xs
xsm
sm
md
lg

ทิ้งทวนครม.120 เรื่อง มาร์คตัด 440 ล้านงบกอ.รมน.ปี55

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เวลา 14.30 น. วานนี้(2 พ.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์กรณีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นครั้งสุดท้าย ในวันที่ 3 พ.ค.54 ซึ่งหน่วยงานแต่ละกระทรวงรวมถึงทางกองทัพได้มีการของบประมาณเข้ามาเป็นจำนวนมากว่า ตนคิดว่าอย่าไปเพ่งเล็งว่าเป็นหน่วยงานไหน เพราะมีหลักอยู่แล้วว่าถ้ามีการยุบสภา การอนุมัติโครงการสำคัญเป็นเรื่องที่ต้องห้ามอยู่แล้ว ไม่สมควรที่จะกระทำในระหว่างนั้น เพราะฉะนั้น ในช่วง 60-70 วัน จึงเป็นเหมือนกับสุญญากาศ รัฐบาลก็ทำงานปกติ ทำงานประจำ อะไรที่เป็นโครงการที่เป็นการอนุมัติพิเศษนั้นทำไม่ได้
เมื่อผ่านเลือกตั้ง 60 วันแล้วกว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ให้รับหน้าที่ คิดแล้วประมาณ 30 วันหลังเลือกตั้ง รวมแล้วก็ 90 วัน ช่วงนี้กระทรวง ทบวง กรม และหน่วยงานต่างๆจึงรีบเสนองานเข้ามา เพื่อที่จะไม่ให้การปฏิบัติงานของเขาต้องหยุดชะงัก ซึ่งตรงนี้ต้องเข้าใจ ตนก็ยังกลุ้มใจอยู่เลยว่าวันที่3 พ.ค.ในการประชุม ครม.จะเลิกกี่โมง เพราะมีเรื่องต้องพิจารณามาก
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากรัฐบาลใหม่เข้ามาจะมีงบเหลือใช้หรือไม่ เพราะในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมางบประมาณได้ใช้ไปกับอุทกภัยและวาตภัยจำนวนมาก นายสุเทพกล่าวว่า เรื่องอุทกภัยและการช่วยเหลือประชาชนเราจำเป็นที่จะต้องดำเนินการ เว้นไม่ได้ ต้องดูแลพี่น้องประชาชน และฟื้นฟูสภาพของพี่น้องประชาชนในประเทศ เมื่อถามย้ำว่างบกลางของรัฐบาลยังมีเหลืออยู่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ยังเหลืออยู่ ส่วนปัญหาการเลือกตั้งของผู้ที่ประสบอุทกภัยและเอกสารสูญหายนั้น นายสุเทพกล่าวว่า ยังมีหลักฐานของทางราชการที่ใช้ในการเลือกตั้งได้ และคงไม่มีเอกสารปลอม เพราะไม่มีความจำเป็นที่พี่น้องประชาชนจะทำอะไรในเรื่องเหล่านั้น

** “กรณ์”จัดหนัก 16 วาระเข้า ครม.
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดสุดท้ายของรัฐบาลใ กระทรวงการคลังเตรียมเรื่องเสนอเข้าสู่การพิจารณาจำนวน 16 วาระ ทั้งนี้ เมื่อรวมกับวาระการประชุมของกระทรวงอื่นๆแล้ว จะทำให้วาระการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งนี้รวมกว่า 100 วาระ ซึ่งจะมีการทยอยแถลงทันทีที่คณะรัฐมนตรีมีการพิจารณาแล้วเสร็จในเรื่อง ต่างๆ ทั้งนี้ สำหรับวาระการประชุมของกระทรวงการคลัง ประกอบด้วย 1.การปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ เนื่องจาก เป็นการเปลี่ยนสูตรการคำนวณอัตราภาษีที่ใช้ในการจัดเก็บจากการวัดเครื่อง ยนต์เป็นการวัดมลภาวะที่เกิดจากเครื่องยนต์ โดยมีเวลาให้ผู้ประกอบการปรับตัว 3 ปี ก่อนจะมีผลบังคับใช้
“สูตรในการคำนวณภาษีรถยนต์ใหม่นี้ เราได้หารือกับผู้ประกอบการอย่างใกล้ชิด ซึ่งผลจากการปรับสูตรดังกล่าว จะทำให้มลภาวะที่เกิดจากรถยนต์น้อยลง ประชาชนจะได้ประโยชน์ โดยที่ไม่กระทบต่อรายได้รัฐบาล”
2.ร่างพ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ...ซึ่งร่างดังกล่าวนี้ เคยเสนอเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. มาแล้วครึ่งหนึ่ง แต่มีข้อสังเกตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น จึงกลับมาพิจารณาร่วมกันใหม่ และเสนอกลับเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง ทั้งนี้ ร่างดังกล่าวจะทำให้เกิดความโปร่งใสและส่งเสริมประสิทธิภาพในการร่วมลงทน ระหว่างภาครัฐและเอกชน ทำให้เอกชนเกิดความมั่นใจ และ ทำให้การลงทุนร่วมของภาคเอกชนในโครงการของรัฐเพิ่มขึ้น
3.มาตรการภาษีและค่าธรรมเนียมเพื่อสนับสนุนการพัฒนาตลาดทุนไทย ซึ่งมี 5 เรื่องที่เกี่ยวข้อง คือ 1.มาตรการภาษีเพื่อการออกพันธบัตรตามหลักศาสนาอิสลามหรือ Sukuk 2.การยกเว้นภาษี Capital Gain กรณีบุคคลธรรมดา สำหรับการขายหลักทรัพย์กรณี ASEAN Linkage 3.การปรับปรุงหลักเกณฑ์การออกจากPVD จากการเกษียณอายุเป็น 55 ปี และเป็นสมาชิกของPVD เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี 4.ภาษีเกี่ยวกับการควบรวมกิจการเรื่อง shares swap และการคงสิทธิประโยชน์ทางภาษีกรณีบริษัทได้รับการลดอัตรา 5.การให้หัก WTH 10% สำหรับเงินปันผลที่ได้รับและสามารถเลือกไม่นำมารวมคำนวณได้สำหรับบริษัทต่าง ประเทศที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย(Dual Listing)

**ภาษีรถ/บ้านหลังแรก/ประกันพืชผล
4.การคัดเลือกกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการ ประกอบธุรกิจประกันภัย 5.การแต่งตั้งประธานคณะกรรมการในคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลัก ทรัพย์ 6.ขอความเห็นชอบปรับปรุงโครงสร้างของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เรื่องการก่อตั้งสำนักปากท้อง (สำนักพัฒนาระบบการเงินภาคประชาชน) มีเป้าหมายเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบและเพิ่มอัตราการเข้าถึงแหล่งเงิน ทุน7.การบริหารโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555
8.แหล่งเงินสนับสนุนแผนการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนการปฏิรูป ประเทศด้านการศึกษา สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน 9.มาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติปี 2553 และ 2554 (เพิ่มเติม) โดยให้สินเชื่อพิเศษสำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยภาคใต้ เป็นวงเงินสูงสุดถึง 10 ล้านบาท ผ่าน ธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและธนาคารเพื่อการเกษตรและ สหกรณ์การเกษตร
10.โครงการบ้านหลังแรก (ธอส.) โดยเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติอัตราดอกเบี้ย 0% 2 ปี ฟรีค่าโอนและค่าจดจำนอง ในวงเงินไม่เกิน 3 ล้านบาท 11.การให้ความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการก่อ สร้าง อันเนื่องมาจากเหตุอุทกภัยขยายระยะเวลาส่งมอบงาน ของสัญญาภาครัฐกับ บริษัทก่อสร้าง สำหรับโครงการที่อยู่ในเขตพื้นที่ประสบอุทกภัย
12.ยุทธศาสตร์ชาติในการพัฒนาการประกันภัยพืชผลและโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2554 ซึ่งประกอบด้วย 1.มาตรการครบวงจรที่จะดูแลวงเงินสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษให้กับชาวนาที่ ซื้อปุ๋ย 2.การเสนอโครงการประกันภัยธรรมชาติที่จะคุ้มครองมูลค่า 2,000 บาทต่อไร่ให้กับเกษตรกรที่ประสบภัยภัยธรรมชาติ โดยมีรัฐร่วมชดเชยเบี้ยประกัน13.มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการไปลงทุนในต่างประเทศ เพื่อลดภาษีซ้ำซ้อนกรณีบริษัทไทยไปลงทุนต่างประเทศ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและการลงทุนในต่างประเทศ
14.ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการนำสิทธิในบำเหน็จตกทอดไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการกู้เงิน พ.ศ. 15.การปรับปรุงแก้ไขหลักเกณฑ์การจัดตั้งสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาค โดยสนับสนุนการลงทุนของบริษัทต่างประเทศที่ลงทุนในประเทศไทย ผ่านการจัดตั้ง ROH ในประเทศไทย และ16. มาตรการช่วยเหลือผู้ประกองการที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม (กรณีผู้ประกอบการที่มีกรมธรรม์ประกันภัยที่ยังไม่ได้รับสินไหมทดแทน จากบริษัทประกันภัย)

**วาระ ครม.นัดทิ้งทวน 120 เรื่อง
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการกระชุม ครม.นัดสุดท้าย ที่อาคารรัฐสภา ซึ่งจะมีการประชุมรัฐสภาร่วมด้วย นั้น พบว่า มีวาระครม.ถึงกว่า 120 วาระ ซึ่งถือว่ามีจำนวนมาก แม้จะเป็นการประชุมนัดสุดท้ายก็ตาม

**มาร์คตัดงบ กอ.รมน. เหตุทำซ้ำซ้อน
วันเดียวกันนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางมาเป็นประธานการประชุมและกล่าวมอบนโยบายในการแถลงผลการปฏิบัติงานรอบ 6 เดือนของ กอ.รมน. ณ ห้องประชุม ชั้น 2 อาคาร ศปก.ทบ. (เดิม) ภายในสวนรื่นฤดี ถนนราชสีมา เขตดุสิต กรุงเทพฯ
พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เสนาธิการทหารบก ในฐานะเลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.) แถลงว่า เป็นการสรุปผลการปฏิบัติงานรอบ 6 เดือนของ กอ.รมน. ตามแผนรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ปี 2553-2554 ซึ่งนายกรัฐมนตรี พอใจผลการปฏิบัติงาน
ส่วนเรื่องงบประมาณของ กอ.รมน.ในปี 2555 ได้รับลดลงจากกว่า 7,000 ล้านบาท เหลือเพียง 6,900 ล้านบาท ซึ่งหากพิจารณาแล้วอาจทำให้การทำงานไม่ถึงเป้าประสงค์ตามที่กำหนดไว้ อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีเห็นว่า กอ.รมน.เป็นหน่วยงานที่บูรณาการการทำงานกับส่วนราชการต่าง ๆ หากสามารถบูรณาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็ไม่ต้องใช้งบประมาณมาก เนื่องจากการทำงานจะไม่ซ้ำซ้อน
ส่วนงบประมาณปี 2555 ได้จำนวน 6,943 ล้านบาทแบ่งเป็นงบการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ 6,164 ล้านบาท และงบความมั่นคงของรัฐ 778 ล้านบาท ซึ่งในงบความมั่นคงของรัฐ แบ่งเป็นงบกำลังพล 337 ล้านบาท และงบสำหรับขับเคลื่อนงานตามยุทธศาสตร์เพียง 440 ล้านบาท
มีรายงานว่า นายกรัฐมนตรี ได้ตั้งข้อสังเกตถึงการใช้งบประมาณ ในกรอบ 6 เดือน ของ กอ.รมน.ว่ามีความซ้ำซ้อนหรือไม่ โดยเสนอให้มีการตัดงบประมาณปี 2555จาก7,500 ล้านบาท เหลือ6,900ล้านบาท ขณะที่กอ.รมน.อ้างว่าได้งบประมาณเพียงแค่ 35เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือเป็นงบแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดย กอ.รมน.มีหน้าที่ที่จะต้องติดตามข้อมูลข่าวสารและประเมินสถานการณ์อยู่แล้ว แต่ไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง เพราะ กอ.รมน.ไม่ได้ตั้งขึ้นเพื่อติดตามสถานการณ์ทางการเมือง
กำลังโหลดความคิดเห็น