xs
xsm
sm
md
lg

ส่งซิกรัฐบาลใหม่เลิกอุ้มน้ำมันดีเซล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-นักวิชาการรุมอัดนโยบายตรึงดีเซลได้ไม่คุ้มเสีย ส่งสัญญาณรัฐบาลใหม่ไม่ควรซ้ำรอยเดิม เตือน 3-4 ปี ราคาน้ำมันอาจพุ่งถึง 200 เหรียญสหรัฐ ธปท.แนะทยอยยกเลิกอุดหนุน เหตุกดเงินเฟ้อแค่ระยะสั้น หากอุ้มยาว น้ำมันโลกไม่ลด จะเกิดผลเสียต่อเศรษฐกิจรุนแรง
นายมนูญ ศิริวรรณ นักวิชาการอิสระด้านพลังงาน เปิดเผยในงานเสวนานโยบายเศรษฐกิจพลังงานเพื่อสังคมประจำปีเรื่อง “นโยบายราคาพลังงานของประเทศที่ยั่งยืน”ที่จัดโดยมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ว่า อีก 3-4 ปีราคาน้ำมันยังคงอยู่ในอัตราสูงและอาจเห็นระดับที่ 200-250 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลได้ เนื่องจากพลังงานจากฟอสซิลจะทยอยหมดลงและหายากขึ้น การแก้ไขด้วยการตรึงราคาของรัฐบาลเป็นการแก้ไขทางการเมืองมากกว่าเศรษฐกิจ ทำให้คนไทยเสพติดจนหนีไม่หลุดจากวงจรดังกล่าวและรัฐบาลใหม่มาก็อาจหนีไม่พ้นที่จะต้องเดินตาม
นายทรงธรรม ปิ่นโต ผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า รัฐบาลควรจะทยอยลดการอุดหนุนลงเพื่อไม่ให้กลไกตลาดถูกบิดเบือนไปมากกว่านี้และไม่เป็นภาระกับประชาชนในวันข้างหน้า เพราะหากฝืนตรึงราคาหากราคาน้ำมันโลกแพงขึ้นอีกที่สุดอั้นไม่อยู่จะทำให้ราคาน้ำมันและสินค้าสูงขึ้นอย่างรวดเร็วอาจส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจที่รุนแรงกว่าได้ ดังนั้น รัฐบาลควรจะนำเงินที่จะใช้ในการอุดหนุนไปพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศให้มีประสิทธิภาพดีกว่า เพราะต้นทุนด้านระบบโลจิสติกส์ของไทยคิดเป็น 17%ของจีดีพีประเทศ
“ยอมรับว่าการที่รัฐบาลประกาศยุบสภาในช่วงนี้จะทำให้การพิจารณางบประมาณล่าช้าออกไปอีกประมาณ 3-4 เดือน แต่ในภาพรวมแล้วยังถือว่าไม่กระทบมากนัก”นายทรงธรรมกล่าว
นายพรายพล คุ้มทรัพย์ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า รัฐบาลได้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและลดภาษีสรรพสามิตในการตรึงดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ซึ่งการตรึงราคาอาจบรรเทาเงินเฟ้อแต่จะทำให้การใช้ไม่ประหยัด และราคาที่ต่างกันก็จะทำให้เกิดการลักลอบถ่ายเทไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ดังนั้น ควรสร้างสมดุลโครงสร้างการใช้และการกลั่นให้ราคาขายปลีกไม่ต่างกันเกิน 2 บาทต่อลิตร ระหว่างเบนซินกับดีเซล และระหว่างเอ็นจีวีกับแอลพีจี
กำลังโหลดความคิดเห็น