แกนนำพันธมิตรฯ ชี้ มติ กก.บห.พรรคการเมืองใหม่ เสียงส่วนใหญ่ ค้านส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง ถือว่ามีจิตวิญญาณที่เคยได้ร่วมต่อสู้มากับภาคประชาชน ย้ำ ไม่ใช่คำสั่งเถ้าแก่ สับ “แก้วสรร” หันมองโพล โหวตโนเอ็มเอสเอ็น สะท้อนแนวคิด ปชช.เบื่อนักการเมืองประเภทอัปรีย์ไปจัญไรมา เชื่อ รณรงค์โหวตโน ถูกยกระดับขึ้นสู่เวทีสาธารณะ ทำให้นักวิชาเกินและนักการเมืองน้ำเน่าต้องออกมาเต้นแร้งเต้นกา
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง "รวมพลังปกป้องแผ่นดิน" การเสวนา "ราชอาณาจักรไทยกำลังจะเสียดินแดน"
วันนี้ (3 พ.ค.) ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวบนเวทีเสวนารวมพลังปกป้องแผ่นดิน ถึงมติกรรมการบริหารเสียงส่วนใหญ่ของพรรคการเมืองใหม่ ที่ไม่เห็นด้วยกับการส่งผู้ลงสมัคร ส.ส.ทั้งอยู่ในระหว่างการแตกต่างทางความคิด ซึ่งถือเป็นกระบวนการตามระบอบประชาธิปไตย แต่ทั้งนี้ พรรคการเมืองใหม่เกิดขึ้นภายใต้การต่อสู้ของพันธมิตรฯ ซึ่งต้องรับฟังเสียงมวลของพันธมิตรฯ และมั่นใจว่า ในวันพรุ่งนี้ เสียงข้างน้อยอีก 8 คนที่เหลือจะต้องออกแถลงการณ์ เพราะนี่ไม่ใช่คำสั่งของเถ้าแก่ พรรคการเมืองใหม่กำลังอยู่ในช่วงทดสอบจิตวิญญาณ ที่อาจจะมีบางคนออกนอกลู่นอกทางไปบ้าง แต่เชื่อว่า สุดท้าย พรรคการเมืองใหม่ ต้องอยู่ภายใต้ความคิดของมวลชนพันธมิตรฯ
“ไม่อยากตอบโต้บทความของ นายแก้วสรร อติโพธิ นักกฎหมายและนักวิชาการหลายคน ที่ตั้งแง่ต่อการรณรงค์โหวตโนของการเมืองภาคประชาชนในการชุมนุมแห่งนี้ แต่เมื่อได้กรุณาเปิดเผยแนวคิดผ่านสื่อต่างๆ ที่ไม่เห็นด้วยต่อข้อเสนอโหวตโน ถือว่าบัดนี้มติของ คกก.ป้องกันราชอาณาจักรไทย ได้รับความสนใจในเวทีสาธารณะแล้ว ซึ่งถือว่าการเมืองภาคประชาชนได้สัมฤทธิ์ผลตามแนวทางการต่อสู้ของแกนนำพันธมิตรฯ ข้อเสนอโหวตโนที่ได้รับความสนใจจากนักวิชาการ หรือนักการเมือง ที่เกรงจะเสียผลประโยชน์และรีบออกมาตอบโต้ เต้นแร้งเต้นกา ต้องมองแง่กลับว่าเป็นผลดีในเชิงบวกตามระบอบประชาธิปไตย เพราะจะเป็นการกระตุ้นจิตสำนึกให้ประชาชนผู้ที่จะไปใช้สิทธิในการเลือกตั้งได้ฉุกคิด ไม่ใช่ข้อกล่าวอ้างที่เลื่อนลอยว่า เพื่อต้องการยึดอำนาจเพื่อกลุ่มพรรคพวกตัวเอง อย่าถามว่า การรณรงค์โหวตโน แล้วเสียงที่ได้จะนำไปอะไร แต่ต้องไปถามมวลชนซึ่งมีสิทธิ และออกไปใช้สิทธิในการเลือกตั้ง ดีกว่านอนหลับทับสิทธิ แต่จำนวนเสียงโหวตโนจะเป็นตัวสะท้อนว่าไม่ต้องการนักการเมืองประเภทอัปรีย์ไปจัญไรมา” นายพิภพ กล่าวและว่า
นายแก้วสรร ต้องหันกลับไปมองผลสำรวจของเว็บไซต์ เอ็มเอสเอ็น ในหัวข้อ “ถ้าเลือกตั้งวันนี้ คุณจะเลือกพรรคใด” ผลคะแนนปรากฏว่า 53% จะลงคะแนนในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนไปแล้วนั้น ขณะที่ พรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นตัวตั้งตัวตีที่ประกาศยุบสภา เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้ง คะแนนเสียงสนับสนุนยังน้อยกว่าพรรคเพื่อไทย และหากเสียงโหวตโนทะลุ 10 ล้านเสียง ต้องไปถามพลังมวลชนว่าเหตุใดจึงเลือกกาช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน