ASTVผู้จัดการรายวัน/ศูนย์ข่าวหาดใหญ่-“ผบ.ทบ.” เผยรู้ชื่อ “โจรใต้” มือ ระเบิดแล้ว ชี้มาตรการเชิงรับยังบกพร่อง “ดาว์พงษ์” เชื่อยุทธศาสตร์ดับไฟใต้ก้าวหน้าหลายด้าน โจรใต้ไม่เลิกราปาเอ็ม 67 ใส่รถทหารชุดปฏิบัติการร้อย ร.ฉก.อโณทัย แต่พลาด ทำนักเรียน-ชาวบ้านบาดเจ็บ 8 ราย ด้าน จนท.ใต้ระดมกำลังดูแลเข้มวันแรกของการเปิดเทอม
เมื่อเวลา 12.00 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก(บก.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดทำให้พระสงฆ์มรณภาพ 2 รูป และทหารบาดเจ็บ ว่า เจ้าหน้าที่ทราบชื่อคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว แต่ปัญหาของเรามีการแจ้งเตือน แต่ปรากฎว่าคนพวกนี้ไม่ได้เคลื่อนไหวในช่วงที่ผ่านมา เขาทำงานไม่ได้เยอะอย่างที่เราคิด แต่คนพวกนี้ค่อนข้างแข็งแรงเพราะถูกล้างสมองจนกลับใจไม่ได้ ทำผิดกฎหมายไปเรื่อยๆ หากกลับมาก็ถูกดำเนินคดีทำให้เขาต้องสู้ไปเรื่อยๆ ดังนั้น ทำอย่างไรคนพวกนี้จึงหมดไป
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การดูแลมาตรการเชิงรับการรักษาความปลอดภัย พระ วัด ครู โรงเรียน รวมถึงการดูแลพื้นที่ในการจัดงานของประชาชน ซึ่งยังมีปัญหาอยู่เพราะพื้นที่ของคนร้าย ประชาชนยังไม่ได้เป็นพวกรัฐ 100% เป็นมากที่สุดก็ 90% ตรงนี้คือสงครามแย่งชิงประชาชน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าเขาต้องการให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงเพราะในช่วงนี้โรงเรียนเปิดการเรียนการสอน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องนำกำลังทั้งหมดไปดูแลตามสถานที่ต่างๆ เราใช้เจ้าหน้าที่ดูแลภารกิจเชิงรับกว่า 80% เพื่อดูแลเฝ้าหมู่บ้าน ทั้งนี้ ตนยอมรับว่ามาตรการเชิงรับยังบกพร่องอยู่ เพราะมีสถานที่เป็นพันแห่ง ซึ่ง เขาใช้วิธีอุ้ม จี้ ปล้น ฆ่า เผา เด็ดคอ เพื่อทำให้ประชาชนหวาดกลัวเพราะเขาทำได้แค่นั้น
“ปัญหาในขณะนี้คือใครจะทนอึดได้มากกว่ากัน คือทำอย่างไรเรื่องเหล่านี้จะไม่ไปสู่สากลหรือองค์การการประชุมอิสลาม(โอไอ ซี) ที่เราแก้ปัญหาในทุกวันนี้ได้เพราะเราแก้ปัญหาภายในของเราด้วยหลักนิติศาสตร์ แก้ปัญหาด้วยความเข้าใจงานพัฒนายุทธศาสตร์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ถ้านำต่างชาติเข้ามาจะแก้ด้วยความสมัครใจอย่างไร เขาจะถามว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ ผมขอถามว่าแบบนี้จะเกิดอะไรขึ้น เขาสนใจหรือไม่ประเทศไทยจะถูกแบ่งแยกหรือไม่ หลายประเทศก็เกิดแบบนี้”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
เมื่อเวลา 13.00 น. ที่โรงแรมบีพี สมิหลาบีช จ.สงขลา พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เสนาธิการทหารบก ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานพิธีเปิดการอบรมหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้รุ่นที่ 7 ถึงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า การแก้ไขปัญหามีความก้าวหน้าในหลายด้าน โดยใช้ยุทธศาสตร์รองทั้ง 6 ยุทธศาสตร์ ซึ่งยุทธศาสตร์ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า ทำให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเหนื่อย เขาจึงพยายามแก้คืน คือ ทำอย่างไรให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว และกลับมาเป็นพวกเขา
***ชี้ “เพื่อไทย”ระแวงทหารหนุนหลัง ปชป.
พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เสนาธิการทหารบก กล่าวถึงการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ระหว่างการเลือกตั้งว่า กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้ามีกำลังเข้าไปดูแลรักษาความปลอดภัยในช่วงของการเลือกตั้ง เพื่อดูสภาพแวดล้อมให้เกิดความปลอดภัย ส่วนการหาเสียงเป็นเรื่องของฝ่ายการเมืองที่ต้องดำเนินการไปตามปกติ การดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อาจมีความเข้มข้นต่างจากพื้นที่อื่น
ทหารไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับพรรคการเมืองและไม่เคยไปเป็นแบ็คให้ใคร แต่ตนคิดว่า คงเกิดจากความหวาดระแวงไปเองหรือไม่ กองทัพยืนยันเรื่องความเป็นกลาง และพร้อมทำงานร่วมกับทุกพรรคการเมือง
***รมว.ศธ.ลงใต้หารือมาตรการดูแลครู
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ(ศธ.) กล่าวถึงกรณีเหตุวางระเบิดในจ.ยะลา ในช่วงเปิดเทอมว่า ได้สั่งการให้ในพื้นที่เตรียมความพร้อม เรื่องสถานที่ บุคลากร ส่วนเรื่องที่สองคือเรื่องการเตรียมความพร้อมสำหรับโครงการเรียนฟรี 15 ปีอย่างทั่วถึง ทั้งนี้ ตนจะลงพื้นที่ในจ.ปัตตานีในวันที่ 20 พ.ค.นี้ เพื่อหารือเรื่องการดูแลความปลอดภัยของครูใน 3 จังหวัดชายแดนใต้
สำหรับผลจากโครงการเรียนฟรี เรียนดี 15 ปี นั้น นายชินวรณ์ ระบุว่า จากการพูดคุยกับนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง พบข้อมูลว่า ตัวเลขการใช้บัตรเครดิตของประชาชนลดลง ส่วนสถานธนานุบาลไม่มีการของบประมาณเพิ่มเติม เพื่อรองรับการใช้จ่ายของผู้ปกครองในช่วงเปิดเรียน จากปกติต้องขอเพิ่มประมาณ 4,000 ล้านบาท
***โจรใต้ปาเอ็ม 67รถทหาร
เมื่อเวลา 07.30 น.วานนี้(18 พ.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่รถปิกอัพยี่ห้อฟอร์ดสีเขียวไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ซึ่งเป็นรถของเจ้าหน้าที่ทหารชุดปฏิบัติการร้อย ร.ฉก.อโณทัย กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า นำกำลังพลออกไปจับจ่ายซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค โดยขณะที่ผ่านปากซอยถนนสิโรรส 6 ย่านตลาดเก่า เขตเทศบาลนครยะลา มีคนร้าย 2 คนแต่งกายเครื่องแบบนักศึกษา คนแรกผูกเนกไทสวมหมวกกันน็อกสีดำ อีกคนผมหยิก ใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นดรีม สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนขับขี่สวนมา โดยคนซ้อนท้ายได้ใช้ระเบิดสังหารแบบเอ็ม 67 ปาใส่รถของเจ้าหน้าที่ทหารโดยระเบิดไปกระทบกระจกหน้าแล้วกระเด็นไปตกปากซอยสิโรรส 3 ฝั่งตรงข้ามจนเกิดระเบิดขึ้น
จากเหตุดังกล่าวทำให้ชาวบ้านและนักเรียนที่เดินผ่านไปมาในบริเวณนั้นได้รับบาดเจ็บรวม 8 ราย ประกอบด้วย 1.นายอัฟฟาน แวหะยี อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 2.นายตระกาล ละมุล อายุ 17 ปี ชั้น ม.5 ทั้ง 2 รายเป็นนักเรียนโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ รายแรกอาการสาหัส 3.นายนิรุต ศรีนวล อายุ 33 ปี 4.นายอธิภาคย์ ภูมิณรงค์ อายุ 35 ปี 5.นายอัลวาแซ ซีนา 6.นายอัสมะ มานอูมาน 7.นางยียะ ซูรี และ 8.นายเจะอาลี เจ๊ะมามะ ถูกลำเลียงส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา หลังก่อเหตุคนร้ายได้ขับขี่ จักรยานยนต์มุ่งหน้าหลบหนีไปทาง หมู่ 3 ต.สะเตงนอก อย่างรวดเร็ว
ส่วนคนร้ายคาดว่าเป็นแนวร่วมกลุ่มก่อความไม่สงบต้องการสังหารเจ้าหน้าที่ทหารกลุ่มเป้าหมาย และสร้างสถานการณ์ในวันเปิดภาคเรียนวันแรก แต่ปรากฏว่านักเรียนและประชาชนผู้บริสุทธิ์รับเคราะห์แทนดังกล่าว
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า มีคนร้ายแต่งกายคล้ายนักศึกษาสวมเสื้อสีขาว ขับขี่รถจักรยานยนต์ ติดตามรถของเจ้าหน้าที่ทหาร เมื่อถึงบริเวณจุดเกิดเหตุได้ขว้างระเบิดเข้าใส่ แต่ตกลงบนพื้นถนน แล้วระเบิดขึ้น ก่อนที่คนร้ายดังกล่าวจะขี่ จยย.หลบหนีไป
***คุมเข้มรับเปิดเทอมวันแรก
ทางด้านบรรยากาศของการเปิดภาคเรียนวันแรกที่ จ.ยะลา กำลังทหารจากร้อย ร.ต่างๆ ของแต่ละหน่วยเฉพาะกิจที่รับผิดชอบพื้นที่ที่ตั้งของโรงเรียนได้จัดกำลัง 1 ชุดปฏิบัติการ ประจำหน้าประตูทางเข้าโรงเรียนและรอบๆ บริเวณโรงเรียน เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยและดูแลความปลอดภัยนักเรียนและครูอย่างเข้มงวด
ส่วนที่ จ.ปัตตานี บรรยากาศวันแรกของการเปิดการเรียนการสอนของโรงเรียนทั้ง 3 เขตการศึกษา โดยเฉพาะโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักมีบรรดาผู้ปกครองเดินทางมาส่งบุตรหลานไปโรงเรียนเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยจากกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองอย่างเข้มงวดทั่วทั้งจังหวัด
ส่วนโรงเรียนต่างอำเภอที่อยู่ห่างไกลและเป็นพื้นที่เสี่ยง เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ชุดคุ้มครองครูได้ให้คณะครูไปรวมตัวกันที่ตามจุดนัดหมายของแต่ละพื้นที่เพื่อที่จะนำขบวนคณะครูไปส่งตามโรงเรียนต่างๆ เพื่อเพิ่มการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น
ขณะที่บรรยากาศการเปิดภาคเรียนวันแรกในพื้นที่ จ.นราธิวาสทั้ง 3 เขต พื้นที่การประถมศึกษารวม 347 โรง ตั้งแต่ช่วงเช้ามีกำลังตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ให้การ รปภ.เข้มที่บริเวณประตูทางเข้าโรงเรียนของแต่ละแห่ง รวมทั้งตั้งจุดตรวจจุดสกัดลอย
เมื่อเวลา 12.00 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก(บก.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดทำให้พระสงฆ์มรณภาพ 2 รูป และทหารบาดเจ็บ ว่า เจ้าหน้าที่ทราบชื่อคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว แต่ปัญหาของเรามีการแจ้งเตือน แต่ปรากฎว่าคนพวกนี้ไม่ได้เคลื่อนไหวในช่วงที่ผ่านมา เขาทำงานไม่ได้เยอะอย่างที่เราคิด แต่คนพวกนี้ค่อนข้างแข็งแรงเพราะถูกล้างสมองจนกลับใจไม่ได้ ทำผิดกฎหมายไปเรื่อยๆ หากกลับมาก็ถูกดำเนินคดีทำให้เขาต้องสู้ไปเรื่อยๆ ดังนั้น ทำอย่างไรคนพวกนี้จึงหมดไป
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การดูแลมาตรการเชิงรับการรักษาความปลอดภัย พระ วัด ครู โรงเรียน รวมถึงการดูแลพื้นที่ในการจัดงานของประชาชน ซึ่งยังมีปัญหาอยู่เพราะพื้นที่ของคนร้าย ประชาชนยังไม่ได้เป็นพวกรัฐ 100% เป็นมากที่สุดก็ 90% ตรงนี้คือสงครามแย่งชิงประชาชน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าเขาต้องการให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงเพราะในช่วงนี้โรงเรียนเปิดการเรียนการสอน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องนำกำลังทั้งหมดไปดูแลตามสถานที่ต่างๆ เราใช้เจ้าหน้าที่ดูแลภารกิจเชิงรับกว่า 80% เพื่อดูแลเฝ้าหมู่บ้าน ทั้งนี้ ตนยอมรับว่ามาตรการเชิงรับยังบกพร่องอยู่ เพราะมีสถานที่เป็นพันแห่ง ซึ่ง เขาใช้วิธีอุ้ม จี้ ปล้น ฆ่า เผา เด็ดคอ เพื่อทำให้ประชาชนหวาดกลัวเพราะเขาทำได้แค่นั้น
“ปัญหาในขณะนี้คือใครจะทนอึดได้มากกว่ากัน คือทำอย่างไรเรื่องเหล่านี้จะไม่ไปสู่สากลหรือองค์การการประชุมอิสลาม(โอไอ ซี) ที่เราแก้ปัญหาในทุกวันนี้ได้เพราะเราแก้ปัญหาภายในของเราด้วยหลักนิติศาสตร์ แก้ปัญหาด้วยความเข้าใจงานพัฒนายุทธศาสตร์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ถ้านำต่างชาติเข้ามาจะแก้ด้วยความสมัครใจอย่างไร เขาจะถามว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ ผมขอถามว่าแบบนี้จะเกิดอะไรขึ้น เขาสนใจหรือไม่ประเทศไทยจะถูกแบ่งแยกหรือไม่ หลายประเทศก็เกิดแบบนี้”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
เมื่อเวลา 13.00 น. ที่โรงแรมบีพี สมิหลาบีช จ.สงขลา พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เสนาธิการทหารบก ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานพิธีเปิดการอบรมหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้รุ่นที่ 7 ถึงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า การแก้ไขปัญหามีความก้าวหน้าในหลายด้าน โดยใช้ยุทธศาสตร์รองทั้ง 6 ยุทธศาสตร์ ซึ่งยุทธศาสตร์ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า ทำให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเหนื่อย เขาจึงพยายามแก้คืน คือ ทำอย่างไรให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว และกลับมาเป็นพวกเขา
***ชี้ “เพื่อไทย”ระแวงทหารหนุนหลัง ปชป.
พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เสนาธิการทหารบก กล่าวถึงการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ระหว่างการเลือกตั้งว่า กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้ามีกำลังเข้าไปดูแลรักษาความปลอดภัยในช่วงของการเลือกตั้ง เพื่อดูสภาพแวดล้อมให้เกิดความปลอดภัย ส่วนการหาเสียงเป็นเรื่องของฝ่ายการเมืองที่ต้องดำเนินการไปตามปกติ การดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อาจมีความเข้มข้นต่างจากพื้นที่อื่น
ทหารไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับพรรคการเมืองและไม่เคยไปเป็นแบ็คให้ใคร แต่ตนคิดว่า คงเกิดจากความหวาดระแวงไปเองหรือไม่ กองทัพยืนยันเรื่องความเป็นกลาง และพร้อมทำงานร่วมกับทุกพรรคการเมือง
***รมว.ศธ.ลงใต้หารือมาตรการดูแลครู
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ(ศธ.) กล่าวถึงกรณีเหตุวางระเบิดในจ.ยะลา ในช่วงเปิดเทอมว่า ได้สั่งการให้ในพื้นที่เตรียมความพร้อม เรื่องสถานที่ บุคลากร ส่วนเรื่องที่สองคือเรื่องการเตรียมความพร้อมสำหรับโครงการเรียนฟรี 15 ปีอย่างทั่วถึง ทั้งนี้ ตนจะลงพื้นที่ในจ.ปัตตานีในวันที่ 20 พ.ค.นี้ เพื่อหารือเรื่องการดูแลความปลอดภัยของครูใน 3 จังหวัดชายแดนใต้
สำหรับผลจากโครงการเรียนฟรี เรียนดี 15 ปี นั้น นายชินวรณ์ ระบุว่า จากการพูดคุยกับนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง พบข้อมูลว่า ตัวเลขการใช้บัตรเครดิตของประชาชนลดลง ส่วนสถานธนานุบาลไม่มีการของบประมาณเพิ่มเติม เพื่อรองรับการใช้จ่ายของผู้ปกครองในช่วงเปิดเรียน จากปกติต้องขอเพิ่มประมาณ 4,000 ล้านบาท
***โจรใต้ปาเอ็ม 67รถทหาร
เมื่อเวลา 07.30 น.วานนี้(18 พ.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่รถปิกอัพยี่ห้อฟอร์ดสีเขียวไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ซึ่งเป็นรถของเจ้าหน้าที่ทหารชุดปฏิบัติการร้อย ร.ฉก.อโณทัย กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า นำกำลังพลออกไปจับจ่ายซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค โดยขณะที่ผ่านปากซอยถนนสิโรรส 6 ย่านตลาดเก่า เขตเทศบาลนครยะลา มีคนร้าย 2 คนแต่งกายเครื่องแบบนักศึกษา คนแรกผูกเนกไทสวมหมวกกันน็อกสีดำ อีกคนผมหยิก ใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นดรีม สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนขับขี่สวนมา โดยคนซ้อนท้ายได้ใช้ระเบิดสังหารแบบเอ็ม 67 ปาใส่รถของเจ้าหน้าที่ทหารโดยระเบิดไปกระทบกระจกหน้าแล้วกระเด็นไปตกปากซอยสิโรรส 3 ฝั่งตรงข้ามจนเกิดระเบิดขึ้น
จากเหตุดังกล่าวทำให้ชาวบ้านและนักเรียนที่เดินผ่านไปมาในบริเวณนั้นได้รับบาดเจ็บรวม 8 ราย ประกอบด้วย 1.นายอัฟฟาน แวหะยี อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 2.นายตระกาล ละมุล อายุ 17 ปี ชั้น ม.5 ทั้ง 2 รายเป็นนักเรียนโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ รายแรกอาการสาหัส 3.นายนิรุต ศรีนวล อายุ 33 ปี 4.นายอธิภาคย์ ภูมิณรงค์ อายุ 35 ปี 5.นายอัลวาแซ ซีนา 6.นายอัสมะ มานอูมาน 7.นางยียะ ซูรี และ 8.นายเจะอาลี เจ๊ะมามะ ถูกลำเลียงส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา หลังก่อเหตุคนร้ายได้ขับขี่ จักรยานยนต์มุ่งหน้าหลบหนีไปทาง หมู่ 3 ต.สะเตงนอก อย่างรวดเร็ว
ส่วนคนร้ายคาดว่าเป็นแนวร่วมกลุ่มก่อความไม่สงบต้องการสังหารเจ้าหน้าที่ทหารกลุ่มเป้าหมาย และสร้างสถานการณ์ในวันเปิดภาคเรียนวันแรก แต่ปรากฏว่านักเรียนและประชาชนผู้บริสุทธิ์รับเคราะห์แทนดังกล่าว
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า มีคนร้ายแต่งกายคล้ายนักศึกษาสวมเสื้อสีขาว ขับขี่รถจักรยานยนต์ ติดตามรถของเจ้าหน้าที่ทหาร เมื่อถึงบริเวณจุดเกิดเหตุได้ขว้างระเบิดเข้าใส่ แต่ตกลงบนพื้นถนน แล้วระเบิดขึ้น ก่อนที่คนร้ายดังกล่าวจะขี่ จยย.หลบหนีไป
***คุมเข้มรับเปิดเทอมวันแรก
ทางด้านบรรยากาศของการเปิดภาคเรียนวันแรกที่ จ.ยะลา กำลังทหารจากร้อย ร.ต่างๆ ของแต่ละหน่วยเฉพาะกิจที่รับผิดชอบพื้นที่ที่ตั้งของโรงเรียนได้จัดกำลัง 1 ชุดปฏิบัติการ ประจำหน้าประตูทางเข้าโรงเรียนและรอบๆ บริเวณโรงเรียน เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยและดูแลความปลอดภัยนักเรียนและครูอย่างเข้มงวด
ส่วนที่ จ.ปัตตานี บรรยากาศวันแรกของการเปิดการเรียนการสอนของโรงเรียนทั้ง 3 เขตการศึกษา โดยเฉพาะโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักมีบรรดาผู้ปกครองเดินทางมาส่งบุตรหลานไปโรงเรียนเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยจากกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองอย่างเข้มงวดทั่วทั้งจังหวัด
ส่วนโรงเรียนต่างอำเภอที่อยู่ห่างไกลและเป็นพื้นที่เสี่ยง เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ชุดคุ้มครองครูได้ให้คณะครูไปรวมตัวกันที่ตามจุดนัดหมายของแต่ละพื้นที่เพื่อที่จะนำขบวนคณะครูไปส่งตามโรงเรียนต่างๆ เพื่อเพิ่มการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น
ขณะที่บรรยากาศการเปิดภาคเรียนวันแรกในพื้นที่ จ.นราธิวาสทั้ง 3 เขต พื้นที่การประถมศึกษารวม 347 โรง ตั้งแต่ช่วงเช้ามีกำลังตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ให้การ รปภ.เข้มที่บริเวณประตูทางเข้าโรงเรียนของแต่ละแห่ง รวมทั้งตั้งจุดตรวจจุดสกัดลอย
