กกต.เคาะวงเงินหาเสียงแล้วให้ใช้ได้คนละ 1.5 ล้านบาท “อภิชาต” รับมี กกต.จังหวัดวางตัวไม่เป็นกลาง แต่ไม่มาก เรียกร้องให้ทำงานตรงไปตรงมา ไม่เอื้อพรรคการเมือง ชี้ “ยิ่งลักษณ์” พัวพันคดียึดทรัพย์ “นช.แม้ว” ไม่กระทบคุณสมบัติลงสมัครรับเลือกตั้ง ด้าน “ปู” ยันตรวจสอบกับทีมกฎหมายแล้วไร้ปัญหา
นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า ที่ประชุม กกต.มีมติเห็นชอบเรื่องการกำหนดค่าใช้จ่ายในการหาเสียงผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ปี 54 ในวงเงิน 1.5 ล้านบาทต่อคน และตนจะลงนามให้มีผลบังคับใช้โดยเร็วที่สุด
ส่วนงบประมาณที่ กกต.กลาง จะจัดสรรให้ กกต.จังหวัด เพื่อให้ดำเนินการเตรียมความพร้อมจัดการเลือกตั้งนั้น คาดว่า จะสามารถส่งงบประมาณลงไปในพื้นที่ได้ในวันที่ 24 พ.ค.นี้ ทั้งนี้ กกต.กลางขอให้ กกต.จังหวัดศึกษาขั้นตอน และจัดสรรการใช้ให้เพียงพอต่อการเลือกตั้ง หรือควรสำรองงบประมาณไว้ หากต้องดำเนินการจัดการเลือกตั้งใหม่ด้วย
นายอภิชาต กล่าวว่า นอกจากนี้ ในส่วนของ กกต.จังหวัดที่ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการจำนวนมากจนทำให้หลายฝ่ายเกิดความกังวลเรื่องความเป็นกลางในการทำหน้าที่นั้น ตนก็ทราบว่า มีข้าราชการบางคนที่วางตัวไม่เป็นกลาง แต่ก็มีไม่มาก ส่วนเจ้าหน้าที่ของ กกต.เองก็ได้มีการเน้นย้ำให้กับผู้ปฏิบัติงานให้ทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง ซื่อสัตย์สุจริต และเที่ยงตรง เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างโปร่งใสและยุติธรรม โดยเฉพาะข้าราชการควรวางตัวเป็นกลางไม่เอนเอียง หรือเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคการเมือง แต่หากมีเรื่องร้องเรียนเข้ามา กกต.ก็จะส่งผู้ตรวจการลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวทันที
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่ในอนาคต กกต.จังหวัดจะไม่ได้มาจากข้าราชการ นายอภิชาต กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะการทำหน้าที่ของ กกต.จะต้องมีหลายฝ่ายทำงานร่วมกัน
ส่วนเรื่องคุณสมบัติของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หรือปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 1 พรรคเพื่อไทย และเป็นน้องสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่อาจขาดคุณสมบัติบางประการ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับคดียึดทรัพย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น นายอภิชาต กล่าวว่า ในขณะนี้ยังไม่ถือว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขาดคุณสมบัติการสมัครรับเลือกตั้ง คงต้องรอให้มีการร้องเรียนเข้ามาก่อน กกต.จึงจะสามารถพิจารณาได้ แต่ทั้งนี้ในเรื่องคดีดังกล่าวของ พ.ต.ท.ทักษิณที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เข้าไปเกี่ยวข้องไม่ใช่คดีอาญาและการพิพากษาคดีต้องถึงที่สุดแล้วเท่านั้นจึงจะถือว่าขาดคุณสมบัติ
ด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยืนยันถึงคุณสมบัติของตนในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ว่า ได้มีการตรวจสอบกับทีมกฎหมายแล้ว พบว่า ไม่ขาดคุณสมบัติ และไม่มีปัญหาในเรื่องคดีความที่มีความเกี่ยวโยงกับ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยการดำเนินการเป็นไปตามขั้นตอน เชื่อว่า จะไม่กระทบเพราะได้ตรวจสอบกับทีมกฎหมายแล้วพบว่าไม่ขาดคุณสมบัติ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้ จะเดินหน้าลงพื้นที่ปราศรัยหาเสียงกับประชาชน และจะผลักดันนโยบายการแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน ส่วนนโยบายของรัฐบาลที่เห็นว่าเป็นประโยชน์ ก็จะคงไว้ แต่ส่วนใดที่มีปัญหาก็จะดำเนินการแก้ไขให้ดีขึ้น