเมืองไทยเราไม่ได้ให้ความสำคัญขนาดนั้น แต่ถ้าจัดดีเบตได้ก็ดี แต่คนที่พูดเก่ง ไหวพริบดีก็จะได้เปรียบ การดีเบตเป็นเพียงส่วนประกอบ ไม่ได้บ่งบอกว่าจะเป็นผู้นำได้ ยังต้องดูผลงานในอดีตและต้องดูไปถึงนโยบายของแต่ละพรรคด้วย” นายชุมพลกล่าว
ด้าน พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ไม่ทราบว่าอยู่อันดับปาร์ตี้ลิสต์ที่เท่าไหร่ อยู่ที่หัวหน้าพรรค ส่วนที่มีข่าวว่าตนอยู่อันดับที่สองนั้นก็ยังไม่ทราบ เมื่อถามว่าการที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ท้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ดีเบตจะทำให้สวนทางกับการปรองดองหรือไม่ พล.ต.สนั่นกล่าวว่า เมื่อตนทำถนนแห่งความปรองดอง แล้วก็อยากจะเชิญพรรคการเมืองมาเดินบนถนนร่วมกัน คนอื่นไม่รู้ว่าจะปรองดองหรือไม่ อย่างการดีเบตก็อยู่ที่คนจัดต้องมาพิจารณากัน
เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ส่งน้องสาวลงชิงตำแหน่งนายกฯ พล.ต.สนั่นกล่าวว่า เป็นความเห็นของแต่ละคน ตนไม่ขอวิจารณ์ เมื่อลงมาในสนามการเมืองแล้วก็ต้องสู้กันทางการเมือง เมื่อถามว่าหากพรรคเพื่อไทยชนะมากกว่า 200 เสียง พรรคประชาธิปัตย์ต้องจัดตั้งรัฐบาลแข่งได้หรือไม่ พล.ต.สนั่นกล่าวว่า ขอพูดตรงไปตรงมาว่ารัฐธรรมนูญปี 40 กับรัฐธรรมนูญปี 50 ต่างกัน ปี 40 สามารถตั้งรัฐบาลเลือกนายกฯได้ก่อน แต่ปี 50 นายกฯ ต้องมาเลือกกันในสภา เพราะฉะนั้นใครจะบอกว่าให้ใครจัดตั้งรัฐบาลก่อน หรือจัดหลังคงเป็นไปไม่ได้ อยู่ที่ว่าผู้แทนราษฎรจะสนับสนุนใครเป็นนายกฯมันต่างกัน เมื่อก่อนแพ้เพียงเสียงเดียวตั้งรัฐบาลไม่ได้ แต่เวลานี้ทำไม่ได้ ขึ้นอยู่กับเสียงในสภาว่าจะสนับสนุนใคร
เมื่อถามว่า หากพรรคเพื่อไทยได้คะแนนอันดับหนึ่งแต่ไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล อาจทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงไม่ยอม พล.ต.สนั่นกล่าวว่า เป็นเรื่องของกติกา หากเล่นนอกกติกาเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ตนจึงเป็นห่วงว่าความปรองดองจะเกิดขึ้นได้เมื่อไหร่ ถ้าเรามาจับมือสาบานกันว่าหลังเลือกตั้งแล้วปรองดองถ้าอย่างนี้ก็สำเร็จ ไม่อย่างนั้นตนต้องเดินทางอีกไกล ส่วนที่มองกันว่าพรรคขนาดกลางมีอำนาจต่อรองนั้น ตนคิดว่าขึ้นอยู่ประชาชนจะสนับสนุนแนวทางปรองดองหรือไม่ คนที่ยังไม่ตัดสินใจ 50 เปอร์เซ็นต์ ถ้าอยากให้ประเทศไทยมีความปรองดองก็เลือกพรรคชาติไทยพัฒนา