ASTVผู้จัดการรายวัน – AREA เผยผลสำรวจที่อยู่อาศัยย่านหนองแขม พบ สถิติการขายช้าเฉลี่ย 4.65% ต่อเดือน ส่งผลสต๊อกเหลือขาย 1,752 หน่วย สินค้าส่วนใหญ่เป็นทาวเฮาส์ 1-3 ล้านบาท พร้อมแนะเปรียบเทียบบ้านมือสองทั้งที่ยังไม่มีคนอยู่และมีคนอยู่มาแล้ว เหตุราคาถูกกว่าบ้านใหม่ 60-80%
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด เปิดเผยว่า หนองแขมเป็นเขตหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ถือเป็นเขตสุดแดนด้านทิศตะวันตกติดกับจังหวัดนครปฐม ซึ่งจากการสำรวจในทำเลหนองแขม ซึ่งสำรวจทุกรอบ 6 เดือนมาตั้งแต่ พ.ศ. 2537 พบว่า ในปัจจุบัน มีหน่วยเหลือขายอยู่ประมาณ 1,752 หน่วย หากไม่มีโครงการใหม่เลย จะใช้เวลาขายอีกไม่เกิน 27 เดือน ซี่งแสดงให้เห็นว่า การขายค่อนข้างช้าในทำเลนี้ ผิดกับกรณีห้องชุดราคาแพงใจกลางเมืองของกรุงเทพมหานคร
ที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่เป็นทาวน์เฮาส์ โดยแยกเป็นทาวน์เฮาส์ ราคา 1-2 ล้านบาท และ 2-3 ล้านบาท จำนวนรวม 830 หน่วย รองลงมาเป็นบ้านเดี่ยว ที่มีมากถึง 563 หน่วย มากกว่าบ้านแฝด ที่มีเหลืออยู่ 269 หน่วย สินค้าอีกแบบหนึ่งในย่านนี้ก็คืออาคารพาณิชย์หรือตึกแถว ราคา 2-3 ล้าน จำนวน 58 หน่วย และราคา 3-5 ล้านบาท จำนวน 32 หน่วย
ทั้งนี้จะสังเกตได้ว่า สินค้าราคาแพง เช่น บ้านเดี่ยวราคา 5 ล้านบาทขึ่นไปขายได้ช้ามากในย่านนี้ แสดงว่ากำลังซื้อมีจำกัด ส่วนสินค้าที่ขายดีกลับเป็นอาคารพาณิชย์ โดยเฉพาะระดับราคา 3-5 ล้านบาท ทั้งนี้เพราะสามารถค้าขายได้ดีพอสมควร
ส่วนภาพรวมของการขายจะช้า โดยปีที่แล้วมีการเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 1,673 หน่วย ขายได้ 669 หน่วย หรือไม่ถึงครึ่ง และหากนับรวมหน่วยขายที่ขายได้ทั้งหมด ทั้งโครงการเก่าและใหม่ ในปี 2553 สามารถขายได้ 1,292 หน่วย ซึ่งก็ยังน้อยกว่าจำนวนที่เปิดตัว ทำให้อุปทานสะสมมากขึ้นกว่าแต่ก่อน
สำหรับอัตราการขายต่อเดือนเพียง 4.65% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่ค่อนข้างต่ำ โดยอาคารพาณิชย์หรือตึกแถวราคา 5-10 ล้านบาท ซึ่งขายหมดแล้ว ขายได้เร็วมากถึง 20% ต่อเดือน แสดงว่าเป็นสินค้าที่ตั้งอยู่ในทำเลดี ทำการค้าขายได้ดี จึงขายได้หมดเร็วจริง ต่างจากบ้านเดี่ยวราคา 5-10 ล้านบาท ซึ่งขายได้ในอัตรา 2.45% ต่อเดือน เพราะเป็นสินค้าที่ไม่ตรงความต้องการของตลาดมากนัก
สำหรับการซื้อบ้านในทำเลนี้ ดร.โสภณ แนะนำว่า ควรเปรียบเทียบกับบ้านมือสองด้วย เพราะมีบ้านมือสองอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งบ้านมือสองที่ยังไม่มีผู้เข้าอยู่อาศัยเลย และบ้านมือสองที่มีผู้อยู่อาศัยแล้ว สามารถนำมาปรับปรุงใหม่ เพราะบ้านเหล่านี้ ราคาไม่สูงนัก ราคาเพียง 60-80% ของราคาบ้านใหม่
“โดยสรุปแล้วทำเลหนองแขมเป็นทำเลอยู่อาศัยสำหรับคนทำงานในย่านนี้หรือคนทำงานในใจกลางกรุงเทพมหานครแต่ซื้อบ้านราคาย่อมเยาในพื้นที่นี้ น่าเสียดายที่ในทำเลนี้มีเพียงโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินจากเดอะมอลล์ท่าพระไปพุทธมณฑลสายสี่ แต่เป็นแนวคิดระยะยาวที่วางแผนไว้ถึงปี 2575 ซึ่งในความเป็นจริงย่านนี้ควรทำถนนชั้นที่สองเช่นเดียวกับกรณีถนนรามคำแหง เพราะมีประชากรอยู่กันอย่างหนาแน่นกว่าด้วยซ้ำไป แต่ฝั่งธนบุรีมักไม่ได้รับการพัฒนาเท่าที่ควร” ดร.โสภณกล่าว
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด เปิดเผยว่า หนองแขมเป็นเขตหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ถือเป็นเขตสุดแดนด้านทิศตะวันตกติดกับจังหวัดนครปฐม ซึ่งจากการสำรวจในทำเลหนองแขม ซึ่งสำรวจทุกรอบ 6 เดือนมาตั้งแต่ พ.ศ. 2537 พบว่า ในปัจจุบัน มีหน่วยเหลือขายอยู่ประมาณ 1,752 หน่วย หากไม่มีโครงการใหม่เลย จะใช้เวลาขายอีกไม่เกิน 27 เดือน ซี่งแสดงให้เห็นว่า การขายค่อนข้างช้าในทำเลนี้ ผิดกับกรณีห้องชุดราคาแพงใจกลางเมืองของกรุงเทพมหานคร
ที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่เป็นทาวน์เฮาส์ โดยแยกเป็นทาวน์เฮาส์ ราคา 1-2 ล้านบาท และ 2-3 ล้านบาท จำนวนรวม 830 หน่วย รองลงมาเป็นบ้านเดี่ยว ที่มีมากถึง 563 หน่วย มากกว่าบ้านแฝด ที่มีเหลืออยู่ 269 หน่วย สินค้าอีกแบบหนึ่งในย่านนี้ก็คืออาคารพาณิชย์หรือตึกแถว ราคา 2-3 ล้าน จำนวน 58 หน่วย และราคา 3-5 ล้านบาท จำนวน 32 หน่วย
ทั้งนี้จะสังเกตได้ว่า สินค้าราคาแพง เช่น บ้านเดี่ยวราคา 5 ล้านบาทขึ่นไปขายได้ช้ามากในย่านนี้ แสดงว่ากำลังซื้อมีจำกัด ส่วนสินค้าที่ขายดีกลับเป็นอาคารพาณิชย์ โดยเฉพาะระดับราคา 3-5 ล้านบาท ทั้งนี้เพราะสามารถค้าขายได้ดีพอสมควร
ส่วนภาพรวมของการขายจะช้า โดยปีที่แล้วมีการเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 1,673 หน่วย ขายได้ 669 หน่วย หรือไม่ถึงครึ่ง และหากนับรวมหน่วยขายที่ขายได้ทั้งหมด ทั้งโครงการเก่าและใหม่ ในปี 2553 สามารถขายได้ 1,292 หน่วย ซึ่งก็ยังน้อยกว่าจำนวนที่เปิดตัว ทำให้อุปทานสะสมมากขึ้นกว่าแต่ก่อน
สำหรับอัตราการขายต่อเดือนเพียง 4.65% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่ค่อนข้างต่ำ โดยอาคารพาณิชย์หรือตึกแถวราคา 5-10 ล้านบาท ซึ่งขายหมดแล้ว ขายได้เร็วมากถึง 20% ต่อเดือน แสดงว่าเป็นสินค้าที่ตั้งอยู่ในทำเลดี ทำการค้าขายได้ดี จึงขายได้หมดเร็วจริง ต่างจากบ้านเดี่ยวราคา 5-10 ล้านบาท ซึ่งขายได้ในอัตรา 2.45% ต่อเดือน เพราะเป็นสินค้าที่ไม่ตรงความต้องการของตลาดมากนัก
สำหรับการซื้อบ้านในทำเลนี้ ดร.โสภณ แนะนำว่า ควรเปรียบเทียบกับบ้านมือสองด้วย เพราะมีบ้านมือสองอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งบ้านมือสองที่ยังไม่มีผู้เข้าอยู่อาศัยเลย และบ้านมือสองที่มีผู้อยู่อาศัยแล้ว สามารถนำมาปรับปรุงใหม่ เพราะบ้านเหล่านี้ ราคาไม่สูงนัก ราคาเพียง 60-80% ของราคาบ้านใหม่
“โดยสรุปแล้วทำเลหนองแขมเป็นทำเลอยู่อาศัยสำหรับคนทำงานในย่านนี้หรือคนทำงานในใจกลางกรุงเทพมหานครแต่ซื้อบ้านราคาย่อมเยาในพื้นที่นี้ น่าเสียดายที่ในทำเลนี้มีเพียงโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินจากเดอะมอลล์ท่าพระไปพุทธมณฑลสายสี่ แต่เป็นแนวคิดระยะยาวที่วางแผนไว้ถึงปี 2575 ซึ่งในความเป็นจริงย่านนี้ควรทำถนนชั้นที่สองเช่นเดียวกับกรณีถนนรามคำแหง เพราะมีประชากรอยู่กันอย่างหนาแน่นกว่าด้วยซ้ำไป แต่ฝั่งธนบุรีมักไม่ได้รับการพัฒนาเท่าที่ควร” ดร.โสภณกล่าว