"ภูมิใจไทย" เปิดตัว แก๊งม็อบรถอีแต๋น “คำตา” ลงสมัครปาร์ตี้ลิสต์ “สะอิ้ง” ท้า “ยิ่งลักษณ์” หัวหน้าไพร่ดีเบตเรื่องคนจน เย้ย “ทักษิณ” ถึงทางตัน ส่ง “ยิ่งลักษณ์” ปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 เท่ากับเทหมดหน้าตัก ฟันธงสนามเลือกตั้งเดือดแน่
วันนี้ (16 พ.ค.) นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงเปิดเผยผู้สมัครในระบบปาร์ตี้ลิสต์ที่เสนอตัวเข้ามา โดยเป็นกลุ่มประชาชนที่ประกอบอาชีพ เกษตรกร ชาวไร่ ชาวนา และขับรถแท็กซี่ ซึ่งเป็นกลุ่มคนจนส่วนใหญ่ของประเทศ ทั้งนี้ เหตุผลที่เสนอตัวเข้ามาเพราะเห็นด้วยกับนโยบายของพรรค 3 เรื่อง คือ “เพิ่มทุน สร้างที่ มีทาง” โดยมีทั้งหมด 15 คน ประกอบด้วย นายคำตา แคนบุญจันทร์ นางศุภาธินันท์ ไถวสินธุ์ (ป้าสะอิ้ง) นายประเสริฐ ชินศรี ด.ต.กรณ์ วราธรรมกุล นายณัฐพล งามเฉลา นางสกุลลักษณ์ ศักดาพิทักษ์ พ.อ.ประยูร ผิงผ่อง นายธนัช นาคจันทึก นายสิทธัตถะ น้อยเจริญ นายอดุลย์ อาจชายแดน นายสมพงษ์ คงผลึก นายบุญสวย ชัยคถา นายคำก่าย กองพร นายชัยบูรณ์ศิริ โคตรมา นายไกรวัลย์ เกษมศิลป์ และทั้งหมดอาสาจะไปรณรงค์หาเสียง ปราศรัยทุกเขตเลือกตั้ง แม้กระทั่งดีเบตตามสถานีโทรทัศน์ในนามพรรค ตามความรู้ความสามารถของตัวเอง ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และถือว่าเป็นครั้งประวัติศาสตร์ในการเสนอชื่อคนรากหญ้าจริงๆเข้ามาทำงานการเมือง
นายศุภชัย กล่าวว่า แต่ละคนพร้อมอาสาร่วมรณรงค์หาเสียง ปราศรัยในจุดต่างๆ และหากมีการดีเบตในเวทีต่างๆ ตามสถานีโทรทัศน์ทุกคนก็พร้อมจะไปร่วมด้วย
ด้าน นายคำตา กล่าวว่า สาเหตุที่เข้าพรรค เพราะมั่นใจนโยบาย ซึ่งเป็นนโยบายพื้นปัญหารากหญ้า เช่น ราคาข้าว เกวียน 2 หมื่น ราคาพืชผลการเกษตร และตลอดการเคลื่อนไหวคือปัญหาเรื่องแหล่งน้ำ ที่ดินทำกิน มั่นใจครูใหญ่ที่เคยกำกับดูแล จึงมั่นใจนโยบายของพรรคสั้นๆ แต่แตะต้องได้จริง มีผลจริง สามารถดำเนินนโยบายได้จริง
ป้าสะอิ้ง กล่าวว่า ตนศรัทธาพรรค นโยบายโดนใจ ที่ผ่านมาต่อสู้เรื่องที่ทำกินมาโดยตลอด ทั้งนี้ตนพร้อมดีเบตกับนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 ของพรรคเพื่อไทย หากดีเบตเรื่องคนจน หรือปัญหาสังคมไทย
โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 ของพรรคเพื่อไทย ว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้นางสาวยิ่งลักษณ์ลงระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่หนึ่งแสดงให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เทหมดหน้าตัก เท่ากับเดิมพันไพ่ใบสุดท้าย ไม่มีไพ่ใบอื่น จึงเสนอชื่อน้องสาวที่ควรเก็บไว้ แต่ไม่เก็บ นั่นคือความรุนแรงที่เกิดขึ้นทุกมติ ความรุนแรงในเขตเลือกตั้งมันต้องมีแน่นอน
“อยากเรียกร้องผ่านสื่อให้ประชาชนเลือกพรรคขนาดกลาง ถ้า 2 พรรคได้คะแนนมาก ไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย เพราะมีอำนาจต่อรองมากขึ้น หากเพื่อไทยได้ 260 ก็จบ แต่ถ้าแพ้ 2-3 คะแนน การจัดตั้งรัฐบาลก็จะมีความขัดแย้งรุนแรง ความสมานฉันท์ก็ไม่เกิด ประชาชนต้องคิดเรื่องนี้ด้วย อย่าให้พรรคเสียงดังมาก” นายศุภชัย กล่าว