อเบอร์ดีน บุกตลาดหุ้นอินเดีย เปิดตัว "กองทุน อเบอร์ดีน อินเดีย โกรท ฟันด์ (ABIG)" เน้นลงทุนหุ้นบริษัทแข็งแกร่ง ระบุ ศก. อินเดียยังทะยานตัวจากปัจจัยพื้นฐานที่ดี คาดโตได้อีก 8-10% ในอีก 2-3 ปี ขณะที่ดอกเบี้ยมีแนวโน้มปรับขึ้นอีกจากอัตราเงินเฟ้อ
นาย เอเดรียน ลิม ผู้จัดการกองทุนอาวุโส ทีมตราทุนเอเชียแปซิฟิก อเบอร์ดีน แอสเซสแมนเนทเม้นสิงคโปร์ กล่าวว่า อินเดียมีเศรษฐกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นมหาอํานาจทางเศรษฐกิจใหม่ และเป็นประเทศที่กําลังผงาดสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจโลก ด้วยจํานวนประชากรมหาศาล กําลังแรงงานที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยมีการขยายตัวของกลุ่มคนชั้นกลาง ส่งผลให้มีอุปสงค์ของสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงสินค้าและบริการต่างๆ เพิ่มสูงขึ้น
หากพิจารณาในแง่ของตลาดหุ้น ตลาดหุ้นของอินเดียมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสี่ของเอเชีย และให้โอกาสการลงทุนที่หลากหลายในทุกภาคอุตสาหกรรม บริษัทของอินเดียมีการบริหารจัดการที่มีความสามารถสูงและมีความเข้าใจเรื่องบรรษัทภิบาลและสิทธิของผู้ถือหุ้น
ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งขับเคลื่อนโดยปัจจัยภายในประเทศของอินเดีย ช่วยให้อินเดียสามารถพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ รวมทั้งการออมเงินที่อยู่ในระดับสูง ขนาดประชากรที่เอื้ออํานวย และระบบธนาคารที่แข็งแกร่ง จะช่วยสนับสนุนอัตราการเติบโตที่ระดับ 8-10% ในอีกสองสามปีข้างหน้า ภาคการส่งออกที่เพิ่มขึ้นและบริโภคที่สูงขึ้น จะช่วยให้เกิดทางเลือกในการลงทุนมากขึ้น
นอกจากนี้การปฎิรูประบบตลาดยังสามารถดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ อีกทั้งการเป็ดเสรีเศรษฐกิจก็เป็นกลไกในการพัฒนาอุตสาหกรรมที่สําคัญของอินเดีย ตลอดจนการผ่อนคลายกฎระเบียบอย่างต่อเนื่องก็น่าจะยิ่งส่งเสริมการลงทุนและการแข่งขันจากต่างชาติอีกด้วย บริษัทส่วนใหญ่ของอินเดียมีความมั่นคงแข็งแกร่งทางการเงิน และมีอัตราการกู้ยืมค่อนข้างต่ำ การเติบโตอย่างแข็งแกร่งของรายได้ช่วยสนับสนุนให้บริษัทสามารถสร้างผลตอบแทนแก้ผู้ถือหุ้นได้อย่างน่าพอใจและต่อเนื่อง
“เราเน้นลงทุนในธุรกิจภาคการเงินที่สอดคล้องกับอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน และเน้นลงทุนในบริษัทที่ให้บริการระบบสารสนเทศที่จะได้รับอานิสงค์จากแนวโน้มการว่าจ้างของกลุ่มลูกค่าในประเทศพัฒนาแล้ว โดยบริษัทลงทุนในหุ้นประมาณ 30-35 ตัว ไม่ลงทุนตามดัชนี เราลงทุนเพียง 8 บริษัทที่อยู่ใน 20 บริษัทแรกของดัชนีตลาดหุ้น เน้นเลือกบริษัทที่มีระดับความเสี่ยงจากเศรษฐกิจในระดับต่ำ"นาย เอเดรียน ลิม กล่าว
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นอินเดียเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นไทยแล้ว ตลาดอินเดียมีการเติบโตที่สูงมาก แต่เนื่องจากเป็นตลาดเกิดใหม่ดังนั้นจึงมีความเสียงอยู่บ้าง เช่น การโยกย้ายเข้าออกของเงินทุนต่างประเทศ รวมทั้งปัญหาทางด้านการเมืองรวมถึงการก่อการร้าย ส่วนผลกระทบจากการประท้วงในตะวันออกกลางนั้น มองว่า เนื่องจากอินเดียยังมีการนำเข้าน้ำมัน ซึ่งหากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นจากการประท้วงดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจได้ แต่ในส่วนของกองทุนที่ลงทุนนั้น มีเพียงบริษัทเดวในพอร์ตที่ลงทุนในตะวันออกกลาง คงไม่ได้รับผลกระทบมาก
ส่วนความกังวลเรื่องเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น เป็นการเพิ่มขึ้นจากการเติบโตของเศรษฐกิจ และมีแนวโน้มว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก แต่เป็นโอกาสให้บริษัทต่างๆปรับราคาสินค้าให้เหมาะสมซึ่งส่งผลดีไปถึงกำไรของบริษัทที่เพิ่มขึ้น
ด้านนายอดิเทพ วรรณพฤกษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการลงทุน บลจ. อเบอร์ดีน ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่าเศรษฐกิจของอินเดียมีความแข็งแกร่ง โดยตลาดหุ้นอินเดีย กลับมาแตะที่ระดับเดียวกันกับช่วงก่อนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ โดยมีนักลงทุนต่างชาติเข้าลงทุนอย่างหนาแน่น ทั้งนี้ตลาดหุ้นอินเดียมีโอกาสถูกขายกําไรในระยะสั้น ซึ่งก็นับว่าเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าลงทุนเพื่อคาดหวังผลตอบแทนในระยะยาว แรงสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจอินเดียมาจากการไม่ได้พึ่งพาการส่งออกมากนัก แต่มาจากอุปสงค์ในประเทศที่มีเสถียรภาพ ซึ่งทําให้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกไม่รุนแรง
สำหรับกองทุนเปิด อเบอร์ดีน อินเดีย โกรท ฟันด์ เริ่มเสนอขายครั้งแรกระหว่าง วันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 14 มีนาคม 2554 พร้อมเสนอโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะช่วงเสนอขายครั้งแรก สําหรับการลงทุนทุกๆ 1 ล้านบาท รับบัตรกํานัลเซ็นทรัลมูลค่า 1,500 บาท หรือ หน่วยลงทุกองทุนเปิด อเบอร์ดีน แคช ครีเอชั่น (ABCC) เป็นไปตามเงื่อนไข นอกจากนี้ค่าธรรมเนียมการขายหน่วยลงทุนคิดในอัตรา 1.00% (หลังจากช่วงเสนอขายครั้งแรก ค่าธรรมเนียมการขายหน่วยลงทุนคิดในอัตรา 1.50%)