xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์”ชงดึงเงินกองทุนจ่ายชดเชย เพิ่มแรงจูงใจโรงงานบรรจุน้ำตาลถุง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-“พาณิชย์”เล็งดึงเงินกองทุนอ้อยฯ 1,500 ล้าน จ่ายชดเชยให้โรงงานน้ำตาล เพิ่มแรงจูงใจผลิตน้ำตาลบรรจุถุง หลังผู้ผลิตอ้างขาดทุนแล้วไม่ยอมทำออกขาย พร้อมตั้งคณะทำงานศึกษาเก็บค่าธรรมเนียมส่งออกน้ำตาลทราย สกัดไหลออกนอกประเทศ นัดห้างถกแก้ปัญหาขาดแคลนวันนี้

นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับตัวแทนจากกระทรวงอุตสาหกรรม และโรงงานผลิตน้ำตาลทราย เพื่อแก้ปัญหาน้ำตาลทรายบรรจุถุงขนาด 1 กิโลกรัม (ก.ก.) ขาดแคลน วานนี้ (24 มี.ค.) ว่า ได้เสนอให้ที่ประชุมพิจารณาการนำเงินจากกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย มาจ่ายชดเชยให้กับโรงงานน้ำตาลทราย เพื่อให้หันมาผลิตน้ำตาลถุงมากขึ้น เป็นการแก้ปัญหาหลังจากที่กระทรวงพาณิชย์ไม่อนุมัติให้โรงงานน้ำตาลทรายปรับขึ้นค่าถุงและค่าบรรจุถุงจาก 75 สตางค์ เป็น 1.40 บาท เพราะหากอนุมัติให้ก็จะทำให้ราคาน้ำตาลทรายปรับตัวเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ การที่คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ได้เพิ่มปริมาณน้ำตาลโคว ก. (บริโภคในประเทศ) จากเดิม 22 ล้านกระสอบ เป็น 25 ล้านกระสอบ โดยส่วนที่เพิ่ม 3 ล้านกระสอบ จะทำให้มีเงินไหลเข้ากองทุนฯประมาณ 1,500 ล้านบาท หากนำมาจ่ายชดเชยให้โรงงาน 700-800 ล้านบาท กองทุนฯ ก็ยังมีเงินเหลือใช้นี้ เพราะปีนี้คาดว่าจะเก็บเงินเข้ากองทุนฯ ได้ประมาณ 12,500 ล้านบาท โดยมียอดหนี้คงเหลือเพียง 7,000
ล้านบาท

“เป็นแนวทางที่ทำได้ เพราะกองทุนฯ ได้เงินที่ประชาชนจ่ายเพื่อซื้อน้ำตาลทราย ก.ก.ละ 5 บาท เพื่อนำเงินสบทบเข้ากองทุนฯ ช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกอ้อย แต่เมื่อประชาชนเดือนร้อน กองทุนฯ นี้ก็น่าจะช่วยเหลือประชาชนบ้าง แต่หากช่วยไม่ได้ เพราะผิดวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ ก็ต้องขอแก้ไขมติครม.เพื่อขยายขอบเขตความช่วยเหลือของกองทุน จากเดิมที่ช่วยเหลือเฉพาะเกษตรกร
เป็นช่วยเหลือประชาชนด้วย ซึ่งจะต้องหารือกับรมว.อุตสาหกรรมก่อน แล้วจึงนำผลหารือเสนอให้ครม.พิจารณาอนุมัติต่อไป”นางพรทิวากล่าว

นางพรทิวากล่าวว่า ได้ขอความร่วมมือให้โรงงานน้ำตาลทราย 4 แห่งที่ผลิตแบบถุง เพิ่มกำลังการผลิตให้มากขึ้น รวมทั้งส่งข้อมูลการผลิตต่อเดือน และปริมาณการขายมาให้กรมการค้าภายในด้วย หากพบว่า ทั้ง 4 แห่ง ไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ จะหาโรงงานอื่นมาผลิตแทน โดยปัจจุบัน น้ำตาลทรายโควตา ก. 25 ล้านกระสอบ แบ่งเป็นใช้ในภาคอุตสาหกรรม 75% ที่เหลือ 25% ใช้ในภาคครัวเรือน โดยปัจจุบัน มีความต้องการบริโภคน้ำตาลทรายในภาคครัวเรือนประมาณ 6 ล้านกระสอบ หรือประมาณ 600 ล้านก.ก.

นอกจากนี้ ยังได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด มีตัวแทนจากกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ โรงงานน้ำตาลทราย เป็นต้น เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของการเก็บค่าธรรมเนียมส่งออกน้ำตาลทรายโควตา ค. (ส่งออก) จากปัจจุบันที่ไม่มีการเก็บ เพื่อนำเงินที่ได้มาสมทบเข้ากองทุนฯ และทำให้ราคาส่งออก และราคาขายในประเทศไม่แตกต่างกันมากนัก เพื่อป้องกันน้ำตาลไหลออกนอกประเทศ จนเกิดปัญหาขาดแคลนในประเทศ

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 25 มี.ค.นี้ จะหารือกับห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ เพื่อแก้ปัญหาน้ำตาลทรายถุงในห้างขาดแคลนด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น