ASTVผู้จัดการรายวัน- ไม่ชัด ศาลรธน.พิจารณากม.ลูก 3 ฉบับเสร็จเมื่อไหร่ “มาร์ค”ย้ำยุบสภาตามกรอบเวลาเดิม ทูลเกล้าฯยุบสภาไม่เกินสัปดาห์แรกของเดือนนี้ ยืนยันทำตามพูด พร้อมแถลงยุบสภาด้วยตัวเองก่อนไปอินโดฯ วันนี้ เผยคืนที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมาโปรดเกล้าฯแต่งตั้งประธานวุฒิสภาแล้ว ด้านพธม.เบรกเร่งทูลเกล้าฯยุบสภา ลั่นไม่เหมาะ อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สมัยชวน หลีกภัย ออกโรงค้านยุบสภา ด้าน “สุริยะใส” ขอรอดูท่าทีก่อนตอบโต้กรณี “สมศักดิ์” เตรียมฟ้อง หลังแถลงข่าว ก.ม.ม.ไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง อ้างมีคนสมคบกับกรรมการบางคนทำลายพรรคหลังครอบงำไม่สำเร็จ
วานนี้ (5 พ.ค.) นายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า ตามที่มติตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้รับพิจารณาร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง 3 ฉบับ และให้นายกรัฐมนตรี กกต. และประธานรัฐสภา แสดงความเห็นเพิ่มเติมภายในวันที่ 6 พฤษภาคม นั้น แม้ว่าทั้ง 3 หน่วยงานจะเสนอหรือไม่เสนอความเห็นมา ทางตุลาการศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่สามารถพิจารณาและวินิจฉัยกฎหมายลูกทั้ง 3 ฉบับ ได้ทันกำหนดเวลาวันที่ 6 พฤษภาคมนี้ อย่างแน่นอน เนื่องจากศาลตัองพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อป้องกันความผิดพลาดอันอาจจะเกิดขึ้นภายหลัง เพราะหากรีบร้อนพิจารณา อาจเกิดความเสียหายขึ้นได้
**ทูลเกล้าฯไม่เกินสัปดาห์แรกเดือนนี้
เมื่อเวลา 09.00 น.ที่บ้านพักนายกรัฐมนตรี สุขุมวิท 31 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยังคงยืนยันว่า ยังไม่มีการทูลเกล้าฯ พระราชกฤษฎีกายุบสภา แต่เดี๋ยวจะมีความชัดเจนเอง ตนพูดอะไรไว้ ก็ดำเนินการตามนั้น และตนจะแถลงเรื่องยุบสภาด้วยตัวเองก่อนเดินทางไปประเทศอินโดนีเซีย ในวันศุกร์ที่ 6 พ.ค.นี้ และจะให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปด้วย ซึ่งการแถลงข่าวจะใช้เวลาที่เหมาะสม
**“หมายถึงทุกเรื่องหรือเปล่า
ส่วนอาการประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทีมแพทย์ประจำพระองค์ขอให้ทรงงดภารกิจนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กำลังตรวจสอบเป็นการภายในว่าเป็นอย่างไร โดยแถลงการณ์และที่ได้สอบถามไป พระพลานามัยเป็นไปในทางที่ดีขึ้น หลังจากที่ได้รับการรักษา ส่วนที่แพทย์ประจำพระองค์ขอให้ท่านทรงงดภารกิจนั้น ก็จะสอบถามเหมือนกันว่า “หมายถึงทุกเรื่องหรือเปล่า” เพราะเห็นว่า เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา มีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประธานวุฒิสภา
ส่วนที่คณะกรรมการการเลือกตั้งระบุว่า ถ้ามีการเลื่อนการยุบสภาออกไปไม่มาก ก็จะไม่กระทบต่อตารางการเลือกตั้งนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถูกต้อง เดี๋ยวมันจะชัดเจนของมันเอง
**ชี้ช่องเคลียร์ป้ายกระทรวงช่วงเลือกตั้ง
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า มีการโยกย้ายนายอำเภอเพื่อรองรับการเลือกตั้งนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องไปสอบถามเจ้ากระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นอำนาจของปลัดมหาดไทย ก็ต้องดูเหตุผล และไม่รู้ว่า เป็นการดำเนินกาภายหลังศาลปกครองมีการวินิจฉัยหรือไม่ เมื่อถามว่าหลังจากที่ได้วางแนวทางปฏิบัติให้กับครม.ช่วงยุบสภาแล้ว รัฐมนตรีแต่ละคนควรปฏิบัติอย่างไรบ้างนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มีมติครม. 2 ครั้ง ที่จะเป็นตัวกำกับในความเป็นกลางของข้าราชการ และตัวนักการเมืองก็ได้ซักซ้อมแนวปฏิบัติของกกต.แล้วว่า จะต้องเป็นอย่างไร บางเรื่องซึ่งอาจจะยังไม่มีความชัดเจน ก้ำกึ่ง ก็ให้แสดงความบริสุทธิ์ใจเสีย อย่าง เช่นกรณีเรื่องป้ายโครงการต่างๆ
**เบรก“มาร์ค”เร่งทูลเกล้าฯยุบสภาไม่เหมาะ
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในการแถลงข่าวประจำวันต่อสื่อมวลชนถึงกรณีที่สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ เรื่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯมาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบับที่ 38 ซึ่งระบุว่าคณะแพทย์ฯ ได้กราบบังคมทูลให้งดพระราชกิจสักระยะหนึ่ง ว่า เมื่อเป็นเช่นนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็ไม่ควรยึดวันยุบสภาเดิมที่ตัวเองได้ประกาศ เพราะจะไม่เหมาะสม แต่ควรชี้ว่าวันยุบสภาให้เป็นไปตามพระราชอำนาจ
**สุเทพเชื่ออีก 1-2 วัน นายกฯยื่นยุบสภา
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี จะเริ่มขั้นตอนของการยุบสภา ตามที่ได้กำหนดไว้ โดยเริ่มขั้นตอนการนำความร่างพระราชกฤษฎีกา ประกาศยุบสภา ซึ่งทูลเกล้าทูลกระหม่อม ภายใน 1-2 วันนี้ แต่คิดว่าการเลือกตั้งจะไม่ทัน วันที่ 26 มิ.ย. เพราะคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ต้องใช้เวลาในการเตรียมการ น่าจะจัดเลือกตั้งได้ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม
**พท.หวั่นแรงหนุนพรรคร่วมฯ กดดัน
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทยเองก็ต้องทำการบ้านอย่างหนัก เนืองจากยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องวันยุบสภา รวมทั้งยังมีแรงสนับสนุนของนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ต้องการให้เลื่อนวันยุบสภาออกไปอีก 1 สัปดาห์
**สุรพงษ์ชี้เลื่อนยุบสภา“มาร์ค” เสียคำพูด
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี พูดทำนองว่า สามารถเลื่อนการยุบสภาออกไปจากช่วงสัปดาห์แรกของเดือนพ.ค.นั้น ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐนมตรี ยังยืนยันที่จะยุบสภาในช่วงสัปดาห์แรก แต่หากเป็นไปตามที่นายบรรหารและนายสุเทพกล่าวนั้นนายกฯอาจจะเสียหายที่ผิดคำพูด ทำให้สังคมยิ่งจับตาดูการบริหารงานของรัฐบาลมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะที่ผ่านมาครม.เทกระจาดงบประมาณนับแสนล้านบาท
**เด็กปชป.จี้ กกต.คุมเสื้อแดง
นายเทพไท เสนพงษ์ โฆษกประจำหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณี นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ระบุ นปช.รับได้กับการยุบสภาไม่เกินวันที่ 10 พ.ค.นี้ ว่า กลุ่ม นปช.ไม่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง เพราะไม่อยู่ในฐานะพรรคการเมือง แต่เป็นเครื่องมือให้กับนักการเมืองบางพรรค และการที่ นปช.ประกาศชุมนุมในวันที่ 19 พ.ค.นี้ โดยอ้างว่าครบรอบ 1 ปี เหตุการณ์สลายการชุมนุม อยากถามว่าถ้ามีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง แล้วกลุ่ม นปช.สามารถจัดการชุมนุมทางการเมืองได้หรือไม่ เพราะการชุมนุมดังกล่าวมีเจตนาหวังผลทางการเมืองแอบแฝง ทั้งนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องตรวจสอบในพฤติกรรมดังกล่าว เช่นเดียวกับกรณีการขัดขวางโห่ไล่ผู้สมัครในช่วงหาเสียงที่อาจจะเกิดขึ้น
**นักวิชาการช่วยชาติ ค้านยุบสภา
นายสุรัศม์พรรณ ดุลยจินดา ประธานชมรมนักวิชการช่วยชาติ และอดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (ชวน หลีกภัย) ให้ความเห็นว่า 3เหตุผลที่รัฐบาลสามารถยุบสภาได้ขณะนี้ น่าจะประกอบด้วย เหตุผลที่ 1.รัฐบาลมีการขัดแย้งกับสภา แต่ขณะนี้ก็ไม่เกิดขึ้นเพราะสภาฯ ผ่านทั้งเรื่องงบประมาณ หรือนโยบายให้กับทุกฝ่ายได้สมประโยชน์ เหตุผลที่ 2. กรณีเป็นรัฐบาลผสม แต่ในการปฏิบัติงานราชการ ปรากฏว่านายกฯ หรือรัฐมนตรี ก็ไม่ได้ไปขัดแย้งกับพรรคร่วมอย่างร้ายแรง ปัญหาการขัดแย้ง ระหว่างนายกฯ และพรรคร่วมรัฐบาลจนทำงานต่อไปไม่ได้ จึงยังไม่เป็นเหตุผลสำคัญที่นายกฯ ที่จะขอยุบสภาได้
“แต่การทำงานของรัฐบาล นำโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ชุดนี้จะครบ 2 ปีนี้ ทำงานไปได้ด้วยดี ราบรื่นตามสมควรตลอดมา ในบางครั้งแม้กาปรระแฏิบัติจะไม่เหมาะสม นายกฯก็สั่งแก้ไข พรรคร่วมก็เชื่อฟังทุกประการ ไม่ได้โต้แย้งแต่อย่างใด และไม่มีการขัดแย้งกับพรรคร่วมรัฐบาล”
เหตุผลที่ 3. สุดท้าย เมื่อรัฐบาลได้เปรียบและอยากชิงความได้เปรียบ โดยเพิ่มที่นั่ง ส.ส. จึงสั่งยุบสภาเพื่อให้ประชาชนเลือกตั้งใหม่ ก็ถือเป็นวิธีประชาธิปไตยอย่างหนึ่งที่ฝ่ายรัฐบาลอาจ แต่มีเหตุผลที่จะทำได้ คือสภาวะบ้านเมืองต้องสงบสุข
นายสุรัศม์พรรณ กล่าวว่า แต่ปรากฏว่า ขณะนี้ประเทศไทยของเราได้มีวิกฤติร้ายแรงต่างๆมาก เช่น ความแตกต่างทางการเมือง วิกฤตน้ำท่วมทางภาคใต้หลายจังหวัดอย่างร้ายแรง ประชาชนเดือดร้อนไปทั่ว ปัญหาผู้ก่อการร้าย 4 จังหวัดภาคใต้ เพิ่มความรุนแรง และปัญหาขัดแย้งและรบกับเขมร ที่เป็นปัญหาใหญ่มาก ปัญหาค่าครองชีพสูงขึ้น ประชาชนเดือดร้อนมาก ปัญหาก่อการร้ายภาคใต้ กำลังรุนแรงขึ้นมาก
“ถ้ามีการยุบสภาซ้ำเดิมไปอีก ไม่มีสภา ไม่มีรัฐบาลชาติ ปัญหาที่ยิ่งยุ่งยากมากขึ้น จากเหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้จึงเป็นการไม่สมควร และไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ที่จะมีการยุบสภาโดยด่วน ภายในวันที่ 7 พ.ค.นี้ ดังที่มีการแถลงไว้ กรรมการฯ เห็นว่า ไม่สมควรที่จะยุบสภา ตามเหตุ ข้อ 3. นี้เด็ดขาด ช่วยคิด ช่วยทำ เพื่อให้สภายุคนี้และรัฐบาลชุดนี้ทำงานต่อไปจนถึงครบวาระ 22 ธันวาคม 2554 และเลือกตั้งใหม่ หลัง 22 ธันวาคม 2554 ระหว่างนี้ก็ช่วยกันแก้ไขปัญหาต่างๆ ของชาติต่อไป และช่วงนี้ จนถึง 5 ธันวาคม 2554 คณะรัฐบาล , ส.ส. , ทหาร , ตำรวจ , ข้าราชการ และหน่วยงานต่างๆ คนไทยทุกคน ช่วยกัน ร่วมกัน เฉลิมฉลองแก่พ่อหลวงของเราในวโรกาสเฉลิมพระชนม์พรรษา 84 พรรษา และทรงครองราชย์ 65 ปี”
**พธม.จับมือ “เพื่อฟ้าดิน”โหวตโน
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงการรณรงค์ให้ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง แต่กาในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน หรือ โหวตโน ว่า พันธมิตรฯและภาคประชาชนจะร่วมมือกับพรรคเพื่อฟ้าดิน ที่จะส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งในครั้งนี้ ซึ่งเป็นผลบังคับตามกฎหมาย หลังจากที่ตั้งพรรคมาแล้ว ไม่ได้ส่งผู้สมัคร ส.ส.เลย โดยแม้ว่าพรรคเพื่อฟ้าดิน จะส่งผู้สมัคร แต่ก็จะร่วมรณรงค์โหวตโนกับเรา เพื่อแสดงให้เห็นว่าการเป็นพรรคการเมืองไม่จำเป็นต้องมี ส.ส. หรือหวังในตำแหน่งใดๆ แต่สามารถทำประโยชน์ในส่วนอื่นๆได้ ทั้งนี้จะมีการเปิดแคมเปญรณรงค์โหวตโน ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ในโอกาสต่อไปอีกด้วย
***“สมศักดิ์” ประกาศฟ้อง “ยะใส”
นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ ได้ประกาศคำแถลงผ่านทางหน้าเฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ว่า ตามที่ นายสุริยะใส กตะศิลา แถลงข่าวว่าเสียงส่วนมากของกรรมการ (ของพรรคการเมืองใหม่) ไม่ส่งผู้สมัครนั้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องตามข้อบังคับและกฎหมาย และไม่สร้างความสับสนให้กับสมาชิกและประชาชน โดยได้อธิบายข้อเท็จจริงไว้ว่า 1. การกระทำดังกล่าวเป็นการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎข้อบังคับและกฎหมายประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550 มาตรา 38 2. การดำเนินการของพรรคการเมือง ต้องเป็นไปตามเจตจำนงของมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550 กล่าวคือการจัดตั้งพรรคการเมือง มีเจตจำนง เพื่อส่งผู้สมัครเข้ารับการเลือกตั้ง 3. การพิจารณาจะส่งหรือไม่ส่งผู้สมัคร ต้องพิจารณาเป็นกรณีๆ ไปตามที่การประชุมใหญ่ วิสามัญสาขาพรรค หรือศูนย์ประสานงานพรรค แล้วแต่กรณีเสนอมา 4. คำแถลงดังกล่าว เป็นการบิดเบือนเจตจำนงของกฎหมายและนโยบายของพรรค ที่ดำเนินการตามขั้นตอน ตามมติกรรมการบริหาร และกรรมการสาขา กรรมการศูนย์ ฯลฯ ทั่วประเทศมาเป็นเวลาปีเศษ มีคนบางคนสมคบกับกรรมการบางคนได้ร่วมกันทำการกลั่นแกล้งพรรคการเมืองใหม่ และกลั่นแกล้งกรรมการบริหารพรรค ที่ทำงานตามเจตจำนงของกฎหมาย ข้อบังคับ และนโยบายของพรรคอย่างซื่อสัตย์ ทำให้ได้รับความเสียหาย โดยมุ่งประสงค์ครอบงำ “พรรคการเมืองใหม่” เมื่อครอบงำไม่ได้ จึงทำลายพรรค การกระทำดังกล่าว เป็นการฝ่าฝืนวินัย และจรรยาบรรณของสมาชิกพรรค และกรรมการสาขาพรรค (ข้อ 17) ตามข้อบังคับของพรรคการเมืองใหม่ พ.ศ. 2552 ผู้ที่กระทำการดังกล่าวจึงไม่มีสิทธิ์ ไปแถลงในนามของพรรค และยังเป็นการฝ่าฝืน มาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550 พรรคจึงขอประกาศว่าจะดำเนินการตามกฎหมายจนถึงที่สุด
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าในกรณีดังกล่าว โดยที่ทางนายสุริยะใสรอดูท่าทีของนายสมศักดิ์ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อจากนี้