ASTVผู้จัดการรายวัน-“พาณิชย์” เบรกข้าวถุงปรับขึ้นราคา เตรียมเรียกห้างค้าปลีกกล่อมเรื่องขึ้นค่าธรรมเนียม ขู่หากไม่เชื่อพร้อมใช้กฎหมายเข้าจัดการ
นายฉัตรชัย ชูแก้ว โฆษกกระทรวงพาณิชย์พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ยังไม่มีนโยบายให้สินค้าข้าวถุงปรับขึ้นราคา เนื่องจากจะส่งผลกระทบกับประชาชนมากเกินไป โดยล่าสุดรมว.พาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในเชิญผู้ประกอบการห้างค้าปลีกและผู้ประกอบการข้าวถุงมาหารือร่วมกัน เพื่อแก้ไขปัญหาการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในอัตราที่สูงเกินไป จนเป็นเหตุผลให้ผู้ประกอบการข้าวถุงใช้เป็นข้ออ้างในการปรับขึ้นราคาข้าวถุง 5-10% ในช่วงครึ่งปีหลัง เบื้องต้นกระทรวงฯ จะขอความร่วมมือให้ห้างค้าปลีกผ่อนปรนการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมต่างๆ ให้กับผู้ประกอบการข้าวถุง เพื่อไม่ให้ต้นทุนของผู้ประกอบการสูงขึ้นจนเกินไป
ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการห้างค้าปลีกยังเรียกเก็บค่าธรรมเนียมต่างๆ อาทิ ค่าธรรมเนียมแรกเข้า ค่าส่วนลด ค่าส่งเสริมการขาย อย่างไม่เป็นธรรม อาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2542 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 ปี ปรับไม่เกิน 3 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งจะใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการ
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ขณะนี้ราคาข้าวเปลือกในตลาดยังทรงตัว ไม่ได้มีแนวโน้มปรับขึ้นมาก จึงไม่ใช่ข้ออ้างที่ผู้ประกอบการข้าวถุงจะปรับขึ้นราคา เพราะต้นทุนข้าวสารถือว่าเป็นต้นทุนหลักในการทำสินค้าข้าวถุง เมื่อต้นทุนหลักไม่ปรับขึ้น ราคาขายปลีกข้าวถุงก็ไม่ควรขึ้นตาม ส่วนต้นทุนที่เกิดจากค่าใช้จ่ายจากค่าธรรมเนียมต่างๆ ผ่านช่องทางห้างค้าปลีกนั้น ถือเป็นค่าบริหารจัดการที่สามารถบริหารได้ ดังนั้น จะให้กรมการค้าภายในไปเจรจากับห้างค้าปลีก เพื่อขอลดต้นทุนในส่วนนี้ เพราะจากการศึกษาโครงสร้างต้นทุนด้านบริหารจัดการของห้างค้าปลีกพบว่า การปรับขึ้นค่าแรงงานยังไม่ใช่ปัจจัยที่ห้างค้าปลีกจะนำมาเป็นเหตุผลของการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมกับผู้ประกอบการ
ก่อนหน้านี้ ผู้ประกอบการข้าวถุงอ้างถึงความจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาขายปลีกสินค้าในช่วงครึ่งปีหลังประมาณ 5-10% เนื่องจากต้นทุนการผลิตข้าวถุงสูงขึ้น โดยเฉพาะการถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมต่างๆ จากห้างค้าปลีกสมัยใหม่ ซึ่งล่าสุดห้างค้าปลีกขอเพิ่มค่าธรรมเนียมสินค้าข้าวถุงปีนี้จาก 5-10% เป็น 10-15% จึงต้องการให้กรมการค้าภายในเจรจากับห้างค้าปลีกถึงการกำหนดหลักเกณฑ์คำนวณอัตราจัดเก็บค่าธรรมเนียมที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพราะเรื่องค่าธรรมเนียมเป็นปัญหามาตลอดระหว่างห้างค้าปลีกและกับผู้ประกอบการข้าวถุง
นายฉัตรชัย ชูแก้ว โฆษกกระทรวงพาณิชย์พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ยังไม่มีนโยบายให้สินค้าข้าวถุงปรับขึ้นราคา เนื่องจากจะส่งผลกระทบกับประชาชนมากเกินไป โดยล่าสุดรมว.พาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในเชิญผู้ประกอบการห้างค้าปลีกและผู้ประกอบการข้าวถุงมาหารือร่วมกัน เพื่อแก้ไขปัญหาการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในอัตราที่สูงเกินไป จนเป็นเหตุผลให้ผู้ประกอบการข้าวถุงใช้เป็นข้ออ้างในการปรับขึ้นราคาข้าวถุง 5-10% ในช่วงครึ่งปีหลัง เบื้องต้นกระทรวงฯ จะขอความร่วมมือให้ห้างค้าปลีกผ่อนปรนการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมต่างๆ ให้กับผู้ประกอบการข้าวถุง เพื่อไม่ให้ต้นทุนของผู้ประกอบการสูงขึ้นจนเกินไป
ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการห้างค้าปลีกยังเรียกเก็บค่าธรรมเนียมต่างๆ อาทิ ค่าธรรมเนียมแรกเข้า ค่าส่วนลด ค่าส่งเสริมการขาย อย่างไม่เป็นธรรม อาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2542 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 ปี ปรับไม่เกิน 3 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งจะใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการ
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ขณะนี้ราคาข้าวเปลือกในตลาดยังทรงตัว ไม่ได้มีแนวโน้มปรับขึ้นมาก จึงไม่ใช่ข้ออ้างที่ผู้ประกอบการข้าวถุงจะปรับขึ้นราคา เพราะต้นทุนข้าวสารถือว่าเป็นต้นทุนหลักในการทำสินค้าข้าวถุง เมื่อต้นทุนหลักไม่ปรับขึ้น ราคาขายปลีกข้าวถุงก็ไม่ควรขึ้นตาม ส่วนต้นทุนที่เกิดจากค่าใช้จ่ายจากค่าธรรมเนียมต่างๆ ผ่านช่องทางห้างค้าปลีกนั้น ถือเป็นค่าบริหารจัดการที่สามารถบริหารได้ ดังนั้น จะให้กรมการค้าภายในไปเจรจากับห้างค้าปลีก เพื่อขอลดต้นทุนในส่วนนี้ เพราะจากการศึกษาโครงสร้างต้นทุนด้านบริหารจัดการของห้างค้าปลีกพบว่า การปรับขึ้นค่าแรงงานยังไม่ใช่ปัจจัยที่ห้างค้าปลีกจะนำมาเป็นเหตุผลของการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมกับผู้ประกอบการ
ก่อนหน้านี้ ผู้ประกอบการข้าวถุงอ้างถึงความจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาขายปลีกสินค้าในช่วงครึ่งปีหลังประมาณ 5-10% เนื่องจากต้นทุนการผลิตข้าวถุงสูงขึ้น โดยเฉพาะการถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมต่างๆ จากห้างค้าปลีกสมัยใหม่ ซึ่งล่าสุดห้างค้าปลีกขอเพิ่มค่าธรรมเนียมสินค้าข้าวถุงปีนี้จาก 5-10% เป็น 10-15% จึงต้องการให้กรมการค้าภายในเจรจากับห้างค้าปลีกถึงการกำหนดหลักเกณฑ์คำนวณอัตราจัดเก็บค่าธรรมเนียมที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพราะเรื่องค่าธรรมเนียมเป็นปัญหามาตลอดระหว่างห้างค้าปลีกและกับผู้ประกอบการข้าวถุง
