นายนิตินัย ศิริสมรรถการ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจและการตลาด บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการทอท.ที่มีนายธีรพล นพรัมภา เป็นประธาน วันที่ 26 พ.ค.นี้ จะมีการพิจารณาโครงการส่งเสริมผู้โดยสารการบินและสายการบินสำหรับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยจะเปิดให้สายการบินเที่ยวบินประจำ (Scheduled Flight) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เข้ามาลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับทอท.เพิ่มเติม ตั้งแต่เดือนพ.ย.2554 เป็นต้นไป เพื่อเข้าโปรแกรมการคำนวณให้ส่วนลดในรูปแบบของส่วนลดค่าธรรมเนียมในการขึ้นลงของอากาศยาน (Landing Fee) ตามจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น เป็นระยะเวลา 2 ปี โดยเพิ่มเงื่อนไขหากสายการบินใดมีอัตราการเติบโตของจำนวนผู้โดยสารเกินกว่าเป้าที่ทอท.กำหนดจะได้รับโบนัสเพิ่ม
ก่อนหน้านี้ มีสายการบินแบบประจำทำ MOU เข้าร่วมโครงการแล้วจำนวน 41 สาย ซึ่งในปี 2553 มีสายการบินประมาณ 50% จากที่ทำ MOU ไว้ มีจำนวนผู้โดยสารเติบโตเพิ่มขึ้นตามเกณฑ์ และได้รับส่วนลด Landing Fee
สำหรับในปี 2553 มีสายการบินแบบประจำทำ MOU เข้าร่วมโครงการจำนวน 41 สาย แต่มี 22 สายการบินที่มีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นตามเกณฑ์ คิดเป็นส่วนลดค่า Landing Fees รวม 92 ล้านบาท ในขณะที่ ทอท.มีรายได้เพิ่มขึ้นรวม 630 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากค่าธรรมเนียมการใช้สนามบิน (PSC) ประมาณ 520 ล้านบาท และรายได้จากส่วนแบ่งเชิงพาณิชย์อีกประมาณ 110 ล้านบาท โดยพบว่า ผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นจากโครงการมีประมาณ 1.5 ล้านคน
ว่าที่ ร.ท.อนิรุทธิ์ ถนอมกุลบุตร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้แก้ปัญหาต่างๆ ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่เคยมีการร้องเรียนจากผู้โดยสารเข้ามาจำนวนมาก โดยเฉพาะเรื่องไกด์ผี แท็กซี่เถื่อน จนถึงขณะนี้ไม่มีการร้องเรียนแล้ว สำหรับจำนวนผู้โดยสารในเดือนพ.ค.นี้ ประมาณ 1 แสนคนต่อวัน มีเที่ยวบินขึ้นลงประมาณ 700-800 เที่ยวต่อวัน
เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 4% แต่ลดลงจากเดือนเม.ย. เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาล
นางสาววิไลวรรณ นัดวิไล รองผู้อำนวยการ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำระบบความเย็นภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิว่า คณะคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้เห็นชอบงบลงทุนประมาณ 700 ล้านบาทแล้ว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำร่างทีโออาร์ ซึ่งคาดว่า จะสามารถหาบริษัทเอกชนเข้ามาดำเนินการได้ภายในปีนี้
ก่อนหน้านี้ มีสายการบินแบบประจำทำ MOU เข้าร่วมโครงการแล้วจำนวน 41 สาย ซึ่งในปี 2553 มีสายการบินประมาณ 50% จากที่ทำ MOU ไว้ มีจำนวนผู้โดยสารเติบโตเพิ่มขึ้นตามเกณฑ์ และได้รับส่วนลด Landing Fee
สำหรับในปี 2553 มีสายการบินแบบประจำทำ MOU เข้าร่วมโครงการจำนวน 41 สาย แต่มี 22 สายการบินที่มีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นตามเกณฑ์ คิดเป็นส่วนลดค่า Landing Fees รวม 92 ล้านบาท ในขณะที่ ทอท.มีรายได้เพิ่มขึ้นรวม 630 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากค่าธรรมเนียมการใช้สนามบิน (PSC) ประมาณ 520 ล้านบาท และรายได้จากส่วนแบ่งเชิงพาณิชย์อีกประมาณ 110 ล้านบาท โดยพบว่า ผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นจากโครงการมีประมาณ 1.5 ล้านคน
ว่าที่ ร.ท.อนิรุทธิ์ ถนอมกุลบุตร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้แก้ปัญหาต่างๆ ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่เคยมีการร้องเรียนจากผู้โดยสารเข้ามาจำนวนมาก โดยเฉพาะเรื่องไกด์ผี แท็กซี่เถื่อน จนถึงขณะนี้ไม่มีการร้องเรียนแล้ว สำหรับจำนวนผู้โดยสารในเดือนพ.ค.นี้ ประมาณ 1 แสนคนต่อวัน มีเที่ยวบินขึ้นลงประมาณ 700-800 เที่ยวต่อวัน
เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 4% แต่ลดลงจากเดือนเม.ย. เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาล
นางสาววิไลวรรณ นัดวิไล รองผู้อำนวยการ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำระบบความเย็นภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิว่า คณะคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้เห็นชอบงบลงทุนประมาณ 700 ล้านบาทแล้ว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำร่างทีโออาร์ ซึ่งคาดว่า จะสามารถหาบริษัทเอกชนเข้ามาดำเนินการได้ภายในปีนี้
