ASTVผู้จัดการรายวัน – ตลาดสถาบันลดน้ำหนักซบเซา ปีนี้คาดทรงตัวเท่าปีก่อน “มารีฟรานซ์” เกาะแน่นลูกค้าเก่า งดขยายสาขา อัดงบตลาด 300 ล้านบาทดันยอดขาย หวังทั้งปีเติบโตไม่ต่ำกว่า 25% รักษาส่วนแบ่งตลาดที่60%เท่าปีก่อน
นางสาวศศิวีณ์ ซื่อตรง ผู้จัดการทั่วไป สถาบันลดน้ำหนัก มารีฟรานซ์ บอดี้ไลน์ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดสถาบันลดน้ำหนักในปีนี้น่าจะทรงตัวเท่าปีที่ผ่านมา หลังจากที่ช่วงประมาณ 4-5 ปีก่อน เคยเติบโตสูงสุดมากกว่า 20% แต่หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและสภาพเศรษฐกิจที่แย่ลง จึงทำให้ธุรกิจด้านสถาบันลดน้ำหนักมีอัตราการเติบโตลดลงเรื่อยๆโดยเฉลี่ยเหลือเพียง 15-20% เท่านั้น
อย่างไรก็ตามแม้ว่าปีนี้จะมีการเลือกตั้งใหญ่เกิดขึ้นอีกครั้งก็ยังเชื่อว่า คงจะไม่มีผลต่อตลาดสถาบันลดน้ำหนักแต่อย่างไร และในแง่ของผู้ประกอบการนั้น ต่างก็เตรียมใจรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นนี้อยู่ก่อนแล้ว
ในส่วนของ มารีฟรานซ์ฯ เชื่อว่าจากการที่มีลูกค้าเป็นกลุ่มบีบวกขึ้นไป มั่นใจว่าการยุบสภาครั้งนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจแน่นอน โดยปีนี้ทางบริษัทพร้อมใช้งบการตลาดกว่า 300 ล้านบาท เท่าปีก่อน ในการส่งเสริมการขาย จัดกิจกรรมต่างๆ โดยงบการตลาดกว่า 70% เป็นการจัดกิจกรรมเพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมที่มีอยู่กว่า 2 แสนราย และอีก 30% ในการจัดกิจกรรมเพื่อเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ เชื่อว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันให้สิ้นปีนี้ มารีฟรานซ์จะมีการเติบโตของรายได้ที่ 25% และครองส่วนแบ่งในตลาดสถาบันลดน้ำหนักไว้ที่ 60% เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา
“ทางมารีฟรานซ์ หันมาให้ความสำคัญกับฐานลูกค้าเก่ามากว่า 3 ปีแล้ว เนื่องจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ซบเซา ที่สำคัญในตลาดจะมุ่งเพิ่มฐานลูกค้าใหม่เป็นหลัก ทำให้เกิดการแข่งขันที่รุนแรง”
จากสภาพตลาดที่ยังคงทรงตัว ทางบริษัทจึงมองว่ายังไม่ควรมีการลงทุนใหม่ๆเกิดขึ้น ดังนั้นตั้งแต่ปีที่ผ่านมาจนถึงปีนี้ จึงยังไม่มีแผนการขยายสาขาเพิ่มแต่อย่างไร โดยยังคงไว้ที่ 18 สาขา แต่ทั้งนี้มองว่าหากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจกลับมาดีขึ้นอีกครั้ง บริษัทก็พร้อมที่จะลงทุนขยายสาขาเพิ่ม
นางสาวศศิวีณ์ ซื่อตรง ผู้จัดการทั่วไป สถาบันลดน้ำหนัก มารีฟรานซ์ บอดี้ไลน์ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดสถาบันลดน้ำหนักในปีนี้น่าจะทรงตัวเท่าปีที่ผ่านมา หลังจากที่ช่วงประมาณ 4-5 ปีก่อน เคยเติบโตสูงสุดมากกว่า 20% แต่หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและสภาพเศรษฐกิจที่แย่ลง จึงทำให้ธุรกิจด้านสถาบันลดน้ำหนักมีอัตราการเติบโตลดลงเรื่อยๆโดยเฉลี่ยเหลือเพียง 15-20% เท่านั้น
อย่างไรก็ตามแม้ว่าปีนี้จะมีการเลือกตั้งใหญ่เกิดขึ้นอีกครั้งก็ยังเชื่อว่า คงจะไม่มีผลต่อตลาดสถาบันลดน้ำหนักแต่อย่างไร และในแง่ของผู้ประกอบการนั้น ต่างก็เตรียมใจรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นนี้อยู่ก่อนแล้ว
ในส่วนของ มารีฟรานซ์ฯ เชื่อว่าจากการที่มีลูกค้าเป็นกลุ่มบีบวกขึ้นไป มั่นใจว่าการยุบสภาครั้งนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจแน่นอน โดยปีนี้ทางบริษัทพร้อมใช้งบการตลาดกว่า 300 ล้านบาท เท่าปีก่อน ในการส่งเสริมการขาย จัดกิจกรรมต่างๆ โดยงบการตลาดกว่า 70% เป็นการจัดกิจกรรมเพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมที่มีอยู่กว่า 2 แสนราย และอีก 30% ในการจัดกิจกรรมเพื่อเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ เชื่อว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันให้สิ้นปีนี้ มารีฟรานซ์จะมีการเติบโตของรายได้ที่ 25% และครองส่วนแบ่งในตลาดสถาบันลดน้ำหนักไว้ที่ 60% เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา
“ทางมารีฟรานซ์ หันมาให้ความสำคัญกับฐานลูกค้าเก่ามากว่า 3 ปีแล้ว เนื่องจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ซบเซา ที่สำคัญในตลาดจะมุ่งเพิ่มฐานลูกค้าใหม่เป็นหลัก ทำให้เกิดการแข่งขันที่รุนแรง”
จากสภาพตลาดที่ยังคงทรงตัว ทางบริษัทจึงมองว่ายังไม่ควรมีการลงทุนใหม่ๆเกิดขึ้น ดังนั้นตั้งแต่ปีที่ผ่านมาจนถึงปีนี้ จึงยังไม่มีแผนการขยายสาขาเพิ่มแต่อย่างไร โดยยังคงไว้ที่ 18 สาขา แต่ทั้งนี้มองว่าหากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจกลับมาดีขึ้นอีกครั้ง บริษัทก็พร้อมที่จะลงทุนขยายสาขาเพิ่ม