xs
xsm
sm
md
lg

ลงทุนอินเดีย1เดือนยิลด์พุ่ง6.6% "อเบอร์ดีน"ชี้อานิสงส์พื้นฐานแกร่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อเบอร์ดีน ปลื้ม 1 เดือน กองทุนอินเดีย ผลตอบแทนขึ้น 6.6% หลังนักลงทุนมีมุมมองในทางบวก ระบุแม้ เศรษฐกิจยังเผชิญเงินเฟ้อ และดอกเบี้ยสูง แต่ปัจจัยพื้นฐานยังแข็งแกร่ง จึงเป็นโอกาสดีสำหรับนักลงทุนไทย

นาย เอเดรียน ริม ผู้จัดการกองทุนอาวุโส ทีมตราทุนเอเชียแปซิฟิก อเบอร์ดีน แอสเซสแมนเนทเม้นสิงคโปร์ กล่าวถึง เศรษฐกิจของอินเดียว่า จากปัญหาการประท้วงในตะวันออกกลางและปัญหาแผ่นดินไหวและการเกิดซึนามิในญี่ปุ่นนั้น ทั้งสองเหตุการณ์ทำให้เกิดความผันผวนต่อตลาดหุ้นทั่วโลก แต่หากมองต่อไปข้างหน้าหุ้นเอเชีย และตลาดหุ้นอินเดียยังมีปัจจัยพื้นฐานที่ดีและได้รับกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวน้อนมาก ขณะเดียวกันในภาคอุตสาหกรรมของประเทศอินเดียนั้น ปัญหาจากประเทศญี่ปุ่นส่งผลกระทบน้อยมากและมีผลกระทบฝนช่วงสั้นๆเท่านั้น แต่หากปัญหายังยืดยาวออกไป อาจต้องกลับมาดูสถานการณ์อีกครั้ง

ทั้งนี้ แม้ว่าขณะนี้อินเดียจะยังมีปัญหาเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่สูง รวมทั้งราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น แต่ประชากรในอินเดียยังคงใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง และทางรัฐบาลอินเดียก็ได้ดำเนินการในการลดภาระหนี้สินในประเทศซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 4% ของจีดีพี และตั้งเป้าที่จะลดให้เหลือน้อยกว่า 2% ในช่วง 3 ปี รวมทั้งการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคในประเทศ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดี

"แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงมากทั้งในระดับภูมิภาคและในประเทศอินเดีย แต่ความรู้สึกของนักลงทุนส่วนใหญ่มองในทิศทางบวกมากขึ้นเนื่องจากตลาดอินเดียลงไปมาก ส่งผลให้กองทุนเปิด อเบอร์ดีน อินเดีย โกรทฟันด์ ให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นถึง 6.6% ในช่วง1เดือนตั้งแต่เปิดขายกองทุน"นาย เอเดรียน ริม กล่าว

นาย เอเดรียน ริม ยังกล่าวว่า อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจอินเดียในปีนี้ยังเป็นจุดที่น่าสนใจ ซึ่งทาง อเบอร์ดีนมองว่า หุ้นอินเดียน่าจะโตที่ประมาณ 8-15% แล้วแต่ในหมวดอุตสาหกรรมต่างๆ แคต่คาดว่าในปีนี้อุตสาหกรรมที่น่าจะให้ผลตอบแทนดีคือ ภาคการเงิน อุตสาหกรรมเทคโนโลยีต่างๆ ขณะที่ราคาหุ้นอินเดียซื้อขายอยู่ที่ระดับ P/E ที่ 20 เท่า ใฟ้ผลตอบแทนประมาณ 1.7% สูงกว่าหุ้นเอเชียซึ่งซื้อขายอยู่ที่ 14 เท่าและให้ผลตอบแทนที่ 2.7%

ส่วนปัญหาในเรื่องเงินเฟ้อนั้น รัฐบาลอินเดียกำลีงควบคุมเงินเฟ้ออยู่ ซึ่งมาจากราคาพลังงานที่สูง ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงที่ยังจับตามองคือเรื่องของ อัตราดอกเบี้ยที่อาจจะปรับตัวขึ้นสูงมาก และอาจส่งผลกระทบได้ ซึ่งตอนนี้อยู่ที่ระดับ 8% และอาจปรับขึ้นไปอีกหากเงินเฟ้อยังสูงอยู่

นายชัยเกษม วัฒนศิริพงษ์ หัวหน้าฝ่ายจัดจําหน่ายกองทุน ของ บลจ.อเบอร์ดีน ประเทศไทย กล่าวว่า หลังจากที่ เปิดตัวกองทุนเปิด อเบอร์ดีน อินเดย โกรท ฟันด์ (ABIG) ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ถึง 14 มีนาคม 2554 ที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากนักลงทุนด้วยยอดขาย 359.10 ล้านบาท โดยกองทนดังกล่าวได้เปิดเสนอขายคร้งแรกที่ราคา 10.0000 บาท ซึ่งต่อมามูลค่าหน่วยลงทุนปรับตัวสูงขึ้นไปอยู่ที่ 10.5583 บาท (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2554)

“เป็นโอกาสของนักลงทุนไทยในการลงทุนในบริษัทที่จดทะเบยนในตลาดหุ้นอินเดิยผ่าน กองทุนเปิด อเบอร์ดีน อินเดีย โกรท ฟันด์ (ABIG) เนื่องจากว่าอินเดีย มีเศรษฐกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งมาจากอุปสงคในประเทศที่มีเสถียรภาพโดยมีขนาดประชากรที่เอื้ออำนวย ทำให้อินเดียไม่ต้องพึ่งพาการส่งออกเป็นหลักเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจเหมือนเช่นหลายๆประเทศในเอเชีย นอกเหนือจากนี้ ตลาดหุ้นอินเดียยังได้รับผลกระทบน้อยที่สุดจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 มนาคม 2554 " นายชัยเกษม กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น