ASTVผู้จัดการรายวัน-“คมนาคม”จี้รฟม.แก้ปัญหาก่อสร้างรถไฟฟ้าสีม่วง เผยล่าสุดยังช้ากว่าแผน1% “สุพจน์”ห่วงจุดเชื่อมต่อกับสายสีน้ำเงินที่สถานีเตาปูน เร่งออกแบบวิธีก่อสร้างให้จบในเม.ย.นี้ เชื่อภาพรวมเสร็จเร็วกว่ากำหนด 3% ตามเป้า และเปิดเดินรถได้ วันที่ 5 ธ.ค.57 ส่วนเวนคืนเคลียร์ 100% พ.ค.นี้แน่นอน มั่นใจชิงสัมปทานเดินรถ BMCL ไม่ได้เปรียบ BTS
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคมในฐานะประธานคณะกรรมการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยภายถึงความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ระยะทาง 23 กิโลเมตร ว่า จากการติดตามการก่อสร้างพบว่า รฟม. บริษัทที่ปรึกษาและผู้รับเหมา ได้ร่วมกันปรับแบบเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ในการก่อสร้าง
โดยล่าสุดภาพรวมการก่อสร้างยังล่าช้ากว่าแผนประมาณ 1% โดยสัญญาที่ 1 ล่าช้าประมาณ 1.9% สัญญาที่ 2 เร็วกว่าแผน 1.7% ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้การก่อสร้างจะรวดเร็วขึ้น และจะแล้วเสร็จเร็วกว่าแผน 3% ตามนโยบายแน่นอน เพื่อเปิดให้บริการเดินรถในวันที่ 5 ธ.ค.2557 จากแผนที่กำหนดเปิดเดินรถต้นปี 2558
ทั้งนี้ ยังมีความน่าเป็นห่วง จุดก่อสร้างบริเวณสถานีเตาปูน เนื่องจากเป็นส่วนต่อเชื่อมกับสถานีบางซื่อของโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย (บางซื่อ-ท่าพระและหัวลำโพง-บางแค) เพราะเป็นการเชื่อมต่อระหว่างโครงสร้างอุโมงค์ และทางยกระดับ ซึ่งได้เร่งให้ผู้รับเหมาออกแบบรายละเอียดและกำหนดวิธีการก่อสร้างเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนเม.ย.นี้
“หลังจากแก้ปัญหาผู้ได้รับผลกระทบจากการเวนคืนแล้ว คาดว่าการเวนคืนจะเสร็จทั้งหมด100% ภายในสิ้นเดือนพ.ค.นี้ โดยบริเวณด้านหลังโลตัสเตาปูน จะเข้าพื้นที่ได้ในวันที่ 10 เม.ย.2554 และจุดสุดท้ายบริเวณสะพานพระนั่งเกล้าจะเข้าพื้นที่ในวันที่ 28 พ.ค.2554 และเชื่อว่าศักยภาพของผู้รับเหมาทั้ง 2 สัญญาจะทำให้การก่อสร้างเสร็จตามที่กำหนดไว้ ซึ่งเชื่อว่าผู้รับเหมาคงเร่งดำเนินการเต็มที่เพราะหากล่าช้ากว่าสัญญาจะถูกปรับถึงวันละ 14 ล้านบาทหรือประมาณ 0.1% ของมูลค่าแต่ละสัญญา”นายสุพจน์กล่าว
รถไฟฟ้าสายสีม่วง สัญญาที่ 1 เป็นโครงสร้างยกระดับส่วนตะวันออก ระยะทาง 12 กิโลเมตร กลุ่ม CKTC Joint Venture (บริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน) และ บริษัท โตคิว คอนสตรัคชั่น จำกด) เป็นผู้รับเหมาะ วงเงิน 14,292 ล้านบาท สัญญาที่ 2 เป็น โครงสร้างยกระดับส่วนตะวันตก ระยะทางประมาณ 11 กิโลเมตร บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่งแอนด์คอนสตรัชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับเหมา วงเงิน 13,100 ล้านบาท ส่วนสัญญา 3 ศูนย์ซ่อมบำรุงและอาคารจอดรถ มีกลุ่ม PAR Joint Venture (บริษัท แอสคอน คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน),บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) และ บริษัทรวมนครก่อสร้าง (ประเทศไทย) จำกัด) เป็นผู้รับเหมา วงเงิน 5,025 ล้านบาท
ส่วนการเปิดคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐสัมปทานการลงทุน การจัดหาระบบรถไฟฟ้า การให้บริการการเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุงรักษา โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงนั้น นายสุพจน์กล่าวว่า แม้จะมี 2 บริษัทยื่นข้อเสนอ คือรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BMCL และบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC แต่ถือว่าไม่น้อยเกินไป เพราะเป็น 2 บริษัทที่มีประสบการณ์ในการเดินรถไฟฟ้าในประเทศไทย และแม้ BMCL จะเป็นผู้เดินรถไฟใต้ดินสายเฉลิมมหานครอยู่แต่ก็เชื่อว่าไม่น่าจะได้เปรียบแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการเดินรถ จากสถานีบางซื่อ-เตาปูน ซึ่งเป็นสถานีร่วมสายสีม่วงและสีน้ำเงิน ระยะทาง 1 กิโลเมตรนั้น หลักการคือให้ BMCL เป็นผู้เดินรถต่อจากส่วนใต้ดินอีก 1 สถานี แต่อยู่ระหว่างการพิจารณาและเจรจาวิธีการจ้างที่เหมาะสมที่สุด
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคมในฐานะประธานคณะกรรมการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยภายถึงความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ระยะทาง 23 กิโลเมตร ว่า จากการติดตามการก่อสร้างพบว่า รฟม. บริษัทที่ปรึกษาและผู้รับเหมา ได้ร่วมกันปรับแบบเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ในการก่อสร้าง
โดยล่าสุดภาพรวมการก่อสร้างยังล่าช้ากว่าแผนประมาณ 1% โดยสัญญาที่ 1 ล่าช้าประมาณ 1.9% สัญญาที่ 2 เร็วกว่าแผน 1.7% ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้การก่อสร้างจะรวดเร็วขึ้น และจะแล้วเสร็จเร็วกว่าแผน 3% ตามนโยบายแน่นอน เพื่อเปิดให้บริการเดินรถในวันที่ 5 ธ.ค.2557 จากแผนที่กำหนดเปิดเดินรถต้นปี 2558
ทั้งนี้ ยังมีความน่าเป็นห่วง จุดก่อสร้างบริเวณสถานีเตาปูน เนื่องจากเป็นส่วนต่อเชื่อมกับสถานีบางซื่อของโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย (บางซื่อ-ท่าพระและหัวลำโพง-บางแค) เพราะเป็นการเชื่อมต่อระหว่างโครงสร้างอุโมงค์ และทางยกระดับ ซึ่งได้เร่งให้ผู้รับเหมาออกแบบรายละเอียดและกำหนดวิธีการก่อสร้างเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนเม.ย.นี้
“หลังจากแก้ปัญหาผู้ได้รับผลกระทบจากการเวนคืนแล้ว คาดว่าการเวนคืนจะเสร็จทั้งหมด100% ภายในสิ้นเดือนพ.ค.นี้ โดยบริเวณด้านหลังโลตัสเตาปูน จะเข้าพื้นที่ได้ในวันที่ 10 เม.ย.2554 และจุดสุดท้ายบริเวณสะพานพระนั่งเกล้าจะเข้าพื้นที่ในวันที่ 28 พ.ค.2554 และเชื่อว่าศักยภาพของผู้รับเหมาทั้ง 2 สัญญาจะทำให้การก่อสร้างเสร็จตามที่กำหนดไว้ ซึ่งเชื่อว่าผู้รับเหมาคงเร่งดำเนินการเต็มที่เพราะหากล่าช้ากว่าสัญญาจะถูกปรับถึงวันละ 14 ล้านบาทหรือประมาณ 0.1% ของมูลค่าแต่ละสัญญา”นายสุพจน์กล่าว
รถไฟฟ้าสายสีม่วง สัญญาที่ 1 เป็นโครงสร้างยกระดับส่วนตะวันออก ระยะทาง 12 กิโลเมตร กลุ่ม CKTC Joint Venture (บริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน) และ บริษัท โตคิว คอนสตรัคชั่น จำกด) เป็นผู้รับเหมาะ วงเงิน 14,292 ล้านบาท สัญญาที่ 2 เป็น โครงสร้างยกระดับส่วนตะวันตก ระยะทางประมาณ 11 กิโลเมตร บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่งแอนด์คอนสตรัชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับเหมา วงเงิน 13,100 ล้านบาท ส่วนสัญญา 3 ศูนย์ซ่อมบำรุงและอาคารจอดรถ มีกลุ่ม PAR Joint Venture (บริษัท แอสคอน คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน),บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) และ บริษัทรวมนครก่อสร้าง (ประเทศไทย) จำกัด) เป็นผู้รับเหมา วงเงิน 5,025 ล้านบาท
ส่วนการเปิดคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐสัมปทานการลงทุน การจัดหาระบบรถไฟฟ้า การให้บริการการเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุงรักษา โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงนั้น นายสุพจน์กล่าวว่า แม้จะมี 2 บริษัทยื่นข้อเสนอ คือรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BMCL และบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC แต่ถือว่าไม่น้อยเกินไป เพราะเป็น 2 บริษัทที่มีประสบการณ์ในการเดินรถไฟฟ้าในประเทศไทย และแม้ BMCL จะเป็นผู้เดินรถไฟใต้ดินสายเฉลิมมหานครอยู่แต่ก็เชื่อว่าไม่น่าจะได้เปรียบแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการเดินรถ จากสถานีบางซื่อ-เตาปูน ซึ่งเป็นสถานีร่วมสายสีม่วงและสีน้ำเงิน ระยะทาง 1 กิโลเมตรนั้น หลักการคือให้ BMCL เป็นผู้เดินรถต่อจากส่วนใต้ดินอีก 1 สถานี แต่อยู่ระหว่างการพิจารณาและเจรจาวิธีการจ้างที่เหมาะสมที่สุด