xs
xsm
sm
md
lg

มิสเตอร์โดนัทข่มรายย่อย ทุ่ม200ล.ปิดทางยึดตลาด65%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ตลาดโดนัทแข่งดุ "มิสเตอร์ โดนัท" ทุ่ม 200 ล้านบาท รีเฟรชแบรนด์ครั้งใหญ่ ชูความเป็นพรีเมี่ยมสู้ มั่นใจสิ้นปีเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จาก 1,400 ล้านบาท เพิ่มอีก 20 สาขา พร้อมโกยมาร์เก็ตแชร์เพิ่มเป็น 65% กินขาดผู้นำโดนัท

นายสุชีพ ธรรมาชีพเจริญ ผู้จัดการทั่วไป แบรนด์ มิสเตอร์ โดนัท ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือซีอาร์จี เปิดเผยว่า ภาพรวมการแข่งขันในตลาดโดนัทค่อนข้างรุนแรงมาตั้งแต่ช่วงกลางปีก่อนที่ผ่านมา ส่วนสำคัญมาจากการที่มีแบรนด์ใหม่เข้ามาทำตลาด ส่งผลให้แต่ละแบรนด์หันมาทำตลาดกันมากขึ้น พร้อมชูจุดเด่นของแต่ละแบรนด์ในการเรียกยอดขาย

ผลดังกล่าวทำให้ภาพรวมตลาดโดนัทในปีที่ผ่านมามีมูลค่าสูงถึง 2,200 ล้านบาท เติบโตขึ้นกว่า 7-10% ขณะที่ในปีนี้เชื่อว่าจะเติบโตขึ้นอีกราว 12-15% หรือไม่ต่ำกว่า 2,500 ล้านบาท โดยมองว่าจะยังไม่มีผู้เล่นรายใหม่เข้ามา แต่จะเป็นการแข่งขันกันเองที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น

ในส่วนของมิสเตอร์ โดนัท ปีนี้ก้าวสู่ปีที่33 ดังนั้นจึงได้ทุ่มงบกว่า 200 ล้านบาทในการรีเฟรชแบรนด์ครั้งใหญ่ ทั้งการตกแต่งร้านรูปแบบใหม่ เปลี่ยนเครื่องแบบพนักงาน และแพกเกจจิ้ง ที่สำคัญคือ ผลิตภัณฑ์ที่คัดสรรวัตถุดิบที่ดีมานำเสนอ ชูความเป็นพรีเมี่ยมเพื่อแข่งขันในตลาด รวมทั้งขยายสาขาเพิ่มอีก 20 สาขา จาก 250 สาขาในปีที่ผ่านมา
มั่นใจว่าในสิ้นปีนี้จะผลักดันให้มิสเตอร์ โดนัท มีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% สูงสุดในรอบ 5 ปี จากปีก่อนมีรายได้ที่ 1,400 ล้านบาท พร้อมเพิ่ม ส่วนแบ่งทางการตลาดเป็น 65% จากเดิมเป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่งกว่า 60% ในปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามการรีเฟรชแบรนด์ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีการปรับภาพลักษณ์ใหม่ให้ดูทันสมัยมากขึ้น ขณะที่บริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นได้เริ่มไปเมื่อ5ปีที่ผ่านมา ตามมาด้วย จีน เกาหลี และไต้หวัน ส่วนไทยนั้นเริ่มทดลองปรับโฉมสาขาใหม่มากว่า 3 ปีแล้ว ปัจจุบันมีการปรับรูปแบบสาขาใหม่ไปแล้ว 60 สาขา เชื่อว่าในอีก 3 ปีหลังจากนี้
จะสามารถปรับทุกสาขาให้เป็นรูปแบบใหม่ได้ทั้งหมด ทั้งนี้เชื่อว่าแผนการขยายสาขานั้นในอีก 5 ปีข้างหน้าจะมีจำนวนสาขาไม่ต่ำกว่า 350 สาขา ครบทุกจังหวัดในประเทศไทย

นายสุชีพ กล่าวต่อว่า จากผลกระทบเกี่ยวกับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น บริษัทแม่ไม่ได้รับกระทบแต่อย่างไร เพราะอยู่ที่เมืองโอซาก้า มีเพียงบางสาขาที่ได้รับผลกระทบเท่านั้น ส่วนไทยจากเหตุการณ์น้ำท่วมทางภาคใต้ มีเพียง 2-3 สาขาที่ได้รับผลกระทบเล็กน้อย เชื่อว่าจากการที่ทางร้านมีสินค้าในสต็อกเพียงพอในระยะเวลา1เดือน
ไม่น่าจะมีปัญหาในเรื่องการเปิดให้บริการต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น