ASTVผู้จัดการรายวัน-ตร.หอบสำนวน แกนนำ พธม.บุกล้อมทำเนียบ-รัฐสภา 7 ต.ค.51 ส่งอัยการ ส่วน “สนธิ” ขอเลื่อนรอรายงาน ขณะที่อัยการนัดสั่งคดี 28 มิ.ย.นี้ ทนายเผย ยื่นขอความเป็นธรรมอัยการ ยกเหตุชุมนุมปกป้องรัฐธรรมนูญปี 50 และปกป้องดินแดน หลัง ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดอดีตรมว.ต่างประเทศ
วานนี้(28 เม.ย.)ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก พ.ต.อ.วีรวิทย์ จันทร์จำเริญ รองผบก.น.1 ในฐานะพนักงานสอบสวน บช.น.พร้อมคณะนำ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงาน พธม.นายอมร อมรรัตนานนท์ นายสาวิทย์ แก้วหวาน นายอำนาจ พละมี และ นางมาลีรัตน์ แก้วก่า เข้าพบนายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา เพื่อส่งมอบสำนวนพยานหลักฐาน และความเห็นสมควรสั่งฟ้อง 2 สำนวนที่กลุ่มพันธมิตรฯ ชุมนุมล้อมอาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ต.ค.51 และสำนวนคดีที่ชุมนุมปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล
ภายหลัง นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนนัดส่งตัวผู้ต้องหาสำนวนบุกทำเนียบและทำให้เสียทรัพย์ ที่มี นายพงษ์ศักดิ์ ศิริวงศ์ ผู้รับมอบอำนาจเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวหา พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, นายสนธิ ลิ้มทองกุล, นายสมศักดิ์ โกศัยสุข, นายพิภพ ธงไชย, นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำ พธม.และนายสุริยะใส ผู้ประสานงาน พธม.ขณะที่ นายสนธิ ไม่ได้เดินทางมา โดยขอเลื่อนนัดเข้าพบไปเป็นวันที่ 26 พ.ค.นี้ เนื่องจากเหตุไม่สบาย และห่วงปัญหาเรื่องความปลอดภัยด้วย
ส่วนสำนวนที่กล่าวหาบุกล้อมอาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ต.ค.51 นั้น มีผู้ต้องหารวม 24 คน ซึ่งพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง 3 คน ประกอบด้วย น.ส.กมลพร วรกุล ผู้ดำเนินรายการผู้จัดการเล่าข่าวเช้าบนเวทีปราศรัย พธม.นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย และรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ นายสาทิตย์ ปิตุเตชะ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ จึงเหลือผู้ต้องหาที่มีความเห็นสมควรสั่งฟ้องเพียง 21 คน ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ส่งตัวมาให้อัยการแล้ว 2 คน คือ นายสมบูรณ์ ทองบุราณ อดีต ส.ว.และ นายสุชาติ ศรีสังข์ อดีต ส.ส.มหาสารคาม ขณะที่ พนักงานสอบสวนได้นัดนำส่งผู้ต้องหาให้อัยการอีก 8 คน คือ นายพิภพ นายสมเกียรติ นายสมศักดิ์ นายสุริยะใส นายอมร นายสาวิทย์ นายอำนาจ และ นางมาลีรัตน์ ส่วนผู้ต้องที่เหลือนั้นจะรอส่งตัวในวันที่ 26 พ.ค.นี้
นายสุวัตร กล่าวต่อว่า ในส่วนของผู้ต้องหาทั้ง 8 คนที่เข้ารายงานตัว ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่มีหลักประกัน เพราะชั้นสอบสวนผู้ต้องหาเข้ารายงานตัวโดยตลอด ทั้งนี้ อัยการได้นัดสั่งคดีทั้ง 2 สำนวนในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ เวลา 10.00 น.อย่างไรก็ดีระหว่างนี้ตนในฐานะทนายความ จะได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด พิจารณาสั่งสำนวนอีกครั้งหนึ่งด้วย โดยการร้องขอความเป็นธรรมจะเน้นวัตถุประสงค์การชุมนุมของ พธม. ที่ออกมาต่อสู้ปกป้องรัฐธรรมนูญปี 2550 และการที่ พธม.ยกระดับขับไล่รัฐบาล สืบเนื่องจากกรณีที่ นายนพดล ปัทมะ ตัดสินใจทำจอยส์คอมมูนิเก กับประเทศกัมพูชา เพื่อให้กัมพูชาขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกปราสาทพระวิหารเพียงฝ่ายเดียว ขณะที่เวลานี้เห็นได้แล้วว่า ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิดนายนพดล ว่า มีความผิดพร้อมกับ นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี แต่เนื่องจาก นายสมัคร เสียชีวิตแล้วเหตุแห่งความตายจึงทำให้คดีอาญาระงับไป ซึ่งการร้องขอความเป็นธรรม จะเน้นเรื่องการปกป้องรัฐธรรมนูญ และดินแดน โดยเราจะใช้กฎหมายมหาชนสู้ และจะให้มีการสอบสวนเพิ่มเติมพยานในส่วนนักวิชาการ และผู้ที่ร่วมชุมนุม เพราะความคดีอาญา จะมีความผิดหรือไม่ อยู่ที่เจตนา ขณะที่อัยการ ได้บอกแล้วว่า การพิจารณาจะต้องมองทั้งสำนวน สำหรับสำนวนคดีที่ถูกกล่าวปิดล้อมสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมืองนั้น จะนัดส่งตัวในวันที่ 10 พ.ค.นี้ ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 114 คนจะมาครบหรือไม่ ยังไม่สามารถตอบได้
เมื่อถามถึงคดีที่ 9 แกนนำและแนวร่วมพันธมิตรฯ ถูกกล่าวหามั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คน ขึ้นไปก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง และยุยงให้ประชาชนละเมิดกฎหมายแผ่นดิน โดยเมื่อเจ้าหน้าที่สั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116, 215 และ 216 สืบเนื่องจากกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ ได้บุกเข้าไปชุมนุมต่อเนื่องในทำเนียบรัฐบาล เป็นเวลาถึง 193 วัน เมื่อปี 2551 ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาสั่งคดีด้วยนั้น นายสุวัตร ทนายความ กล่าวว่า อัยการยังไม่มีความเห็น เพราะได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมเช่นกัน
วานนี้(28 เม.ย.)ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก พ.ต.อ.วีรวิทย์ จันทร์จำเริญ รองผบก.น.1 ในฐานะพนักงานสอบสวน บช.น.พร้อมคณะนำ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงาน พธม.นายอมร อมรรัตนานนท์ นายสาวิทย์ แก้วหวาน นายอำนาจ พละมี และ นางมาลีรัตน์ แก้วก่า เข้าพบนายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา เพื่อส่งมอบสำนวนพยานหลักฐาน และความเห็นสมควรสั่งฟ้อง 2 สำนวนที่กลุ่มพันธมิตรฯ ชุมนุมล้อมอาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ต.ค.51 และสำนวนคดีที่ชุมนุมปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล
ภายหลัง นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนนัดส่งตัวผู้ต้องหาสำนวนบุกทำเนียบและทำให้เสียทรัพย์ ที่มี นายพงษ์ศักดิ์ ศิริวงศ์ ผู้รับมอบอำนาจเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวหา พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, นายสนธิ ลิ้มทองกุล, นายสมศักดิ์ โกศัยสุข, นายพิภพ ธงไชย, นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำ พธม.และนายสุริยะใส ผู้ประสานงาน พธม.ขณะที่ นายสนธิ ไม่ได้เดินทางมา โดยขอเลื่อนนัดเข้าพบไปเป็นวันที่ 26 พ.ค.นี้ เนื่องจากเหตุไม่สบาย และห่วงปัญหาเรื่องความปลอดภัยด้วย
ส่วนสำนวนที่กล่าวหาบุกล้อมอาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ต.ค.51 นั้น มีผู้ต้องหารวม 24 คน ซึ่งพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง 3 คน ประกอบด้วย น.ส.กมลพร วรกุล ผู้ดำเนินรายการผู้จัดการเล่าข่าวเช้าบนเวทีปราศรัย พธม.นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย และรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ นายสาทิตย์ ปิตุเตชะ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ จึงเหลือผู้ต้องหาที่มีความเห็นสมควรสั่งฟ้องเพียง 21 คน ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ส่งตัวมาให้อัยการแล้ว 2 คน คือ นายสมบูรณ์ ทองบุราณ อดีต ส.ว.และ นายสุชาติ ศรีสังข์ อดีต ส.ส.มหาสารคาม ขณะที่ พนักงานสอบสวนได้นัดนำส่งผู้ต้องหาให้อัยการอีก 8 คน คือ นายพิภพ นายสมเกียรติ นายสมศักดิ์ นายสุริยะใส นายอมร นายสาวิทย์ นายอำนาจ และ นางมาลีรัตน์ ส่วนผู้ต้องที่เหลือนั้นจะรอส่งตัวในวันที่ 26 พ.ค.นี้
นายสุวัตร กล่าวต่อว่า ในส่วนของผู้ต้องหาทั้ง 8 คนที่เข้ารายงานตัว ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่มีหลักประกัน เพราะชั้นสอบสวนผู้ต้องหาเข้ารายงานตัวโดยตลอด ทั้งนี้ อัยการได้นัดสั่งคดีทั้ง 2 สำนวนในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ เวลา 10.00 น.อย่างไรก็ดีระหว่างนี้ตนในฐานะทนายความ จะได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด พิจารณาสั่งสำนวนอีกครั้งหนึ่งด้วย โดยการร้องขอความเป็นธรรมจะเน้นวัตถุประสงค์การชุมนุมของ พธม. ที่ออกมาต่อสู้ปกป้องรัฐธรรมนูญปี 2550 และการที่ พธม.ยกระดับขับไล่รัฐบาล สืบเนื่องจากกรณีที่ นายนพดล ปัทมะ ตัดสินใจทำจอยส์คอมมูนิเก กับประเทศกัมพูชา เพื่อให้กัมพูชาขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกปราสาทพระวิหารเพียงฝ่ายเดียว ขณะที่เวลานี้เห็นได้แล้วว่า ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิดนายนพดล ว่า มีความผิดพร้อมกับ นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี แต่เนื่องจาก นายสมัคร เสียชีวิตแล้วเหตุแห่งความตายจึงทำให้คดีอาญาระงับไป ซึ่งการร้องขอความเป็นธรรม จะเน้นเรื่องการปกป้องรัฐธรรมนูญ และดินแดน โดยเราจะใช้กฎหมายมหาชนสู้ และจะให้มีการสอบสวนเพิ่มเติมพยานในส่วนนักวิชาการ และผู้ที่ร่วมชุมนุม เพราะความคดีอาญา จะมีความผิดหรือไม่ อยู่ที่เจตนา ขณะที่อัยการ ได้บอกแล้วว่า การพิจารณาจะต้องมองทั้งสำนวน สำหรับสำนวนคดีที่ถูกกล่าวปิดล้อมสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมืองนั้น จะนัดส่งตัวในวันที่ 10 พ.ค.นี้ ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 114 คนจะมาครบหรือไม่ ยังไม่สามารถตอบได้
เมื่อถามถึงคดีที่ 9 แกนนำและแนวร่วมพันธมิตรฯ ถูกกล่าวหามั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คน ขึ้นไปก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง และยุยงให้ประชาชนละเมิดกฎหมายแผ่นดิน โดยเมื่อเจ้าหน้าที่สั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116, 215 และ 216 สืบเนื่องจากกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ ได้บุกเข้าไปชุมนุมต่อเนื่องในทำเนียบรัฐบาล เป็นเวลาถึง 193 วัน เมื่อปี 2551 ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาสั่งคดีด้วยนั้น นายสุวัตร ทนายความ กล่าวว่า อัยการยังไม่มีความเห็น เพราะได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมเช่นกัน