กก.บห.การเมืองใหม่ แจงพรรคยังไม่มีมติส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง ชี้เมื่อ 22 มี.ค.แค่ซาวเสียงเบื้องต้นไม่ใช่มติพรรค “สมศักดิ์” ให้ข้อมูลคลาดเคลื่อน ยันยังเคารพเสียงสมาชิกส่วนใหญ่ พร้อมวอนผู้ใหญ่พรรคและเวที พธม.คุยกันด้วยความเข้าใจไม่ใช้อารมณ์โต้กันผ่านสื่อ หวั่นบั่นทอนพลังมวลชนทั้ง 2 ฝ่าย
วันนี้ (2 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายทศพล แก้วทิมา กรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่ ถึงกรณีที่นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าทางพรรคได้มีมติในการส่งผู้สมัครไปแล้วเมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมานั้นว่า โดยส่วนตัวมองว่าข้อมูลของนายสมศักดิ์ และเวทีพันธมิตรฯ ที่ให้กับสังคม และมวลชนสมาชิกนั้นยังไม่ครบถ้วน ซึ่งหากสมาชิกได้รับข้อมูลครบทั้ง 2 ด้านก็จะทำให้สามารถตัดสินใจไปในทิศทางหนึ่งทิศทางหนึ่งทิศทางใดได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ตนเป็นห่วงมากที่สุด คือ การที่กรรมการบริหารพรรคยังไม่ได้ตัดสินใจมีมติว่าจะส่งตัวผู้สมัครหรือไม่ แต่กลับมีการนำไปขยายผลจนเกิดความเข้าใจผิดกัน ซึ่งตนในฐานะกรรมการบริหารพรรคขอยืนยันว่า การหารือเมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่นายสมศักดิ์กล่าวถึงนั้นเป็นเพียงการหารือร่วมกันระหว่างกรรมการบริหารพรรคกับตัวแทนศูนย์สาขาพรรค โดยมีข้อยุติว่าจะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง แต่ได้มีข้อแม้ว่าต้องรอฟังเสียงของสมาชิกในการประชุมใหญ่เมื่อวันที่ 24 เม.ย.ก่อน จึงจะนำเข้ามาสู่การประชุมของกรรมการบริหารพรรค เพื่อออกมาเป็นมติพรรคอีกครั้ง
“ข้อสรุปในวันที่ 22 มี.ค.ไม่ได้เป็นลักษณะที่ออกมาเป็นมติของพรรคหรือกรรมการบริหาร ที่สามารถจะแจ้งต่อ กกต. หรือแสดงความชัดเจนกับสังคมได้ เป็นเพียงการหารือหรือซาวเสียงเบื้องต้นกันเท่านั้น ซึ่งข้อมูลตรงนี้นายสมศักดิ์ ก็ไม่ได้ชี้แจงกับสังคม” นายทศพลกล่าว
นายทศพลกล่าวอีกว่า โดยหลังจากการประชุมใหญ่เมื่อวันที่ 24 เม.ย. ซึ่งปรากฏว่าสมาชิกพรรคส่วนใหญ่ถึงกว่า 80 เปอร์เซนต์แสดงความเห็นว่าพรรคไม่ควรส่งผู้สมัคร โดยส่วนตัวคิดว่าเมื่อเสียงส่วนใหญ่เป็นเช่นนี้แล้ว ก็ไม่ควรที่จะฝืนมติมหาชน เพราะพรรคเราเกิดจากมหาชน ซึ่งก็ตรงกับกรรมการบริหารพรรคส่วนใหญ่ที่เห็นไปในแนวทางเดียวกันนี้ว่า พรรคการเมืองใหม่ไม่ควรส่งตัวผู้สมัคร ซึ่งก็ได้มีการถกเถียงพูดจากันในวันที่ 29 เม.ย. แต่ก็ยังไม่สามารถออกมาเป็นมติได้ อย่างไรก็ตามหากยึดตามหลักประชาธิปไตยภายในพรรคเอง แม้จะมีความเห็นที่ไม่ตรงกัน ก็ควรที่จะเคารพการตัดสินใจของเสียงส่วนใหญ่ เพื่อที่จะทำให้ทุกอย่าง และจบอย่างสวยงามทั้ง 2 ฝ่าย โดยที่ยังสามารถรักษาพรรคและมวลชนไว้ได้ จึงไม่ควรเอาประเด็นนี้มาสร้างสภาวะความไม่พอใจให้แก่สมาชิกพรรค เพราะการอยู่ร่วมกันในฐานะพี่น้องพันธมิตรฯ มีความยิ่งใหญ่มากกว่า
ขณะที่ พ.อ.ไพโรจน์ นิยมพันธุ์ กรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่ เปิดเผยว่า การที่นายสมศักดิ์ไประบุว่าพรรคมีมติที่จะส่งผู้สมัครแล้วนั้น ตนเห็นว่าเป็นความคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง เพราะเมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่คุยกันนั้น ตนก็ยืนยันในที่ประชุมว่ายังไม่สามารถที่จะลงมติได้ และกรรมการบริหารพรรคทุกคนก็สงวนสิทธิการออกความเห็น เพื่อที่จะรอฟังเสียงสมาชิกพรรคในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2554 ของพรรค เมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมาเสียก่อน โดยหลังจากได้ฟังเสียงสมาชิกที่ส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้พรรคส่งผู้สมัครแล้ว ในความเป็นจริงแทบที่จะไม่ต้องมาลงมติกันอีกครั้งเลย แต่ด้วยตัวบทกฎหมาย หรือ พ.ร.บ.พรรคการเมือง จึงต้องจัดการประชุมให้ถูกต้องตามขั้นตอนเมื่อวันที่ 29 เม.ย. บรรยากาศวันนั้นก็ได้มีการถกเถียงกันด้วยเหตุและผลของทั้ง 2 ฝ่าย แต่ก็ไม่สามารถลงมติได้ตามที่เป็นข่าวไปแล้ว อย่างไรก็ตามจากที่ได้พูดคุยกันก็ปรากฏว่าในวันนั้นกรรมการบริหารพรรค 11 จาก 18 คนในที่ประชุมจะลงมติให้พรรคไม่ส่งผู้สมัคร ส่วนอีก 7 คนก็ไปอีกทิศทางหนึ่ง แต่เมื่อลงมติไม่ได้ นายสมศักดิ์ก็สั่งปิดการประชุม แล้วแจ้งต่อที่ประชุมว่าอีก 2-3 วันจะนัดหมายกันใหม่ โดยไม่บอกใคร แต่ถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อมาแต่อย่างใด
“เมื่อพรรคไม่ชัดเจนเช่นนี้ ตนเกรงว่าจะบั่นทอนพลังของทั้งพรรคและมวลชนพี่น้องพันธมิตรฯ จึงอยากให้ทั้งผู้ใหญ่ในพรรคและที่เวทีพูดคุยกันโดยความเข้าใจ ไม่ใช้อารมณ์ หรือใช้วิธีการตอบโต้กันทางสื่อ ซึ่งถือว่าไม่ได้ประโยชน์ ควรหาเวลามานั่งคุยกันมากกว่า” พ.อ.ไพโรจน์กล่าว