พรรคการเมืองโดยทั่วไป จัดลำดับความอาวุโสลดหลั่นกันไป แตกต่างหลากหลายในความรู้ความสามารถ แต่ปรากฏว่าเมื่อทักษิณเลือกน้องสาวของตนเองขึ้นเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทยก็มีมติเป็นเอกฉันท์เลือก นางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (มีสามีและมีบุตรชาย 9-10 ขวบ) เป็นผู้สมัครปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1) เพียงเท่านี้ก็มองเห็นได้ทันทีว่า คนในพรรคเพื่อไทยล้วนดุจดังหุ่นยนต์ดีๆ นี่เอง เมื่อคุณทักษิณ ชินวัตร (คนสองสัญชาติ) สั่งอย่างไร ก็เป็นไปตามนั้น คนในพรรคนี้ หรือคนในแก๊งนี้หาคนที่บ่งบอกถึงความเป็นมนุษย์ไม่ได้เลย (คุณสนธิ ลิ้มทองกุล พูดว่า “นักการเมืองสัตว์นรก”) เห็นจะเป็นจริง เพราะหากเป็นมนุษย์ 1) จะต้องมีศักดิ์ศรี
2) มีความรู้ความสามารถ รักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสิ่งสูงสุด โดยเฉพาะการเป็นผู้นำพรรคและการเป็นผู้สมัคร (Candidate) ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่นี่ไม่มีเลยนับแต่ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ, ร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง, นายเสนาะ เทียนทอง, พลตำรวจเอกประชา พรหมนอก, นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ, นายปลอดประสพ สุรัสวดี, นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช, ฯลฯ แต่กลับกลายเป็นว่าบุคคลเหล่านี้หาความเป็นมนุษย์ไม่ได้เลย เป็นเพียงทาสของทักษิณ คนสองสัญชาติเท่านั้นเอง ใช่หรือไม่
ยิ่งมองเห็นชัดว่า ชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจริงๆ แล้ว พรรคนี้เป็นพรรคของคุณทักษิณเอาไว้แสวงอำนาจและโยชน์ของแผ่นดินมาเป็นของตนเท่านั้น ภาพที่เห็นชัดก็คือ นางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็คือร่างทรงหรือหุ่นเชิดของคุณทักษิณ ทักษิณยังคงกุมบังเหียนให้ซ้ายหัน ขวาหัน ทำโน่นทำนี่ ซึ่งล้วนแล้วเป็นประโยชน์ของทักษิณทั้งนั้น ดูได้จากการประกาศของนางยิ่งลักษณ์ ทายาททางการเมืองอุบาทว์ของทักษิณ ว่า ต้องการ “นิรโทษกรรม” ลบล้างความผิดให้คุณทักษิณ โดยไม่ต้องติดคุกและได้เงินคืน 4.6 หมื่นล้านรวมทั้งดอกเบี้ยคืนจากรัฐ
ภาพที่ออกมาในความคิดของคุณทักษิณและคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย คือ เมื่อได้เป็นรัฐบาล สิ่งแรกที่ต้องทำคือ ออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้คุณทักษิณ โดยใช้เสียงข้างมากในสภา กลายเป็นพวกมากลากไปพาไปพินาศ พวกเขามองไม่เห็นว่าเป็นการกดดัน สร้างความระคายเคืองต่อเบื้องพระยุคลบาทองค์พระประมุขแห่งรัฐ ต่อจากนั้นทักษิณ ก็ได้เดินทางกลับ ก้มลงจูบแผ่นดิน พวกเสื้อแดงออกมาต้อนรับกันอย่างล้นหลาม แล้วทักษิณก็พูดประโยคแรกว่า “ผมบริสุทธิ์ทุกอย่าง” เพียงเท่านี้ การต่อสู้ของพวกเราพันธมิตรฯ ก็สูญเปล่าทันที แต่เชื่อเถอะคนเป็นมนุษย์ปกติธรรมดาไม่มีใครยอมให้พรรคเพื่อไทย นางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำเช่นนั้นได้
ยิ่งมองเห็นชัดว่า การสืบทอดอำนาจของพรรคเพื่อไทย ไม่ต่างไปจากพรรคคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือระหว่าง คิม-จองอิล (kim Jong Il) สู่ คิม จองอึน (kim Jong Un)
มองเห็นได้ชัดว่า เงินเป็นใหญ่เสมอสามารถฟาดหัวเหล่าแกนนำพรรคเพื่อไทย ถามจริงๆ เถอะ หากว่าเงินมหาศาลไม่ใช่ปัจจัยหลักแล้วนางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะได้ขึ้นเป็นใหญ่ในพรรคหรือไม่ ทุกคนไม่ต้องจ่ายหรือจ่ายน้อยหรืออยากจะจ่ายเพื่อประจบทักษิณ หวังจะให้ทักษิณโยนเศษเนื้อก้อนโตให้ ได้ตำแหน่งรัฐมนตรี
มองได้เห็นชัดว่า พรรคเพื่อไทยจึงไม่ใช่พรรคการเมืองตามปกติ ซึ่งเป็นที่รวบรวมคนที่มีอุดมการณ์เพื่อทำงานการเมืองรักษาผลประโยชน์ของชาติและประชาชน แต่กลายเป็นพรรคของตระกูล ทำการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของตระกูล แบ่งเศษกระดูกให้เหล่าผู้ลดเกียรติศักดิ์ของตนเองเพื่อประโยชน์เพียงเล็กน้อยและเป็นเครื่องมือให้ตระกูลชินวัตร
สำหรับบุคคลปกติแล้วต่างก็มองเห็นชัดว่า คุณทักษิณ คุณยิ่งลักษณ์ เสื้อแดง และพรรคเพื่อ(ใคร)ไทย กำลังดูหมิ่นเหยียดหยามคนไทย เขามองว่าคนไทยโง่เง่าหรือเห็นอยู่ รู้อยู่ แต่เพราะต้องการประโยชน์เฉพาะหน้า เห็นแก่เงินเพียงเล็กๆ น้อยๆ อันเป็นแรงจูงใจ 500-3,000 บาท และพวกเขาจะย้อนกลับมาทำร้ายบ้านเมืองและประชาชนต่อไป ซึ่งก็พิสูจน์มาแล้ว
หันมามอง พรรคประชาธิปัตย์ คู่แข่งอีกขั้วหนึ่ง ขั้วนี้ก็โง่เขลาเบาปัญญา ดีแต่พูด ทำงานไม่เป็น ได้อำนาจมาแล้วแทนที่จะใช้อำนาจนั้นเพื่อแก้เหตุวิกฤตชาติ และแก้ปัญหาต่างๆ เฉพาะหน้าให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ไม่มีความรู้ความสามารถดุจดังกบอยู่ในกะลา ไม่รู้จักใช้คนที่มีความรู้ความสามารถจริงๆ มาช่วยกันทำงาน แต่เราผู้เขียนก็รู้และเข้าใจว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทำไม่ได้ เพราะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และพรรคการเมืองทุกพรรค ล้วนเป็นพวกลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญนั่นเอง บริหารประเทศล้มเหลวในแทบทุกด้าน นักการเมืองคอร์รัปชันกันอย่างสนุกสนาน ข้าวของราคาแพงประชาชนเดือดร้อน คนได้ประโยชน์คือนายทุนพรรคเพียงหยิบมือเดียว สมจริงดังที่ว่า “อัปรีย์ไป จัญไรมา” แนวโน้มอัปรีย์ จะมาใหม่ หรือจัญไรจะมาซ้ำสอง ก็น่าจะมองอนาคตอันใกล้นี้ออกกันทั่วหน้า
สรุป การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการแย่งชิงอำนาจ เพื่อแย่งชิงทรัพย์สมบัติของชาติไปเป็นของพวกพรรคการเมืองภายใต้ระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญ นั่นเอง ทั้งสองพรรคจึงมีความเลวทรามต่อชาติและประชาชนพอๆ กัน จึงจำเป็นต้องสั่งสอนพรรคเผด็จการเหล่านี้ ด้วยการโหวตโน (Vote No) สร้างหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 หรือจะยอมตกเป็นเครื่องมือเป็นพาหนะ ให้พวกนักการเมืองเผด็จการฯ เข้าไปปล้นชาติ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างนั้นหรือ
2) มีความรู้ความสามารถ รักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสิ่งสูงสุด โดยเฉพาะการเป็นผู้นำพรรคและการเป็นผู้สมัคร (Candidate) ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่นี่ไม่มีเลยนับแต่ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ, ร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง, นายเสนาะ เทียนทอง, พลตำรวจเอกประชา พรหมนอก, นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ, นายปลอดประสพ สุรัสวดี, นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช, ฯลฯ แต่กลับกลายเป็นว่าบุคคลเหล่านี้หาความเป็นมนุษย์ไม่ได้เลย เป็นเพียงทาสของทักษิณ คนสองสัญชาติเท่านั้นเอง ใช่หรือไม่
ยิ่งมองเห็นชัดว่า ชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจริงๆ แล้ว พรรคนี้เป็นพรรคของคุณทักษิณเอาไว้แสวงอำนาจและโยชน์ของแผ่นดินมาเป็นของตนเท่านั้น ภาพที่เห็นชัดก็คือ นางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็คือร่างทรงหรือหุ่นเชิดของคุณทักษิณ ทักษิณยังคงกุมบังเหียนให้ซ้ายหัน ขวาหัน ทำโน่นทำนี่ ซึ่งล้วนแล้วเป็นประโยชน์ของทักษิณทั้งนั้น ดูได้จากการประกาศของนางยิ่งลักษณ์ ทายาททางการเมืองอุบาทว์ของทักษิณ ว่า ต้องการ “นิรโทษกรรม” ลบล้างความผิดให้คุณทักษิณ โดยไม่ต้องติดคุกและได้เงินคืน 4.6 หมื่นล้านรวมทั้งดอกเบี้ยคืนจากรัฐ
ภาพที่ออกมาในความคิดของคุณทักษิณและคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย คือ เมื่อได้เป็นรัฐบาล สิ่งแรกที่ต้องทำคือ ออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้คุณทักษิณ โดยใช้เสียงข้างมากในสภา กลายเป็นพวกมากลากไปพาไปพินาศ พวกเขามองไม่เห็นว่าเป็นการกดดัน สร้างความระคายเคืองต่อเบื้องพระยุคลบาทองค์พระประมุขแห่งรัฐ ต่อจากนั้นทักษิณ ก็ได้เดินทางกลับ ก้มลงจูบแผ่นดิน พวกเสื้อแดงออกมาต้อนรับกันอย่างล้นหลาม แล้วทักษิณก็พูดประโยคแรกว่า “ผมบริสุทธิ์ทุกอย่าง” เพียงเท่านี้ การต่อสู้ของพวกเราพันธมิตรฯ ก็สูญเปล่าทันที แต่เชื่อเถอะคนเป็นมนุษย์ปกติธรรมดาไม่มีใครยอมให้พรรคเพื่อไทย นางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำเช่นนั้นได้
ยิ่งมองเห็นชัดว่า การสืบทอดอำนาจของพรรคเพื่อไทย ไม่ต่างไปจากพรรคคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือระหว่าง คิม-จองอิล (kim Jong Il) สู่ คิม จองอึน (kim Jong Un)
มองเห็นได้ชัดว่า เงินเป็นใหญ่เสมอสามารถฟาดหัวเหล่าแกนนำพรรคเพื่อไทย ถามจริงๆ เถอะ หากว่าเงินมหาศาลไม่ใช่ปัจจัยหลักแล้วนางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะได้ขึ้นเป็นใหญ่ในพรรคหรือไม่ ทุกคนไม่ต้องจ่ายหรือจ่ายน้อยหรืออยากจะจ่ายเพื่อประจบทักษิณ หวังจะให้ทักษิณโยนเศษเนื้อก้อนโตให้ ได้ตำแหน่งรัฐมนตรี
มองได้เห็นชัดว่า พรรคเพื่อไทยจึงไม่ใช่พรรคการเมืองตามปกติ ซึ่งเป็นที่รวบรวมคนที่มีอุดมการณ์เพื่อทำงานการเมืองรักษาผลประโยชน์ของชาติและประชาชน แต่กลายเป็นพรรคของตระกูล ทำการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของตระกูล แบ่งเศษกระดูกให้เหล่าผู้ลดเกียรติศักดิ์ของตนเองเพื่อประโยชน์เพียงเล็กน้อยและเป็นเครื่องมือให้ตระกูลชินวัตร
สำหรับบุคคลปกติแล้วต่างก็มองเห็นชัดว่า คุณทักษิณ คุณยิ่งลักษณ์ เสื้อแดง และพรรคเพื่อ(ใคร)ไทย กำลังดูหมิ่นเหยียดหยามคนไทย เขามองว่าคนไทยโง่เง่าหรือเห็นอยู่ รู้อยู่ แต่เพราะต้องการประโยชน์เฉพาะหน้า เห็นแก่เงินเพียงเล็กๆ น้อยๆ อันเป็นแรงจูงใจ 500-3,000 บาท และพวกเขาจะย้อนกลับมาทำร้ายบ้านเมืองและประชาชนต่อไป ซึ่งก็พิสูจน์มาแล้ว
หันมามอง พรรคประชาธิปัตย์ คู่แข่งอีกขั้วหนึ่ง ขั้วนี้ก็โง่เขลาเบาปัญญา ดีแต่พูด ทำงานไม่เป็น ได้อำนาจมาแล้วแทนที่จะใช้อำนาจนั้นเพื่อแก้เหตุวิกฤตชาติ และแก้ปัญหาต่างๆ เฉพาะหน้าให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ไม่มีความรู้ความสามารถดุจดังกบอยู่ในกะลา ไม่รู้จักใช้คนที่มีความรู้ความสามารถจริงๆ มาช่วยกันทำงาน แต่เราผู้เขียนก็รู้และเข้าใจว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทำไม่ได้ เพราะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และพรรคการเมืองทุกพรรค ล้วนเป็นพวกลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญนั่นเอง บริหารประเทศล้มเหลวในแทบทุกด้าน นักการเมืองคอร์รัปชันกันอย่างสนุกสนาน ข้าวของราคาแพงประชาชนเดือดร้อน คนได้ประโยชน์คือนายทุนพรรคเพียงหยิบมือเดียว สมจริงดังที่ว่า “อัปรีย์ไป จัญไรมา” แนวโน้มอัปรีย์ จะมาใหม่ หรือจัญไรจะมาซ้ำสอง ก็น่าจะมองอนาคตอันใกล้นี้ออกกันทั่วหน้า
สรุป การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการแย่งชิงอำนาจ เพื่อแย่งชิงทรัพย์สมบัติของชาติไปเป็นของพวกพรรคการเมืองภายใต้ระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญ นั่นเอง ทั้งสองพรรคจึงมีความเลวทรามต่อชาติและประชาชนพอๆ กัน จึงจำเป็นต้องสั่งสอนพรรคเผด็จการเหล่านี้ ด้วยการโหวตโน (Vote No) สร้างหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 หรือจะยอมตกเป็นเครื่องมือเป็นพาหนะ ให้พวกนักการเมืองเผด็จการฯ เข้าไปปล้นชาติ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างนั้นหรือ
