อเบอร์ดีน เผย หุ้นไทยระยะสั้นยังไม่ขึ้นมาก เหตุเงินทุนไหลไปตลาดพัฒนาแล้ว แต่ระยะยาวเอเชียยังน่าลงทุนอยู่ ระบุ เป็นโอกาสดีลงทุนหุ้นอินเดียเนื่องจากดัชนีตลาดและราคาหุ้นยังไม่สูง
นายชัยเกษม วัฒนศิริพงษ์ หัวหน้าฝ่ายจัดจำหน่ายกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อเบอร์ดีน จำกัด เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมากองทุนหุ้นภายในประเทศได้ให้ผลตอบแทนที่ดีมากจากตลาดหุ้นที่ปรับตัวขึ้นไปสูง แต่ช่วงต้นปี 2554 นี้ ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงไปจากการเทขายของนักลงทุนต่างประเทศที่นำเงินกลับไปลงทุนในตลาดหุ้นของประเทศที่พัฒนาแล้วทั้งตลาดหุ้นของสหรัฐฯและตลาดหุ้นยุโรป ซึ่งในในช่วงเวลาเดียวกันนั้นกองทุนของ บลจ. อเบอร์ดีนที่ลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ นั้นตั้งแต่ต้นปีผลตอบแทนของกองทุนขึ้นไปอยู่ที่ 7% ขณะที่ผลตอบแทนของกองทุนหุ้นยุโรปอยู่ที่ 7.4%
อย่างไรก็ตามมองว่า ในช่วงระยะสั้นๆ นี้ ตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วจะมีความน่าสนใจและมีเงินทุนเข้าไปลงทุนมาก แต่ในช่วงระยะยาวแล้ว ตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศเกิดใหม่และเอเชีย ยังเป็นที่น่าลงทุนอยู่เนื่อกจากปัจจัยพื้นฐานที่ยังแข็งแกร่ง
"กองทุนหุ้นในประเทศช่วงระยะสั้นๆนี้ อาจจะปรับตัวไม่สูงแต่ยังเชื่อว่าเงินลงทุนน่าจะไหลกลับเข้ามาลงทุนในเอเชียอยู่เพราะยังน่าสนใจ" นายชัยเกษม กล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนของกองทุนหุ้นในประเทศของอเบอร์ดีนนั้น ในปี้นี้แม้จะติดลบไปตามดัชนีตลาดอยู่ แต่บริษัทที่เข้าไปลงทุนยังมีผลประกอบการที่ดีแต่อาจไม่ดีเท่ากับเมื่อปีที่ผ่านมา แต่หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นเชื่อว่าตลาดหุ้นน่าจะปรับตัวขึ้นมาบ้างจากความมั่นใจของนักลงทุนที่มีต่อรัฐบาลชุดใหม่
ขณะที่เงินเฟ้อและราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้นส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยบ้าง แต่ไม่รุนแรงมากเท่ากลับประเทศจีนที่รัฐบาลต้องออกมาตการเข้ามาควบคุม
สำหรับ บลจ .อเบอร์ดีน กำลังอยู่ในระหว่างการเปิดขายกองทุน อเบอร์ดีน อินเดีย โกรท ฟันด์ (ABIG) ระหว่างวันที่ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 14 มีนาคมนี้ โดยเน้นลงทุนในธุรกิจภาคการเงินที่สอดคล้องกับอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน และเน้นลงทุนในบริษัทที่ให้บริการระบบสารสนเทศที่จะได้รับอานิสงค์จากแนวโน้มการว่าจ้างของกลุ่มลูกค่าในประเทศพัฒนาแล้ว โดยบริษัทลงทุนในหุ้นประมาณ 30-35 ตัว
"กองทุนที่เข้าไปลงทุนในอินเดียนี้ลูกค้าให้การตอบรับที่ดี เนื่องจากเราเข้าไปลงทุนในช่วงที่ตลาดและราคาหุ้นยังปรับตัวขึ้นไม่สูง จึงเป็นจังหวะที่ดี ดังนั้นกองทุน อเบอร์ดีน อินเดีย โกรท ฟันด์ จึงเป็นการลงทุนที่ดีในระยะยาว" นายชัยเกษม กล่าว
นายชัยเกษม วัฒนศิริพงษ์ หัวหน้าฝ่ายจัดจำหน่ายกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อเบอร์ดีน จำกัด เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมากองทุนหุ้นภายในประเทศได้ให้ผลตอบแทนที่ดีมากจากตลาดหุ้นที่ปรับตัวขึ้นไปสูง แต่ช่วงต้นปี 2554 นี้ ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงไปจากการเทขายของนักลงทุนต่างประเทศที่นำเงินกลับไปลงทุนในตลาดหุ้นของประเทศที่พัฒนาแล้วทั้งตลาดหุ้นของสหรัฐฯและตลาดหุ้นยุโรป ซึ่งในในช่วงเวลาเดียวกันนั้นกองทุนของ บลจ. อเบอร์ดีนที่ลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ นั้นตั้งแต่ต้นปีผลตอบแทนของกองทุนขึ้นไปอยู่ที่ 7% ขณะที่ผลตอบแทนของกองทุนหุ้นยุโรปอยู่ที่ 7.4%
อย่างไรก็ตามมองว่า ในช่วงระยะสั้นๆ นี้ ตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วจะมีความน่าสนใจและมีเงินทุนเข้าไปลงทุนมาก แต่ในช่วงระยะยาวแล้ว ตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศเกิดใหม่และเอเชีย ยังเป็นที่น่าลงทุนอยู่เนื่อกจากปัจจัยพื้นฐานที่ยังแข็งแกร่ง
"กองทุนหุ้นในประเทศช่วงระยะสั้นๆนี้ อาจจะปรับตัวไม่สูงแต่ยังเชื่อว่าเงินลงทุนน่าจะไหลกลับเข้ามาลงทุนในเอเชียอยู่เพราะยังน่าสนใจ" นายชัยเกษม กล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนของกองทุนหุ้นในประเทศของอเบอร์ดีนนั้น ในปี้นี้แม้จะติดลบไปตามดัชนีตลาดอยู่ แต่บริษัทที่เข้าไปลงทุนยังมีผลประกอบการที่ดีแต่อาจไม่ดีเท่ากับเมื่อปีที่ผ่านมา แต่หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นเชื่อว่าตลาดหุ้นน่าจะปรับตัวขึ้นมาบ้างจากความมั่นใจของนักลงทุนที่มีต่อรัฐบาลชุดใหม่
ขณะที่เงินเฟ้อและราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้นส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยบ้าง แต่ไม่รุนแรงมากเท่ากลับประเทศจีนที่รัฐบาลต้องออกมาตการเข้ามาควบคุม
สำหรับ บลจ .อเบอร์ดีน กำลังอยู่ในระหว่างการเปิดขายกองทุน อเบอร์ดีน อินเดีย โกรท ฟันด์ (ABIG) ระหว่างวันที่ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 14 มีนาคมนี้ โดยเน้นลงทุนในธุรกิจภาคการเงินที่สอดคล้องกับอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน และเน้นลงทุนในบริษัทที่ให้บริการระบบสารสนเทศที่จะได้รับอานิสงค์จากแนวโน้มการว่าจ้างของกลุ่มลูกค่าในประเทศพัฒนาแล้ว โดยบริษัทลงทุนในหุ้นประมาณ 30-35 ตัว
"กองทุนที่เข้าไปลงทุนในอินเดียนี้ลูกค้าให้การตอบรับที่ดี เนื่องจากเราเข้าไปลงทุนในช่วงที่ตลาดและราคาหุ้นยังปรับตัวขึ้นไม่สูง จึงเป็นจังหวะที่ดี ดังนั้นกองทุน อเบอร์ดีน อินเดีย โกรท ฟันด์ จึงเป็นการลงทุนที่ดีในระยะยาว" นายชัยเกษม กล่าว