ASTVผู้จัดการรายวัน-คลังเตรียมลงนามออมสิน30 พ.ค.นี้ ปล่อยเงินกู้รฟม.ล็อตแรก 8,000 ล้านบาท โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน จากวงเงินรวม 5.17 หมื่นล้านบาท บอร์ดรฟม.เพิ่มอำนาจผู้ว่าฯรฟม.ปรับวงเงินจ้างที่ปรึกษาจาก 5 ล้านเป็น 50 ล้านบาท ด้านกก.สรรหาฯผู้ว่าฯ ชุดใหม่ประชุมนัดแรก 2 มิ.ย.เร่งสรุปในก.ค.
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคมในฐานะประธานคณะกรรมการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ดรฟม.วานนี้ (25 พ.ค.) รับทราบผลการพิจารณาเงินกู้ของกระทรวงการคลังสำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ โดยมีธนาคารออมสินเป็นแหล่งเงินกู้ วงเงินรวมประมาณ 5.17 หมื่นล้านบาท
โดยเงินกู้เงินล็อตแรก สำหรับการดำเนินโครงการในปี 2554 วงเงิน 8,000 ล้านบาท นั้นกระทรวงการคลังจะลงนามกับบธนาคารออมสินในวันที่ 30 พ.ค. 2554 นี้ และในวันเดียวกันทางสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.)จะลงนามกับรฟม.เพื่อจัดสรรเงินกู้ดังกล่าวให้ทันที พร้อมกันนี้ สบน.ได้ให้รฟม.เร่งจัดทำรายละเอียดการใช้จ่ายในโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินในแต่ละปีตั้งแต่ปี 2555-2558 เสนอ สบน.พิจารณาเพื่อจัดสรรเงินกู้ให้เหมาะสมต่อไป
สำหรับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วง บางซื่อ-ท่าพระ และ หัวลำโพง-บางแค ระยะทาง 27 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 51,745 ล้านบาท มีสัญญางานก่อสร้างงานโยธาทั้งหมด 5 สัญญา ซึ่งรฟม.ได้ลงนามกับผู้รับเหมาเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ที่ประชุมบอร์ดยังมีการพิจารณาระเบียบการจ้างที่ปรึกษา โดยเห็นชอบการปรับเพิ่มกรอบวงเงินว่าจ้างที่ปรึกษาที่อยู่ในอำนาจของผู้ว่าฯรฟม. จากเดิมไม่เกิน 5 ล้านบาท เป็นไม่เกิน 50 ล้านบาท ทั้งนี้เนื่องจากกรอบอำนาจเดิมวงเงินน้อยเกินไป ไม่คล่องตัว ทำให้การทำงานมีความล่าช้า ซึ่งบอร์ดให้ปรับปรุงแก้ไขระเบียบบางข้อที่ยังไม่ชัดเจนอีกเล็กน้อย
กก.สรรหาฯผู้ว่าฯ ชุดใหม่ประชุมนัดแรก 2 มิ.ย.
นายสุพจน์กล่าวถึงความคืบหน้าการสรรหาผู้ว่าฯรฟม.ว่า ขณะนี้ การแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาฯ ชุดใหม่ ที่มีนายถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ อธิบดีกรมเจ้าท่า เป็นประธานครบทั้ง 5 คนแล้ว ซึ่งคณะกรรมการสรรหาฯ จะประชุมนัดแรกในวันที่ 2 มิ.ย.นี้ ซึ่งการปรับปรุงทีโออาร์เงื่อนไขคุณสมบัติของผู้สมัครเข้ารับการสรรหาฯ ต่างๆ มีความชัดเจนแล้ว โดยเฉพาะเรื่องการศึกษา
ดังนั้นคาดว่าจะประกาศรับสมัครได้ประมาณกลางเดือนมิ.ย.และประกาศผลการสรรหาได้ในเดือนก.ค. จากนั้นในเดือนส.ค.จะเป็นการเจรจาเรื่องผลตอบแทนเพื่อเสนอกระทรวงการคลังได้ อย่างไรก็ตามจะต้องเสนอผลสรรหาฯ ขออนุมัติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ซึ่งคาดว่าจะเสนอไปประมาณเดือนก.ย.นี้
อย่างไรก็ตาม การสรรหาฯ ผู้ว่าฯรฟม.ควรจะเสร็จในวันที่ 15 ส.ค.เพื่อให้เป็นไปตามกรอบเวลา 1 ปี ที่ตำแหน่งผู้ว่าฯ รฟม.ว่างลงแต่ยอมรับว่าอาจจะล่าช้าไปบ้างแต่ไม่ถือว่ามีความบกพร่องแต่อย่างใดเนื่องจาก รฟม.ได้เริ่มกระบวนการสรรหาฯ ตั้งแต่ตำแหน่งว่าง แต่ที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องคุณสมบัติของผู้สมัครทำให้ยืดเยื้อ ไม่สามารถสรรหาได้ในกรอบเวลา 1 ปี
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคมในฐานะประธานคณะกรรมการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ดรฟม.วานนี้ (25 พ.ค.) รับทราบผลการพิจารณาเงินกู้ของกระทรวงการคลังสำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ โดยมีธนาคารออมสินเป็นแหล่งเงินกู้ วงเงินรวมประมาณ 5.17 หมื่นล้านบาท
โดยเงินกู้เงินล็อตแรก สำหรับการดำเนินโครงการในปี 2554 วงเงิน 8,000 ล้านบาท นั้นกระทรวงการคลังจะลงนามกับบธนาคารออมสินในวันที่ 30 พ.ค. 2554 นี้ และในวันเดียวกันทางสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.)จะลงนามกับรฟม.เพื่อจัดสรรเงินกู้ดังกล่าวให้ทันที พร้อมกันนี้ สบน.ได้ให้รฟม.เร่งจัดทำรายละเอียดการใช้จ่ายในโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินในแต่ละปีตั้งแต่ปี 2555-2558 เสนอ สบน.พิจารณาเพื่อจัดสรรเงินกู้ให้เหมาะสมต่อไป
สำหรับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วง บางซื่อ-ท่าพระ และ หัวลำโพง-บางแค ระยะทาง 27 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 51,745 ล้านบาท มีสัญญางานก่อสร้างงานโยธาทั้งหมด 5 สัญญา ซึ่งรฟม.ได้ลงนามกับผู้รับเหมาเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ที่ประชุมบอร์ดยังมีการพิจารณาระเบียบการจ้างที่ปรึกษา โดยเห็นชอบการปรับเพิ่มกรอบวงเงินว่าจ้างที่ปรึกษาที่อยู่ในอำนาจของผู้ว่าฯรฟม. จากเดิมไม่เกิน 5 ล้านบาท เป็นไม่เกิน 50 ล้านบาท ทั้งนี้เนื่องจากกรอบอำนาจเดิมวงเงินน้อยเกินไป ไม่คล่องตัว ทำให้การทำงานมีความล่าช้า ซึ่งบอร์ดให้ปรับปรุงแก้ไขระเบียบบางข้อที่ยังไม่ชัดเจนอีกเล็กน้อย
กก.สรรหาฯผู้ว่าฯ ชุดใหม่ประชุมนัดแรก 2 มิ.ย.
นายสุพจน์กล่าวถึงความคืบหน้าการสรรหาผู้ว่าฯรฟม.ว่า ขณะนี้ การแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาฯ ชุดใหม่ ที่มีนายถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ อธิบดีกรมเจ้าท่า เป็นประธานครบทั้ง 5 คนแล้ว ซึ่งคณะกรรมการสรรหาฯ จะประชุมนัดแรกในวันที่ 2 มิ.ย.นี้ ซึ่งการปรับปรุงทีโออาร์เงื่อนไขคุณสมบัติของผู้สมัครเข้ารับการสรรหาฯ ต่างๆ มีความชัดเจนแล้ว โดยเฉพาะเรื่องการศึกษา
ดังนั้นคาดว่าจะประกาศรับสมัครได้ประมาณกลางเดือนมิ.ย.และประกาศผลการสรรหาได้ในเดือนก.ค. จากนั้นในเดือนส.ค.จะเป็นการเจรจาเรื่องผลตอบแทนเพื่อเสนอกระทรวงการคลังได้ อย่างไรก็ตามจะต้องเสนอผลสรรหาฯ ขออนุมัติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ซึ่งคาดว่าจะเสนอไปประมาณเดือนก.ย.นี้
อย่างไรก็ตาม การสรรหาฯ ผู้ว่าฯรฟม.ควรจะเสร็จในวันที่ 15 ส.ค.เพื่อให้เป็นไปตามกรอบเวลา 1 ปี ที่ตำแหน่งผู้ว่าฯ รฟม.ว่างลงแต่ยอมรับว่าอาจจะล่าช้าไปบ้างแต่ไม่ถือว่ามีความบกพร่องแต่อย่างใดเนื่องจาก รฟม.ได้เริ่มกระบวนการสรรหาฯ ตั้งแต่ตำแหน่งว่าง แต่ที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องคุณสมบัติของผู้สมัครทำให้ยืดเยื้อ ไม่สามารถสรรหาได้ในกรอบเวลา 1 ปี
