xs
xsm
sm
md
lg

ดึงเบนซินอุ้มดีเซล ยันไม่ลดภาษี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- รัฐบาลเดินหน้าหาเสียงโค้งสุดท้ายดึงเงินคนใช้เบนซินอุ้มดีเซลไม่ให้เกินลิตรละ 30 บาทถึงสิ้นเม.ย. ลั่นฐานะกองทุนฯดูแลได้ไม่ต้องกู้ ไม่ต้องลดภาษีถึงสิ้นเม.ย.ค่อยว่ากัน แจงตัวเลขฐานะกองทุนน้ำมันมั่วไปคนละทางหวังโยนภาระไปข้างหน้า จับตาส่อเค้าควักอุ้มต่อวันนี้อีก 30 สตางค์ต่อลิตรหลังน้ำมันยังทะยานต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้(7มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้หารือร่วมกับ นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานถึงการประเมินฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงว่าจะดูแลตรึงดีเซลไม่ให้เกิน 30

บาทต่อลิตรตามนโยบายถึงสิ้นเม.ย.นี้หรือไม่โดยหารือกันแล้วช่วงเช้าและหลังจากนั้นได้หารืออีกครั้งช่วงเวลา 12.00 น.

น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงานกล่าวหลังหารือนายกฯเวลา 13.45 น.วันเดียวกันว่า ที่ประชุมยืนยันจะตรึงราคาดีเซลถึงสิ้นเม.ย.นี้โดยพิจารณาจากฐานะกองทุนน้ำมันฯที่มีอยู่ 2.1 หมื่นล้านบาทที่จะไม่ติดลบและไม่ต้องกู้ยืมเงินและไม่จำเป็นต้องลดภาษีสรรพสามิตด้วย

นายกรณ์ จาติกวณิชย์ รมว.คลัง กล่าวว่า ฐานะกองทุนน้ำมันฯยังดูแลดีเซลได้ถึงสิ้นเม.ย.ตามนโยบาย เพราะพบว่าปัจจุบันมีเงินคงเหลือ 3.5 หมื่นล้านบาท และมีภาระผูกพัน 1.4 หมื่นล้านบาท เมื่อหักภาระผูกพันดังกล่าวแล้ว จะมีกระแสเงินสดเหลือ 2 หมื่นล้านบาทซึ่งน่าจะชดเชยได้ถึงก.ค.ด้วยซ้ำจึงจะติดลบส่วนการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลนั้น ที่ประชุมได้หารือกันแล้วเห็นว่ายังไม่มีความจำเป็นในขณะนี้ และต้องพิจารณารอบคอบเพราะการปรับลดภาษีน้ำมันดีเซลลิตรละ 1 บาท จะกระทบต่อรายได้รัฐบาลคิดเป็นเงินปีละ 1.9 หมื่นล้านบาท และเมื่อพิจารณาเปรียบเทียบอัตราภาษีสรรพสามิตต่อราคาน้ำมันในขณะนี้ไม่ถือว่าสูง เพราะในอดีตอัตราภาษีอยู่ที่ 30% ของราคาน้ำมัน แต่ปัจจุบันอยู่ที่ 18%ของราคาน้ำมัน ส่วนการกู้เงินก็ยังไม่มีความจำเป็นเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงเช้าน.พ.วรรณรัตน์ให้สัมภาษณ์ว่า หากยังตรึงราคาดีเซลที่ 5 บาทต่อลิตรฐานะกองทุนน้ำมันน่าจะตรึงได้ถึงกลางเม.ย.ซึ่งต่างจากช่วงบ่ายเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าฐานะกองทุนฯได้พิจารณาการหักหนี้ที่ค้างบมจ.ปตท.เรื่องอุดหนุนเอ็นจีวี 7,500 ล้านบาทและภาระการอุดหนุนเอ็นจีวีและแอลพีจีถึงสิ้นเดือนมิ.ย. 7,000ล้านบาทมาคำนวณหรือไม่เพราะหากคำนวณฐานะกองทุนฯจะติดลบและหมายถึงรัฐบาลใหม่ต้องมีภาระหาเงินมาใช้หนี้แทน รมว.พลังงานกล่าวว่า ไม่ขอตอบเดี๋ยวจะทำให้ประชาชนสับสน ขณะที่ตัวเลขฐานะกองทุนน้ำมันที่คลังระบุเป็นตัวเลขจากเว็บไซต์ที่อิงฐานะกองทุนสุทธิเมื่อวันที่ 28 ก.พ.2554

นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำมันกล่าวว่า เมื่อนโยบายรัฐกำหนดการตรึงดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตรเพราะต้องการหาเสียงก็ควรจะลดภาษีสรรพสามิตดีเซลลงมาช่วยบ้างเพราะเป็นวิธีตรงสุดไม่เอาเปรียบใคร เนื่องจากการนำเงินกองทุนน้ำมันฯมาตรึงดีเซลเป็นการเอาเปรียบผู้ใช้เบนซินและแก๊สโซฮอล์ที่ขณะนี้ต้องอุ้มดีเซลแล้วถึงลิตรละ 5 บาทขณะที่รัฐบาลกลับไม่ได้ช่วยให้ราคาสินค้าลดลงแต่อย่างใด

“ การเข้าไปอุ้มดีเซล 5 บาทต่อลิตรมองว่าเกินพอแล้วเพราะคนใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเสียเปรียบที่เจอทั้งน้ำมันตลาดโลกเพิ่มแล้วยังโดนเก็บเงินเข้ากองทุนฯอัตราสูงเพื่อไปอุ้มคนใช้ดีเซล ขณะที่รัฐบอกว่าที่ตรึงดีเซลเพื่อดูแลราคาสินค้าต้องย้อนถามว่าแล้วคุมได้ไหม คิดว่าที่สุดควรจะขยับเพดานดีเซลและลดภาษีสรรพสามิตหากน้ำมันโลกยังไม่มีวี่แววจะจบง่าย”นายมนูญกล่าว

**คาดควักอุดเงินหนุนอีก30สตางค์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีแนวโน้มว่าในวันที่ 8 มี.ค.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.)ที่มี นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูลเป็นประธาน เพื่ออนุมัติเงินอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซล ให้ผู้ค้าน้ำมันเพิ่มขึ้นอีก30สตางค์(สต)ต่อลิตร ซึ่งจะทำให้กองทุนน้ำมัน ต้องใช้เงินเข้าไปอุดหนุนราคาขายปลีกรวมเป็น5.30บาท เนื่องจาก ณ วันที่7มี.ค.ที่ผ่านมา ค่าการตลาดของผู้น้ำมันดีเซลลดต่ำเหลือเพียง 1.14บาทต่อลิตร

ทั้งนี้การปรับเพิ่มวงเงินอุดหนุนดังกล่าว จะทำให้วงเงินอุดหนุนของกองทุนน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็นวันละ316ล้านบาท จากปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลของประเทศไทยวันละ 53ล้านลิตร ซึ่งจะทำให้มีเงินสดเหลือสำหรับการใช้ตรึงราคาน้ำมันดีเซลอีกเพียง22วัน หรือตรึงราคาได้ไปจนถึงวันที่30มี.ค.นี้เท่านั้น
โดยสถานะของเงินในกองทุนน้ำมันล่าสุด ณ วันที่7มี.ค.เหลือเพียง6,925 ล้านบาท โดยมีเงินไหลเข้าจากการเก็บเงินจากน้ำมันเบนซิน วันละ90 ล้านบาท และมีเงินไหลออกจากการตรึงราคาน้ำมันดีเซลวันละ385ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น