xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิ” เย้ย "คนตัวใหญ่ใจปลาซิว" -ย้ำสู้เพื่อหลักการ พวกเดือดร้อนจึงรุมกัด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สนธิ”เผยหลัง “เจิมศักดิ์”ตั้งทีมทนายขู่ฟ้อง ทำให้นึกถึงคนตัวใหญ่แต่ใจปลาซิว พอโดนตอบโต้แล้วร้องเหมือนหมา ระบุการทำศึกสงครามต้องแก้ปัญหาทีละเปลาะ ชุมนุมเที่ยวนี้ ต้องไล่พวกห้อยโหนออกไป คัดกรองคนของเราเอง เคลียร์กับพรรคการเมืองใหม่ ย้ำพันธมิตรฯ สู้ด้วยหลักการและข้อมูล แทงใจดำ"มาร์ค-ปชป."จึงพาพวกที่เดือดร้อนมารุมกัด

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง "รวมพลัง ปกป้องแผ่นดิน" ปราศรัยโดย "นายสนธิ ลิ้มทองกุล"  

เมื่อเวลา 21.15 น.วันที่ 28 เม.ย. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวปราศรัยที่เวทีสะพานมัฆวานรังสรรค์ ระหว่างการชุมนุม “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ว่า กรณีที่นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ตั้งทีมทนายความมาจับตาดูว่าถ้าใครพูดถึงเขาในทางที่ไม่ดีก็จะฟ้องนั้น ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า ตัวเท่าควายแต่ใจปลาซิว แต่ไม่ได้หมายถึงใคร และทำให้นึกถึงสมัยที่ตนอยู่โรงเรียนประจำ คือ อัสสัมชัญ ศรีราชา ที่สอนให้รู้จักรักเพื่อน รักสถาบัน ตอนนั้นตนต้องถูกแทงเพราะเข้าไปช่วยเพื่อนที่ไปจีบลูกสาวเจ้าของโต๊ะสนุ้กจนต้องนอนโรงพยาบาลอยู่ 2-3 เดือน เมื่อออกมาแล้วยังต้องถูกทำโทษด้วยการตีที่ขา จนต้องให้เพื่อนประคองเข้าห้องน้ำอยู่ถึง 4 สัปดาห์ แต่ขณะเดียวกันตนก็เคยเห็นเด็กโรงเรียนประจำบางคนที่ตัวโตๆ เที่ยวไปรังแกเด็กตัวเล็กๆ แต่พอโดนเด็กตัวเล็กๆ ชกเอา ก็ไปฟ้องครู คนพวกนี้ตัวโตเสียเปล่า แต่ใจปลาซิว เหมือนเล่นสาดน้ำกัน แต่พอคนอื่นจะสาดกลับ ก็ไปบอกให้ตำรวจมาจับ ส่วนคนที่เป็นเสือนั้น เมื่อเจ็บจะไม่ร้อง แต่คนพวกนี้พอเจ็บแล้วก็ร้องเหมือนสุนัข เราอยู่เฉยๆ ก็มารำดาบฉวัดเฉวียนใส่เรา พอเราฟันกลับก็ร้องเหมือนหมาขี้เรื้อน

นายสนธิกล่าวต่อว่า ไม่มีการชุมนุมครั้งไหนที่วุ่นวายเท่ากับครั้งนี้ เพราะข้อแรก มีพวกห้อยโหนมาด่าเรา ต้องใช้เวลาอธิบายให้ฟังว่าถ้าจะห้อยโหนก็ให้ไปฝั่งโน้น พวกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปัตย์จะไปไหนก็ไป พอหมดเรื่องนั้น ก็ต้องมากรองคนของเราอีก ซึ่งมันดี แสดงว่าพวกเราไม่ยึดติดตัวบุคคล แต่เอาหลักการเข้าว่า

นายสนธิ กล่าวต่อว่า คนที่บอกว่า ตนกับ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง จะทะเลาะกันนั้น โง่บัดซบ แต่ถ้าบอกว่าถ้าวันหนึ่งตนเปลี่ยนจุดยืน หรือ พล.ต.จำลองเปลี่ยนจุดยืน ก็จะแตกแยกกัน อย่างนั้นอาจจะถูก แต่ไม่มีวันที่ตนกับ พล.ต.จำลองจะแตกแยกกัน เพราะ พล.ต.จำลองทำดีทุกอย่าง เพราะไม่ได้ทำเพื่อส่วนตัว มีแต่เรื่องส่วนรวมทั้งสิ้น เกิดอีก 5 ชาติ ก็ไม่รู้ว่าจะหาคนอย่าง พล.ต.จำลองได้หรือไม่

“ผมบอกพี่ลองว่า ถ้าวันใดผมเปลี่ยนจุดยืนไปเป็นคนชั่ว ไม่ต้องคบผมหรอก พี่ลองก็รู้ตัว พี่พิภพ ธงไชย อาจารย์สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ก็รู้ ตัว พี่น้องพันธมิตรฯ ที่สนับสนุนเราก็เพราะรู้จักผิดชอบชั่วดี ไม่ใช่เพราะเป็นสนธิ จำลอง สมเกียรติ พิภพ เหมือนเราสู้กับทักษิณ เราสู้ในหลักการ เพราะทักษิณเป็นตัวละครหนึ่ง วันนี้อภิสิทธิ์ทำเหมือนทักษิณ เราก็ต้องสู้กับอภิสิทธิ์ เราถึงไม่ติดใจ ไม่สนใจคำพูดที่ว่า ไม่เลือกเราเขามาแน่”

นายสนธิ กล่าวต่อว่า ส่วนคนที่ขึ้นพูดบนเวทีเราก็ค่อยๆ กรองออกไป จึงมีคนที่ทำตัวเป็นผู้รู้ดีมากล่าวหาว่า เวทีนี้พูดหยาบคาย เราสู้เพื่อดินแดนอยู่ดีๆ แต่กลับมีคนรับงานมาด่าเรา เราจึงต้องสวนกลับ เราสู้เรื่องดินแดน แต่ก็จำเป็นต้องเล่าเรื่องการขี้โกงฉ้อราษฎร์บังหลวงของรัฐบาลนี้ เพื่อให้เห็นว่านอกจากโกงชาติแล้วยังขายแผ่นดินอีก ไม่ใช่มาสู้เพื่อนายสนธิ หรือเพื่อให้ พล.ต.จำลองเป็นพลโท พอเรามาสู้เรื่องนี้ พูดไปพูดมา มันตำใจนายอภิสิทธิ์ และพลพรรคประชาธิปัตย์ เพราะสิ่งที่เราพูดเป็นความจริง เขาเถียงไม่ได้ ก็มาหาว่าเราใส่สีตีไข่ แต่ไม่บอกว่าใส่สีตีไข่อย่างไร แค่พูดกว้างๆ เหมือนสมัยที่เราสู้กับทักษิณ ที่ฝ่ายนั้นชอบพูดว่า ตนไปขอผลประโยชน์จากทักษิณแล้วไม่ได้จึงทะเลาะกัน พอนายอภิสิทธิ์ถูกนายประพันธ์ คูณมี นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย โจมตีหนักๆ ก็มีคนมาบอกว่าชกข้ามรุ่น แล้วนายอภิสิทธิ์รุ่นไหนหรือ

นายสนธิ กล่าวว่า ขอให้มาดูที่เวทีนี้ ไม่เคยพูดแค่กว้างๆ หรือใส่สีตีไข่ เพราะแต่ละเรื่องที่เอาออกมามีรายละเอียด มีการยกตัวอย่างให้เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้นำไปสู่การเสียดินแดนอย่างไร และทำให้เห็นว่านายอภิสิทธิ์ชอบโกหกสร้างภาพ อย่างตอนที่ไปเยี่ยมชาวบ้านที่บุรีรัมย์ หรือที่ไปเยี่ยมชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมในภาคใต้ พอพันธมิตรฯ และผู้ปราศรัยเอาเรื่องพวกนี้มาพูด พวกนั้นก็ทนไม่ไหว ไม่รู้จะเอาใครมาพูดตอบโต้ ก็ปล่อยข่าวว่าตนไปรับเงินทักษิณที่คูเวต แต่พี่น้องก็ไม่เชื่อ วันดีคืนดีก็ว่าบอกว่า สนธินั่งเครื่องบินลำเดียวกับคุณหญิงอ้อไปฮ่องกง แล้วใครจะไปรู้ว่าผู้โดยสารบนเครื่อง 300 กว่าคนมีคุณหญิงอ้อนั่งไปด้วย และถ้าจะไปพบกันจริงๆ ทำไมจะต้องขึ้นเครื่องลำเดียวกันให้คนสงสัย

นายสนธิ กล่าวอีกว่า การศึกสงครามมันต้องแก้ไปทีละเปลาะ เสร็จจากเรื่องนั้นแล้ว ก็มีปัญหาเปลาะใหม่เรื่องพรรคการเมืองใหม่มาอีก แต่มันเป็นเรื่องศิริมงคล แสดงว่าเราทำอะไรถูก ไม่เช่นนั้นพวกมันไม่รุมเราเหมือนหมาที่รุมกัดเรา แต่จุดยืนเราต้องมั่นคงแน่วแน่ และเดินไปในแนวทางที่ถูกต้อง พวกนั้นมันถึงเดือดร้อน เพราะรู้ว่าถ้าเราอยู่ต่อไปพวกมันต้องตายแน่ๆ

กำลังโหลดความคิดเห็น