ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับพรรคการเมืองใหม่ สะท้อนว่า ในช่วงการชุมนุมขับไล่ “ระบอบทักษิณ” ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น มีนักเลือกตั้ง เข้ามาห้อยโหนการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ หลายกลุ่มด้วยกัน
นอกจากกลุ่มศักดินาและพรรคประชาธิปัตย์ที่เข้ามาห้อยโหนเมี่อปี 2549 และช่วงการชุมนุม 193 วันแล้ว ยังมีนักเลือกตั้งท้องถิ่นและนักเลือกตั้งหน้าใหม่ที่แฝงตัวเข้ามา และได้เปิดเผยธาตุแท้ตัวเองอย่างล่อนจ้อน ในพรรคการเมืองใหม่ซีกที่ต้องการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งที่จะถึงนี้
เป็นที่ยอมรับกันตั้งแต่ต้นแล้วว่า พรรคการเมืองใหม่นั้นได้รับการก่อตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องมือของพันธมิตรฯ ที่จะสร้างการเมืองระบบใหม่ ที่ประกอบไปด้วยนักการเมืองที่เสียสละ ซื่อสัตย์ กล้าหาญ และทำงานเป็น
แต่ในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นหลังการยุบสภาครั้งนี้ พันธมิตรฯ มองเห็นแล้วว่า การส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งจะไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่าการถูกกลืนเข้าไปอยู่ในระบบการเมืองน้ำเน่าที่เต็มไปด้วยการเมืองประเภทที่เรียกว่า “สัตว์นรก” ที่ใช้สารพัดวิธีฉ้อฉลเพื่อเข้าสู่อำนาจรัฐแล้วกระทำการทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง
การไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง ส.ส.นั้น เป็นความเห็นร่วมกันของ 5 แกนนำพันธมิตรฯ ซึ่งรวมถึงนายสมศักดิ์ โกศัยสุข 1 ใน 5 แกนนำ ที่ไปเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ด้วย และสำทับด้วยมติที่ประชุมของคณะกรรมการปกป้องราชอาณาจักร 17 คน ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่กำหนดทิศทางการชุมนุมคัดค้านการเสียดินแดนให้กัมพูชาอยู่ในขณะนี้ ที่จะรณรงค์ให้ประชาชนกาช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน หรือ โหวตโน เพื่อแสดงออกถึงการไม่ยอมรับนักการเมืองทุกพรรคที่มีอยู่ในขณะนี้ เพราะไม่ว่าพรรคการเมืองใดก็ล้วนโกงชาติและขายแผ่นดินทั้งสิ้น
นอกจากนี้ ที่ประชุมใหญ่ประจำปีของสมาชิกพรรคการเมืองใหม่วันที่ 24 เมษายน สมาชิกพรรคกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ มีความเห็นว่าไม่ควรส่งผู้สมัคร และให้ร่วมกับพันธมิตรฯ ในการรณรงค์โหวตโน แต่นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ก็อ้างว่า ต้องนำไปขอมติจากคณะกรรมการบริหารพรรคก่อน
ในการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่เมื่อวันที่ 29 เมษายน ก็มีความยายามของกรรมการบริหารพรรคซีกที่ต้องการส่งผู้สมัครในการชี้นำให้กรรมการบริหารพรรคทั้งหมดมีมติให้ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง มีการนำกรรมการสาขาพรรคจากต่างจังหวัดที่เห็นด้วยกับการส่งผู้สมัคร มาร่วมประชุมจำนวนมาก ขณะเดียวกันก็ส่งชายฉกกรรจ์มาขวางประตูไม่ให้สมาชิกพรรคสายพันธมิตรฯ เข้าไปสังเกตการประชุม ซึ่งในการซาวด์เสียงก่อนที่จะลงมตินั้น ปรากฏว่า กรรมการบริหารฝ่ายที่เห็นว่าไม่ควรส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง นำโดยนายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคฯ มีมากกว่า คือ 11 ต่อ 9 เสียง ทำให้นายสมศักดิ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคสั่งให้เลื่อนการลงมติไปก่อน
อย่างไรก็ตาม นักเลือกตั้งในพรรคการเมืองใหม่ นำโดยนายสมศักดิ์ โกศัยสุข พยายามให้ข่าวกับสื่อมวลชนว่า คณะกรรมการบริหารพรรคมีมติให้ส่งผู้สมัครไปแล้วตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม และได้กล่าวหาว่า 4 แกนนำพันธมิตรฯ บิดเบือนความจริง
จนนายสุริยะใส กตะศิลา พร้อมกรรมการบริหารพรรคฝ่ายที่ไม่ต้องการส่งผู้สมัครต้องออกแถลงการณ์ในนาม 10 กรรมการบริหารฯ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ยืนยันว่า พรรคการเมืองใหม่ยังไม่เคยมีมติเรื่องการส่งหรือไม่ส่งผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้า ส่วนการประชุมในวันที่ 22 มีนาคม 2554 ไม่ใช่เป็นมติของพรรค เป็นเพียงการเชิญผู้แทนศูนย์และสาขาของพรรคมาสอบถามความคิดเห็นเรื่องพรรคควรจะส่งผู้สมัครหรือไม่ ซึ่งความคิดเห็นส่วนใหญ่เห็นว่า พรรคควรส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งแต่มีข้อแม้ว่า ต้องรับฟังความคิดเห็นในที่ประชุมใหญ่ประจำปีของสมาชิกพรรคในวันที่ 24 เมษายนก่อน
ส่วนในการประชุมกรรมการบริหารพรรคการเมืองใหญ่ในวันที่ 29 เมษายน มีการหยิบยกเรื่องนี้เข้าพิจารณาเป็นลำดับแรก การประชุมไม่สามารถหาข้อยุติเรื่องการส่งผู้สมัคร ส.ส. หรือไม่ เนื่องจากเกิดเหตุการณ์การโต้เถียงของสมาชิกพรรคที่เห็นต่างนอกห้องประชุม หัวหน้าพรรคซึ่งเป็นประธานการประชุม สั่งปิดประชุมโดยไม่มีการลงมติใดๆ ทั้งสิ้น และยืนยันว่า กรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่ 10 คน จะดำรงไว้ซึ่งสิทธิ์ของสมาชิกตามมติของที่ประชุมใหญ่ เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2554 และพร้อมที่จะรับผิดชอบต่อการตัดสินใจครั้งนี้
ทั้งนี้ เหตุผลหลักของคณะกรรมการบริหารพรรคที่เห็นว่าควรงดส่งผู้สมัครในครั้งนี้ เพราะตระหนักดีว่าที่มาของพรรคการเมืองใหม่มาจากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ดังนั้นเมื่อสมาชิกพรรคที่มาร่วมประชุมใหญ่สามัญประจำปีเห็นว่า ควรงดส่งผู้สมัครก็ควรรับฟังความเห็นดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังไม่อยากเห็นความขัดแย้งความแตกแยกของพี่น้องประชาชนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในทุกส่วนบานปลายขยายวง เพราะการตัดสินใจส่งผู้สมัครของพรรคการเมืองใหม่
แถลงการณ์ในนาม 10 กรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่น่าจะให้ความกระจ่างต่อสังคมได้เป็นอย่างดี แต่แล้วนายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ กลับออกแถลงการณ์ผ่านทางหน้าเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ว่าการออกแถลงการณ์ของ 10 กรรมการบริหารรพรรคฯ เป็นการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎข้อบังคับและกฎหมายประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550
นอกจากนั้น ยังอ้างว่า คำแถลงดังกล่าว เป็นการบิดเบือนเจตจำนงของกฎหมายและนโยบายของพรรค ที่ดำเนินการตามขั้นตอน ตามมติกรรมการบริหาร และกรรมการสาขา กรรมการศูนย์ ฯลฯ ทั่วประเทศมาเป็นเวลาปีเศษ มีคนบางคนสมคบกับกรรมการบางคนได้ร่วมกันทำการกลั่นแกล้งพรรคการเมืองใหม่ และกลั่นแกล้งกรรมการบริหารพรรค การกระทำดังกล่าว เป็นการฝ่าฝืนวินัย และจรรยาบรรณของสมาชิกพรรค และกรรมการสาขาพรรค และยังเป็นการฝ่าฝืน มาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550 พรรคจึงขอประกาศว่าจะดำเนินการตามกฎหมายจนถึงที่สุด
เห็นได้ชัดเจนว่า คำแถลงของนายสมศักดิ์ เป็นการดิ้นเฮือกสุดท้าย ของกลุ่มนักเลือกตั้งที่แฝงเข้ามาห้อยโหนการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเอง ก่อนที่จะลงเลือกตั้ง เหตุผลที่นายสมศักดิ์เอามาอ้างและขู่จะดำเนินการทางกฎหมายต่อนายสุริยะใสนั้น ล้วนแต่เป็นเหตุผลที่เลื่อนลอย ข้างๆ คูๆ เพราะข้อเท็จจริงนั้นปรากฏชัดอยู่แล้วว่า สมาชิกพรรคการเมืองใหม่ส่วนใหญ่ต้องการเช่นไร และกรรมการบริหารพรรคส่วนใหญ่มีความเห็นเป็นอย่างไร