“จำลอง” เมิน “สมศักดิ์-สาวิทย์” ลาออกจากแกนนำ ลั่นในเมื่อจิตใจไม่ใช่พันธมิตรฯ ก็ออกไป พร้อมยันพันธมิตรฯ ไม่มีวันเปลี่ยนจุดยืน ชี้อยากไปเป็น ส.ส.ก็บอกมาตรงๆ อย่ามากล่าวหาร้ายแรงแบบนี้
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “พล.ต.จำลอง ศรีเมือง”
วันนี้ (29 เม.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 20.51 น. 4 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายพิภพ ธงไชย ได้ขึ้นเวทีพร้อมกันพร้อมกับร้องเพลง “เทียนแห่งธรรม”
โดย พล.ต.จำลองกล่าวว่า วันนี้เป็นวันค่อนข้างพิเศษที่มีเพลงเทียนแห่งธรรม แกนนำเคยขึ้นมา 5 คน ตอนนี้เหลือ 4 คน พี่น้องกลุ้มหรือไม่เหลือ 4 คน เหลือคนเดียวยังสู้เลย แล้วนี่เป็นแสนเป็นล้านไม่สู้ให้รู้ไป แล้วแต่ความสมัครใจ การมาเป็นพันธมิตรฯ ไม่มีใครบังคับ เป็นด้วยจิตใจ จิตใจเป็นพันธมิตรฯก็อยู่ ไม่ใช่พันธมิตรฯ ก็ไป
พล.ต.จำลองกล่าวถึงหนังสือลาออกจากแกนนำพันธมิตรฯ ของนายสมศักดิ์ โกศัยสุข และนายสาวิทย์ แก้วหวาน ว่า จะออกทั้งทีก็บอกมาสิว่าอยากไปเป็น ส.ส. พูดมาให้มันตรงความเข้าใจ มันน่าพิสมัยตรงไหนเป็น ส.ส.
ตนเคยเป็นรองนายกฯ ยังออกมาเลย เมื่อประชาธิปัตย์แบ่งที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ให้มหาเศรษฐี มันผิดกฏหมายชัดๆ และเศรษฐีบางคนก็เป็นสามีภรรยากับกรรมการบริหารประชาธิปัตย์ด้วยซ้ำ เห็นว่ามันผิดกฎหมายชัดเจน เป็นรองนายกฯ ยังถอนตัวเลย
แล้วอะไรกันนักหนาถึงต้องมาหาเรื่องว่าพันธมิตรฯ เปลี่ยนจุดยืน มันร้ายแรงมาก เพราะพันธมิตรฯออกมาปกป้องแผ่นดิน ถ้าเปลี่ยนจุดยืนคือขายชาติเลยนะ ไม่พูดออกมาชัดๆ อย่าว่าแต่เปลี่ยนจุดยืนเลย บางอย่างไม่ถูกไม่ควรก็ท้วงติงกัน อย่างที่เวทีนี้ วันที่ 2 เม.ย.ตอนเช้า 6 โมงครึ่ง มีการเปิดเพลง เนื้อร้องมีแต่คำว่าส้น... ตนก็บึ่งมอเตอร์ไซค์มาเลย ให้คนควบคุมเสียงเปลี่ยนเพลงเพราะมันหยาบ เห็นหรือไม่ ไม่ต้องถึงขนาดเปลี่ยนจุดยืนหรอก แค่นี้ก็ต้องท้วงติงกันแล้ว
พล.ต.จำลองกล่าวอีกว่า เวทีนี้เป็นเวทีความคิดอิสระ ไม่ใช่ใครขึ้นมาต้องสั่งให้พูดอย่างนั้นอย่างนี้ แต่จะผิดหลักการใหญ่ๆ ไม่ได้ เช่นเปลี่ยนจุดยืน เปลี่ยนไม่ได้อย่างแน่นอน เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องจริง ขอยืนยัน แม้กระทั่งคำว่าโหวตโน หรือลงในช่องไม่ประสงค์เลือกใคร ก็เป็นการดำรงไว้ซึ่งจุดยืนเดิมคือปกป้องแผ่นดิน เราพูดไปแล้วจนท่องขึ้นใจ ถ้าเป็นการเมืองเก่า ไม่ว่าใครจะเข้ามาปกครองประเทศก็ไม่สนใจเรื่องดินแดน เพื่อป้องกันดินแดนอย่างชัดเจน คือต้องเปลี่ยนระบบการเมือง ต้องปฎิรูปการเมือง โดยมีโหวตโนเป็นจุดประกาย เพราะฉะนั้นต้องดำรงคงมั่นด้วยจุดยืนเดิม
อีกประเด็นที่ไม่พูดออกมาชัดๆ พูดว่าพันธมิตรฯจะเปลี่ยนแปลงการปกครอง ไปสู่สิ่งที่ไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ
“แสดงว่าเราจะเปลี่ยนการปกครองให้มันไม่เข้าท่าอย่างนั้นเลยหรือ มันเป็นไปไม่ได้ พวกเราออกมาปกป้องการปกครองระบอบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เราทำเต็มที่ในการรักษาบ้านเมือง รักษาระบอบการปกครองไว้” พล.ต.จำลอง กล่าว
พล.ต.จำลองกล่าวอีกว่า ตนไม่มีองค์กรไหนส่งมาเป็นแกนนำ มันเป็นเรื่องส่วนตัว ก่อนตนออกมาได้เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงนายทักษิณ ว่าทำไม่ถูกเอาหุ้นขายให้เทมาเส็กโดยไม่เสียภาษี เมื่อไม่ยอมทำ ตนก็บอกว่าต้องออกมาต่อต้าน ตอนนั้นยังไม่มีการตั้งแกนนำพันธมิตรฯ พอออกมาแล้วคณะบอกว่าจะตั้งแกนนำ ก็มาเชิญตน จึงตกลง เพราะออกมาเพื่อต่อต้านนายทักษิณอยู่แล้ว
ตนอยู่ในองค์กรกองทัพธรรม กองทัพธรรมเป็นนิติบุคคล และมีตนเป็นประธาน ตั้งแต่ก่อตั้ง ถึงวันนี้ 10 กว่าปีแล้ว ออกมาก็ไม่ได้ชวนชาวกองทัพธรรมมาด้วย แต่พวกเขารู้ว่าตนออกมาทำสิ่งที่ถูกต้องเพื่อบ้านเมืองเขาก็ออกกันมาเต็ม ตนไม่ได้ต้องขออนุญาตกองทัพธรรมก่อนว่าจะมาเป็นแกนนำ เข้าใจเราผิดแล้วไม่มีองค์กรไหนส่งมา
ตนเห็นว่าการเป็นแกนนำไม่ได้ใหญ่โตเลย ที่จริงแล้วเป็นแกนตาม พูดอะไรก็ทำตาม บอกให้ตั้งพรรคก็ตั้ง อย่างนั้นพรรคการเมืองใหม่ต้องเป็นจำเลยด้วยนะ นี่คือสิ่งละอันพันละน้อยที่ออกมาพูด ถ้าขืนพูดตอบโต้หมดก็จะเสียเวลา
“ไม่เป็นไรหรอกถ้าไม่เห็นด้วย ถ้าเห็นด้วยก็เข้ามา และเราไม่วิตกทุกข์ร้อน คนเข้ามาเติมมากกว่าที่ออกไปเยอะแยะเลย ไม่งั้นอยู่ไม่ได้หรอกวันนี้ 95 วันแล้ว ถ้ามีแต่ออกไปอยู่ไม่ได้หรอก ขอให้มั่นใจเราทำสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง ไม่ใช่อยากไปเป็นโน่นเป็นนี่ เพื่อบ้านเมืองโดยแท้ เราตั้งหน้าตั้งตาเดินต่อไปเพื่อประเทศชาติอันเป็นที่รักยิ่งของเรา”