“ชุมพล” เผยชื่อปาร์ตี้ลิสต์ ชทพ.เสร็จแล้ว แต่รับแบบเขตยังไม่เรียบร้อย ไม่สนโพลไร้ชื่อ ชี้ “ยิ่งลักษณ์-อภิสิทธิ์” ดีเบตวัดอะไรไม่ได้ แต่รับผู้หญิงนำทัพสร้างสีสันการเมือง ปัดขอแข่ง 2 พรรคใหญ่ อ้างรักษาฐานเสียงให้ได้ก็พอ ชี้การต่อสู้อยู่ที่ความนิยมพรรค รับถ้าเอาเรื่องส่วนตัวมาโจมตีชาวบ้านคงเซ็ง
วันนี้ (16 พ.ค.) ที่พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) การประชุมคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส.ทั้งระบบบัญชีรายชื่อและระบบเขต โดยนายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า การเตรียมการเพื่อส่งผู้สมัคร ส.ส. ณ ตอนนี้เสร็จสิ้นในส่วนบัญชีรายชื่อแล้วพร้อมสมัครได้ในวันที่ 19 พ.ค.ทั้งนี้ เรามีความหลากหลายในตัวบุคคลจากหลายสาขาวิชาชีพเป็นจำนวนมาก โดยคณะกรรมการสรรหาและคัดเลือกเตรียมจะพิจารณาต่อไป ส่วนผู้สมัคร ส.ส.ระบบเขตเลือกตั้งยังไม่มีความเรียบร้อย มีเพียงในส่วน จ.ขอนแก่น จ.สกลนคร และ จ.นครราชสีมาเท่านั้นที่ได้ตัวบุคคลครบแล้วและจะส่งครบทุกเขต
“เมื่อระบบบัญชีรายชื่อมีการขยายจาก 100 เป็น 125 จึงเป็นโอกาสของทุกพรรคที่จะได้มีส.ส.ระบบดังกล่าว ซึ่งคาดว่าเราน่าจะได้ไม่น้อยกว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมา ส่วนสนาม กทม.พรรคคงไม่ส่งครบทุกเขตโดยคาดว่าจะส่งลงสมัครมากที่สุด 10 เขตขึ้นไปเท่านั้น แต่พรรคไม่ได้คาดหวังอะไรมากมายขอเพียงทำหน้าที่ให้ดีที่สุดจำนวน 25 คนก็พอ”
เมื่อถามว่า ทั้งนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ และพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ถูกจัดให้อยู่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อในลำดับที่เท่าไหร่และต้องอยู่ในลำดับปลอดภัยใช่หรือไม่ นายชุมพลกล่าวว่า ต้องรอให้คณะกรรมการพิจารณาและตัดสินออกมาอีกครั้งหนึ่ง แต่ถ้าจะให้ปลอดภัยต้องอยู่ในลำดับ 1-5
นายชุมพลกล่าวว่า สำหรับผลสำรวจความนิยมที่ออกมาในช่วงนี้เห็นว่าไม่สามารถวัดอะไรได้ และพรรคชาติไทยพัฒนาไม่สามารถไปเปรียบกับพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ได้ แต่เท่าที่ดูก็มีการเปลี่ยนแปลงไปมาตลอดเวลาบางครั้งประชาธิปัตย์นำบางครั้งพรรคเพื่อไทยนำ เป็นการสำรวจตามแต่ละช่วงเวลาและสถานการณ์ในขณะนั้น ถ้าจะให้นิ่งน่าจะเป็นผลสำรวจในช่วง 2-3 สัปดาห์ก่อนการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม คิดว่าการเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ลงมาดีเบตแข่งกันคิดว่าเป็นเพียงแค่ข่าวเพราะตามระบบการเมืองไทยไม่มีมาก่อนไม่เหมือนกับในสหรัฐอเมริกา
“บ้านเรายังไม่พัฒนาถึงขั้นของสหรัฐอเมริกา เพราะการดีเบตเป็นเพียงแค่การให้ข้อมูลประชาชน วัดอะไรมากไม่ได้ เพราะบางคนพูดเก่งก็ไม่แน่ว่าจะได้ พูดไม่เก่งอาจะได้ก็ได้ แต่การที่คุณยิ่งลักษณ์ในฐานะสุภาพสตรีลงมาสู่สนามเลือกตั้งทำให้สร้างสีสันและความแปลกใหม่ให้กับการเมืองไทยอย่างมาก แต่โอกาสจะได้แค่ไหนยังไม่รู้ แต่สำหรับพรรคชาติไทยพัฒนาแล้วไม่ขอแข่งขันกับสองพรรคการเมืองใหญ่โดยขอรักษาฐานเดิมให้ได้ก็พอใจแล้ว” นายชุมพลกล่าว
เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่การเมืองไทยมีการแข่งขันตำแหน่งนายกรัฐมนตรีระหว่างหญิงกับชายเป็นครั้งแรก นายชุมพลกล่าวว่า การแข่งขันไม่ได้อยู่ที่ตัวบุคคล แต่อยู่ที่คะแนนความนิยมของพรรคมากกว่า
เมื่อถามว่า คิดอย่างไรที่เมื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ลงสู่สนามการเมืองได้เริ่มมีขบวนการนำเรื่องส่วนตัวมาทำลายความน่าเชื่อถือ นายชุมพลกล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า “ถ้าเป็นอย่างนี้ประชาชนก็คงเซ็ง ขอให้ดูอย่างท่านบรรหาร ศิลปอาชา เคยโดนมาแล้วสมัยเป็นนายกรัฐมนตรี”